น้ำท่วมมหาสารคาม ยังสร้างพนังกั้นน้ำไม่สำเร็จ นาข้าวเสียหายเกือบ 2 หมื่นไร่

เจ้าหน้าที่ยังสร้างพนังกั้นน้ำแทนจุดเดิมที่พัง ริมฝั่งน้ำชีบ้านสำโรง อำเภอโกสุมพิสัยไม่ได้ ทำให้นาข้าวเสียหายเพิ่มขึ้นเกือบ 2 หมื่นไร่แล้ว ขณะพื้นที่ขอนแก่น แม้น้ำลดระดับลงแต่ไม่มากพอที่จะลดความเสียหาย ทำให้วิสาหกิจชุมชนทอเสื่อที่อำเภอพระยืน ทั้งผลิตภัณฑ์เสียหายและขาดแคลนรายได้

ห้วยน้ำเค็มที่เป็นคลองคู่ขนานกับน้ำชี ที่บ้านสำโรง ตำบลยางท่าแจ้ง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งถูกน้ำชีกัดเซาะจนพนังขาด จนถึงเวลานี้ยังซ่อมแซมไม่ได้ ทำให้นาข้าวเสียหายเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 2 หมื่นไร่ และมวลน้ำก็หลากท่วมขยายวงกว้างมากขึ้นสู่เขตอำเภอกันทรวิชัย ขณะที่จังหวัดขอนแก่น แม้ระดับน้ำจะทรงตัวและมีแนวโน้มลดลง แต่ก็สร้างความเสียหายทั้งพื้นที่การเกษตรและกิจการชุมชน โดยเฉพะกลุ่มวิสาหกิจทอเสื่อ ที่บ้านโต้น อำเภอพระยืน ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก

วันนี้ (12 ต.ค.) เป็นค่ำที่ 4 ติดต่อกันที่เจ้าหน้าที่ยังเร่งสร้างพนังกั้นน้ำใหม่ เพื่อกั้นห้วยน้ำเค็ม หรืออีกชื่อคือห้วยตาดไผ่ หลังจากถูกน้ำจากแม่ชี ทะลักลงห้วยและกัดเซาะพนังกั้นห้วยจนขาดตั้งแต่ 4 วันก่อน ทำให้น้ำทะลักลงนาทุ่งข้าวที่มีพื้นที่โดยรวมเกือบ 4 หมื่นไร่ และจนถึงคืนนี้พนังกั้นน้ำใหม่ก็ยังไม่เสร็จ แต่ก็คืบหน้าไปมากจากการฝังเหล็กชีทไพล และโยนกล่องหินเกเบรียลลงขวางทางน้ำเพื่อชะลอความเชี่ยวแรง

ภาพจากมุมสูงล่าสุด จะเห็นว่าพนังของคลองถูกน้ำกัดเซาะเพิ่มอีก ทำให้ในบริเวณใกล้แนวพนังใหม่ที่สร้าง แต่ยังดีทีเป็นการกัดเซาะใต้แนวพนังใหม่ จึงยังมีช่องให้น้ำไหลเพียงช่องเดียวเดิม แต่ความเชี่ยวของน้ำอาจเพิ่มขึ้น เพราะท้ายน้ำยังต่ำกว่าน้ำชีที่หลากมา เกือบ 1 เมตร และตอนนี้ทุ่งข้าวที่พยามยามปกป้องไว้ก็เสียหายไปแล้วราว 2 หมื่นไร่ และจะเพิ่มปริมาณไปเรื่อย จนกว่าพนังนี้จะปิดได้

ตอนนี้อำเภอโกสุมพิสัย เป็นพื้นที่หนักสุด ของจังหวัดมหาสารคาม ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำชีหลากท่วม และหากเทียบกับพื้นที่ข้อมูลน้ำท่วมปี 2554 จะพบว่าอยู่แนวพื้นที่เดิม  สีเหลืองในพื้นที่นี้ คือตำบลเสี่ยงน้ำท่วม และพื้นที่สีฟ้าคือพื้นที่น้ำทว่มปี 2554

ข้อมูลจริงของปีนี้พบว่า ตำบลโพนงาม, ตำบลยางท่าแจ้ง ก็ท่วมหนักซ้ำรอยปี 2554 ทิศทางน้ำไหลจากนี้ มุ่งหจ้าเข้าตำบลเหล่า, ตำบลแห่ใต้, ตำบลเขวาใหญ่ และเริ่มเข้าสู่เขตอำเภอกันทรวิชัย ซึ่งเป็นชุมชนใหญ่เพราะเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมหาสารคามด้วย ซึ่งเป็นไปตามทิศทางน้ำไหล

ข่าว 3 มิติย้อนกลับมาสำรวจพื้นที่น้ำท่วมที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งแม้น้ำจะมีแนวโน้มลดลง เพราะไหลบ่าไปมหาสารคาม แต่ความเดือดร้อนของคนที่นี่ยังหนัก โดยเฉพาะวิสาหกิจชุมชนที่ทอเสื่อบ้านโต้นอำเภอพระยืน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของชุมชน ส่งขายทั่วประเทศ แต่น้ำท่วมครั้งนี้มีส่วนเสียหายด้วย

ตำบลบ้านโต้น มีภูมิประเทศติดกับแก่งกุดโดก จุดรับน้ำจากแม่น้ำชี จึงทำให้ยังท่วมขังนาน แม้มวลน้ำก้อนใหญ่หลากลงสู่มหาสารคาม แต่หลายชุมชนที่นี่ยังท่วม ต้องรอจนกว่าจะแห้งสนิท จึงจะเริ่มสำรวจฟื้นฟูได้

ข้อมูลจากกรมชลประทาน ระบุว่า น้ำชีที่หลากลงจากจังหวัดชัยภูมิ และจังหวัดขอนแก่น สู่จังหวัดมหาสารคาม ผสมกับน้ำในทุ่งตอนนี้คำนวณได้ว่ามีประมาณกว่า 700 ล้านลูกบาศก์เมตร เกือบเท่ากับความจุของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่มีความจุ 960 ล้าน

เพียงแต่น้ำกว่า 700 ล้านในลุ่มน้ำชี จะตกค้างตามทุ่งอยู่บ้าง และไม่ได้หลากลงวันเดียวหรือพื้นที่เดียว แต่เป็นการกระจายไปบริเวณกว้างต่อเนื่องหลายวัน ทำให้ความเสียหายกระจายไปหลายพื้นที่ และมุ่งหน้าลงสู่จังหวัดร้อยเอ็ด, จังหวัดยโสธร ปลายทางที่แม่น้ำมูล จังหวัดอุบลราชธานี