สังคม
รวบขบวนการขนยาล็อตใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 1.9 แสนเม็ด ไอซ์อีกกว่า 300 กก.
โดย panisa_p
16 พ.ย. 2564
325 views
พลตำรวจโทสำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือตำรวจ 191 ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายอัจฉริยะ และนาย ลัทธิ สองผู้ต้องหา พร้อมของกลางยาบ้า 196,000 เม็ด ยาไอซ์น้ำหนักรวมกว่า 300 กิโลกรัม พร้อมอาวุธปืน และเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง รวมถึงรถยนต์ จำนวน 10 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คันและโทรศัพท์มือถือ พร้อมสมุดบัญชีธนาคารอีก 2 เล่ม
สำหรับพฤติการณ์ของเครือข่ายนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลระบุว่า ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้รับการประสานข้อมูลจากทางชุดปฏิบัติการด้านยาเสพติดของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ว่า มีกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ภาค 8 มีพฤติกรรมเคลื่อนย้ายยาเสพติดเข้ามาพักในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ก่อนส่งไปในพื้นที่อื่น
ฝ่ายสืบสวนของกองบังคับการ สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ จึงได้มีการขยายผลสืบสวนหาข่าว จนทราบว่ามีกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยพักอาศัยอยู่ในบ้านพักแห่งหนึ่ง ย่านซอยพัฒนาการ จึงเฝ้าสังเกตการณ์ จนพบพฤติกรรมที่เข้าข่ายจึงเข้าตรวจค้น โดยมีผู้ต้องหาทั้งสองอยู่ในบ้านพักดังกล่าว โดยการตรวจค้นบ้านพักดังกล่าวพบ ยาบ้าจำนวน 196,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทางที่อยู่ภายในบ้าน
ขณะที่การตรวจสอบจุดอื่นยังพบยาไอซ์ บรรจุอยู่ในถุงชาสีเขียว จำนวน 100 ถุง น้ำหนักรวมกว่า 100 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นเทียน่า ที่ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการเตรียมจะขับออกจากบ้านพักแต่ถูกเจ้าหน้าที่สกัดและเข้าตรวจค้นจนพบของกลางก่อน นอกจากนี้ภายในบ้านยังพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง
จากการสอบถาม ผู้ต้องหาทั้งสองรายให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการนำยาไอซ์จำนวนกว่า 200 กิโลกรัมซุกซ่อนใส่รถยนต์ แบ่งเป็นสองคัน และนำไปจอดไว้ยังจุดจอดอีกที่หนึ่ง ภายในซอยรามคำแหง
จึงมีการขยายผลไปตรวจสอบและพบรถยนต์ของกลางทั้งสองดังกล่าว ภายในพบยาไอซ์ตามที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ถูกบรรจุอยู่บริเวณช่วงท้ายของตัวรถที่มีการดัดแปลงให้เป็นช่องเก็บของเพื่อหลบเลี่ยงสายตาเจ้าหน้าที่ ขณะที่จากการตรวจสอบรถยนต์ทั้งหมดที่จอดอยู่ในบ้านพักย่านซอยพัฒนาการ พบว่ามีการดัดแปลงเตรียมทำช่องเก็บของลับ บริเวณด้านหลังเบาะที่เชื่อมไปยังช่วงท้ายกระโปรงหลังเกือบทุกคัน
โดยผู้ต้องหาทั้งสองรายรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากชายที่ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุลจริง มีการขับขี่รถขนยาเสพติดมาให้จากจังหวัดหนองคาย โดยว่าจ้างให้ทั้งสองดัดแปลงรถยนต์เพื่อใช้ซุกซ่อนยาเสพติด ให้ค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 150,000 บาทต่อการดัดแปลงขนย้ายยาเสพติดล็อตนี้
ซึ่งทั้งสองจะทำหน้าที่เป็นคนดัดแปลง ซุกซ่อนยาเสพติดและขับรถยนต์ที่บรรจุยาเสพติดแล้วลงไปยังภาคใต้ สำหรับวิธีการส่งยาเสพติดของเครือข่ายนี้จะใช้วิธีการส่งรถยนต์ทั้งคันออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้ปลายทางทำการรื้อยาเสพติดออกจากที่ซ่อนเอง เพื่อให้สะดวกต่อชุดขนย้ายและไม่เป็นที่สังเกตจากทางเจ้าหน้าที่
แท็กที่เกี่ยวข้อง จับยาเสพติด ,ยาบ้า ,ยาไอซ์ ,ขบวนการค้ายา ,ขนยาเสพติด