หนุ่มเมายาอาละวาด ตำรวจเข้าระงับเหตุกลับโดนทำร้ายจนสลบ สุดท้ายเมียตำรวจยิงสวน

เกิดเหตุหนุ่มเมาคลั่งอาละวาด ชาวบ้านโทรแจ้ง สายตรวจมาระงับเหตุกลับถูกทำร้ายจนเจ็บสาหัส สุดท้ายเจอเมียตำรวจยิงสวนเจ็บ

เหตุเกิดเมื่อคืนช่วง 2 ทุ่ม ตำรวจ สภ.นาดี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีให้เข้าระงับเหตุชายเมาสุราก่อความวุ่นวาย เบิ้ลรถมอเตอร์ไซค์เสียงดังและทุบทำลายข้าวของบ้านใกล้เคียง ที่หมู่บ้านทุ่งโพธิ์เมืองทอง ต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี

โดยที่เกิดเหตุพบกองเลือดจำนวนหนึ่ง สอบสวนทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย ทราบชื่อคือ ดาบตำรวจเทพจักร สังข์ศิริ อายุ 53 ปี เจ้าหน้าที่สายตรวจบ้านทุ่งโพธิ์ และนายกิตตินันท์ เฟื่องขจร อายุ 36 ปี ผู้ก่อเหตุ มีบาดแผลถูกยิงที่แผ่นหลัง เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลนาดี

แต่เนื่องจากดาบตำรวจเทพจักร หรือดาบเบิ้ม บาดเจ็บสาหัสจึงส่งต่อโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ส่วนนายกิตตินันท์ ผู้ก่อเหตุ ถูกตำรวจควบคุมอยู่ในห้องฉุกเฉิน ของโรงพยาบาลนาดี ซึ่งยังอยู่ในอาการเอะอะโวยวาย บอกแต่ว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรเลย แค่เมายาเท่านั้น และพยายามขัดขืนจนตำรวจต้องล็อคด้วยกุญแจมือ

สอบถามจากผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า นายกิตตินันท์ เมาแล้วเบิ้ลรถเสียงดัง รวมทั้งเอะอะโวยวายทุบทำลายข้าวของ จึงแจ้งตำรวจมาระงับเหตุ ไม่นานตำรวจสายตรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุพร้อมหญิงคนหนึ่ง คาดว่าน่าจะเป็นภรรยา ทำหน้าที่คนขับรถ ปรากฎว่าพอมาถึง นายกิตตินันท์ก็ชกเข้าที่ใบหน้าตำรวจจนล้มลงนอนกองอยู่กับพื้น

จากนั้นนายกิตตินันท์ เข้าไปใช้เท้าเตะเสยเข้าที่ปลายคาง และหยิบอิฐแดงทุบใบหน้าจนดาบเบิ้มสลบ นอกจากนี้นายกิตตินันท์ ยังพยายามจะยกแผ่นปูนเข้าไปทุ่มใส่ แต่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องห้าม นายกิตตินันท์ จึงทุ่มก้อนปูนใส่รถตำรวจ

ต่อมานายกิตตินันท์ ขึ้นไปบนรถสายตรวจและสตาร์ทรถ เพื่อจะพุ่งชนดาบเบิ้มที่นอนสลบอยู่ ทำให้หญิงที่มากับดาบเบิ้ม หยิบปืนพกที่ติดตัวดาบเบิ้มยิงสวนไปที่หลังรถสายตรวจ กระสุนเข้าด้านหลังนายกิตตินันท์ได้รับบาดเจ็บ โดยเจ้าตัวนั่งอยู่ที่คนขับพักหนึ่ง จึงเข้าไปในบ้านปิดประตูเก็บตัวเงียบ ก่อนที่ตำรวจอีกชุดจะมาถึงที่เกิดเหตุ

ความคืบหน้าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.นาดี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง พบชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายกำลังเก็บกวาดทำความสะอาด 

สอบถามจากนางสมคิด เฟื่องขจร อายุ 65 ปี แม่ของนายกิตตินัท์ บอกว่า ขณะเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่บ้าน สาเหตุที่ไม่อยู่เพราะลูกชายชอบทะเลาะอาละวาดใส่ตนเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุลูกชายเพิ่งกลับมาจากช่วยเพื่อนทำงาน พอมาถึงบ้านก็เบิ้ลรถเสียงดัง และลูกชายเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ไม่นานจากคดียาเสพติด และมีโรคประจำตัวต้องกินยาตลอด

พลตำรวจตรีวินัย นุชชา ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ปราจีนบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่า คนร้ายได้ทำร้ายเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติหน้าที่ จนบาดเจ็บอาการสาหัส มีแผลที่ศีรษะเย็บ 7 เข็ม แต่ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว ส่วนคนร้ายได้แจ้งข้อหา ทำร้ายเจ้าพนักงานและพยายามฆ่าขณะปฏิบัติหน้าที่ แต่ก็พร้อมจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงคนที่ยิงคนร้ายเป็นใคร และได้เรียกมาสอบและตั้งข้อกล่าวหาอะไรหรือไม่ ทางผู้การฯ ยังไม่ขอให้ข้อมูลแต่อย่างใด