วัคซีนโควิด 'ใบยาไฟโตฟาร์ม' เริ่มทดสอบในคนแล้ว พร้อมเล็งปรับสูตรรองรับเชื้อกลายพันธุ์

ความคืบหน้าด้านวัคซีนป้องกันโควิด-19 ฝีมือคนไทย ของบริษัท ใบยาไฟโตฟาร์ม จำกัด จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ขณะนี้เริ่มทยอยฉีดทดสอบทางคลีนิคในอาสาสมัครกลุ่มแรกแล้ว ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะทราบผลภายในสิ้นปีนี้ และขณะนี้ก็ได้พัฒนาวัคซีนรุ่นที่ 2 เพื่อรองรับการกลายพันธุ์ควบคู่กันไปด้วย

อาสาสมัครจำนวน 48 คนแรกในโครงการทดสอบทางคลีนิคของวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากบริษัทใบยาไฟโตฟาร์มจำกัด ทยอยเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรก หลังผ่านการคัดเลือกจากอาสาสมัครกว่า 500 คน ซึ่งเริ่มตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ชายคนนี้ คือ 1 ในอาสาสมัครของโครงการที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนใดๆ มาก่อน และ ตั้งใจดูแลสุขภาพร่างกาย เพื่อรอเข้าคัดเลือกในงานวิจัยนี้โดยเฉพาะ

อาสาสมัครจึงแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกอายุระหว่าง 18 - 60 ปี จำนวน 48 คน และ กลุ่มที่ 2 อายุระหว่าง 61-75 ปี อีก 48 คน รวม 96 คน ซึ่งเข็มแรกและเข็มที่ 2 ฉีดห่างกัน 21 วัน ทยอยฉีดวัคซีนเป็นระยะ สัปดาห์ละ 16-20 คน ในสัดส่วนปริมาณของวัคซีนที่ต่างกันไป เพื่อดูความเหมาะสมและผลข้างเคียง

ผู้จัดการห้องปฏิบัติการ ระบุว่า การคัดเลือกอาสาสมัครมีความสำคัญ โดยจะต้องเป็นผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ผ่านเกณฑ์อายุ และไม่เป็นผู้มีโรคประจำตัว ตามที่กำหนดไว้ ซึ่งจะมีห้องปฏิบัติการอีกอย่างน้อย 5 แห่ง นำตัวอย่างเลือดของอาสาสมัครไปใช้วิเคราะห์ผล เพื่อความแม่นยำทั้งด้านประสิทธิภาพและประสิทธิผลของวัคซีน

การทดสอบจากนี้จึงแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะแรกในอาสาสมัครกลุ่มนี้จำนวน 96 คน ที่คาดว่าจะได้ผลทดสอบในช่วงเดือนธันวาคม ขณะที่ระยะที่ 2 คาดว่าจะเริ่มในช่วงต้นปีหน้า ในอาสาสมัครที่เพิ่มขึ้นเป็นหลักร้อยคน ส่วนระยะที่ 3 คาดว่าจะเริ่มได้ในช่วงเดือนเมษายนปี 2565 กับอาสาสมัครหลักพันคน

วัคซีนของใบยาไฟโตฟาร์ม เป็นวัคซีนชนิด Subunit ที่สกัดโปรตีนจากพืชใบยาสูบ โดยการทดสอบในลิงให้ผลค่อนข้างดี สามารถกระตุ้นภูมิได้ในระยะยาว ซึ่งผลการทดสอบของมนุษย์กลุ่มแรกในเฟส 1 นี้ จะเป็นผลชี้วัดว่าจะนำวัคซีนรุ่นต่อไป เข้าทดสอบต่อหรือไม่

นอกจากนี้ยังมีวัคซีนที่พร้อมพัฒนาเป็นตัวคอกเทล เปลี่ยนสูตรเพื่อรองรับการแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันธุ์ได้ ซึ่งคาดว่าวัคซีนจากใบยาไฟโตฟาร์มจะพร้อมใช้ได้ในช่วงกลางปีหน้านี้