สังคม

เหยื่อแก๊งเงินกู้ออนไลน์ ร้องถูกหลอกกรอกข้อมูล นำไปแอบอ้างเป็นผู้บริหารนับ 10 แอปฯ

โดย panwilai_c

9 ต.ค. 2564

84 views

ข่าว 3 มิติ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายที่เข้าไปกู้เงินผ่านแอปพลิเคชันว่าได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะถูกผู้เสียหายจากทั่วประเทศ เตรียมแจ้งความจับ หลังจากผู้เสียหายรายนี้ ได้ส่งประวัติและข้อมูลส่วนตัวไปขอกู้เงินจากแอปพลิเคชันเงินกู้ แต่เมื่อทราบว่าต้องเสียเงินให้กับแอปเงินกู้ก่อนจึงขอยกเลิก ในที่สุดถูกกลุ่มมิจฉาชีพนำรูปถ่ายและบัตรประชาชนไปแอบอ้างเป็นผู้บริหารแอปพลิเคชันเงินกู้หลายสิบ มีผู้เสียหายมากกว่า 40 คน ขณะนี้ต้องเดินทางไปตามหมายเรียกทั่วประเทศ


ผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อการกู้ยืมเงินผ่านแอปพลิเคชันเงินกู้ ร้องเรียนข่าว 3 มิติว่า หลังเข้าลิงค์ SMS กู้เงิน ที่มิจฉาชีพ ส่งมาให้ โดยอ้างว่าเป็นสถาบันการเงินน่าเชื่อถือ เมื่อกรอกข้อมูลไปและโอนค่าธรรมเนียม10เปอร์เซนต์ของเงินกู้ไปแล้ว คนร้ายก็จะโทรศัพท์เข้ามากล่าวหาว่ากรอกบัญชีผิด ทำให้ระบบล็อค ต้องปลดล็อคระบบอีก 3 หมื่นบาท และยังกล่าวหาว่าบัญชีของเหยื่อนั้นพัวพันธุรกิจสีเทา เงินที่เหยื่อโอนมาได้โอนออกไปหมดแล้ว


ผู้เสียหายเล่าว่า ผู้ที่โทรมาอ้างชื่อว่า นายศตพร เป็นผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อ โดยมีรูปถ่ายและบัตรประชาชนแปะอยู่หน้าแอปเงินกู้ เมื่อผู้เสียหายโอนไปกว่าเกือบ 7 หมื่นบาท และแน่ใจว่าถูกหลอก จึงไปแจ้งความจับ นายศตพร


แต่เมื่อได้พบตัว นายศตพร ที่ถูกอ้างเป็นผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อแอปกู้เงิน และถูกตำรวจออกหมายเรียก ทำให้ทราบความจริงว่าตัวนายศตพรเองถูกแอบอ้าง ขณะนี้ได้รับความเดือนร้อนอย่างหนัก ที่ผ่านมาเจอหมายเรียกเกือบทั่วประเทศ


โดยนายศตพรเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้เข้าไปกู้เงินจาก SMS ที่ส่งลิงค์มา จึงเข้าไปกู้เป็นจำนวนเงิน 8 แสนบาท แต่ต้องเสียค่าธรรมเนียม 8 หมื่นบาท จึงขอยกเลิกสัญญา แต่มิจฉาชีพแจ้งว่าหากยกเลิกจะต้องเสียค่าธรรมเนียม 30 เปอร์เซนต์ หรือ 240,000 บาท เมื่อไม่ยอมโอน มิจฉาชีพได้โทรศัพท์มาข่มขู่จะฟ้องร้อง แต่ตนยืนยันขอยกเลิกการกู้ สัปดาห์ต่อมาข้อมูลส่วนตัวทั้งภาพถ่ายและบัตรประชาชนของตนที่ใช้สมัครในแอปเงินกู้ก็ไปปรากฏอยู่หน้าเพจแอปกู้เงินหลายสิบแอป ทุกคนที่ตกเป็นเหยื่อไปไปแจ้งความจับ ขณะนี้เริ่มได้รับหมายเรียกจากทั่วประเทศ รวมผู้เสียหายที่โทรมาทวงเงินคืนแล้วกว่า 40 ราย


นายศตพรจึงร้องเรียนมายัง ข่าว 3 มิติ ให้ช่วยเผยแพร่ข้อมูลว่าหากพบแอปเงินกู้ที่มีใบหน้าและบัตรประชาชนของตน อย่าเข้าไปกู้อย่างเด็ดขาด เพราะเป็นแอปที่มิจฉาชีพใช้หลอกเหยื่อ


เมื่อมีหมายเรียกเพิ่มเข้ามาทุกวัน ซึ่งก็หมายถึงมีเหยื่อเพิ่มขึ้นทุกวัน นายศตพร จึงเข้าร้องเรียนต่อตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจว่าไม่ใช่ผู้บริหารฝ่ายสินเชื่อแอปกู้เงินใดๆ เพราะมิจฉาชีพยังใช้ชื่อตนโทรศัพท์ไปแอบอ้างกับหยื่ออยู่ทุกวัน มีการข่มขู่เหยื่อให้จ่ายเงินภายในเวลาที่กำหนด จากการรวบรวมผู้เสียหายโทรมาจะแจ้งความจับตน ระบุว่าได้โอนเงินขั้นต่ำคนละ 4 หมื่น ไปจนถึง 2 ล้านบาท ซึ่งมิจฉาชีพกลุ่มนี้ได้พูดจาข่มขู่และท้าทายเหยื่อให้ไปแจ้งความ โดยไม่เกรงกลัวความผิดใด

คุณอาจสนใจ

Related News