ตรวจสอบโครงการสร้างรง.แปรรูปยางพารา จ.บึงกาฬ 193 ล้าน แต่เปิดใช้ไม่ได้ พบใบเสร็จต้องสงสัย ส่อทุจริต

ข่าว 3 มิติ ยังเกาะติดกรณีโครงการก่อสร้างโรงงานแปรรูปยางพาราแบบครบวงจร ที่จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งใช้งบประมาณภาษีจากงบอุดหนุนกลุ่มจังหวัดอีสานตอนบน 193 ล้านบาท แต่โครงการเดินหน้าต่อไม่ได้ เพราะไม่มีระบบน้ำเสีย น้ำใช้ และไฟฟ้าโรงงาน ล่าสุดชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางบึงกาฬ ซึ่งเป็นผู้ทำสัญญาเช่าจะใช้ประโยชน์จากโรงงานนี้ ถูกนายทะเบียนสั่งเลิก หรือปิดชุมนุมสหกรณ์ ด้วยเหตุผลเรื่องศักยภาพทางการเงินและการดำเนินกิจการ พร้อมเผยเอกสารการซื้อเครื่องจักรเกือบสิบล้านบาท แต่ใช้ใบเสร็จรับเงินสดเพียง 7 ใบ

อาคารที่ใช้เป็นโรงงานแปรรูปยางพาราของชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางบึงกาฬ ตั้งอยู่ที่อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดที่ได้ชื่อว่าเมืองหลวงของยางพาราภาคอีสาน ก่อนหน้านี้โรงงานเปิดเผยมาตลอดว่า นอกจากผลิตหมอนยางพาราเพื่อขายในท้องถิ่น และจังหวัดใกล้เคียงแล้ว ยังลงนาม MOU กับเอกชนเวียดนาม และตัวแทนไปรษณีย์จีน เพื่อจำหน่ายหมอนยางพาราที่ผลิตจากโรงงานนี่ที่สู่ตลาดที่กว้างขึ้น เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตสมาชิกชาวสวนยาง บึงกาฬ

อย่างไรก็ตาม ข่าว 3 มิติ ได้รับข้อมูลว่าตอนนี้ ชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางบึงกาฬ กลับถูกนายทะเบียนสั่งเลิกชุมนุม ซึ่งหมายถึงยุบ หรือเลิก หรือปิดชุมนุมสหกรณ์นี้ เอกสารคำสั่งนายทะเบียนระบุว่า ชุมนุมสหกรณ์ ไม่อาจดำเนินกิจการให้เป็นผลดี ไม่ดำเนินธุรกิจ สมาชิกไม่มีส่วนร่วม ขาดทุนสะสมกว่า 6 ล้าน มีหนี้สินสูงกว่าทรัพย์สิน และไม่มีเงินทุนเพียงพอเพื่อคุ้มครองหนี้สิน

ความโปร่งใสในการใช้เงินของชุมนุม สหกรณ์ ถูกตั้งคำถามมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะปีบัญชี 2559 ที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบัญชีการใช้เงินที่กู้ยืมมาจากธนาคารออมสิน กว่า 10 ล้าน ซึ่งสหกรณ์ยื่นเอกสารตามปกติ แต่มีใบเสร็จ 7 ใบ ที่เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสงสัยเรื่องความน่าเชื่อถือ เช่นใบนี้ ระบุว่าใช้เงิน 1 ล้าน 7แสนบาท ว่าจ้างทำชุดตั้งสารเคมี และระบบหม้อไอน้ำบอยเลอร์ /ใบนี้ระบุว่า ใช้เงิน 1 ล้าน 7 แสน 5 หมื่นบาท จ้างทำตู้อบแห้งและตู้นึ่งพร้อมอุปกรณ์ /ใบนี้ใช้เงิน 1 ล้าน 3 แสน 3 หมื่นบาท จ้างทำรางผสมน้ำยาง ถึงเติมเคมี และชุดทำความเย็น /ใบนี้ใช้เงิน 1,475,000 จ้างทำแม่พิมพ์หมอน ชุดเก็บสารเคมีและชุดกำเนิดลม /ใบนี้ใช้เงิน 1 ล้าน 5 แสน บาทจ้างทำเครื่องฉีดหมอน และใบเสร็จ 2 ใบนี้ ใช้เงินรวม 2 ล้าน 6 แสนบาท จ้างทำแม่พิมพ์หมอน รวมเงินจากใบเสร็จกว่า 10 ล้านบาท

ใบเสร็จเหล่านี้ในตอนแรก ถูกตั้งคำถามและตีกลับจากสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ แต่ภายหลังมีการชี้แจงและแก้ไข จึงปิดบัญชีปี 2559 ได้

ขณะที่สหกรณ์จังหวัดบึงกาฬระบุว่า แม้เอกสารมีความน่าสงสัย ใช้เงินกว่า 10 ล้านมีเพียงบัตรประชานเป็นหลักฐาน แต่มูลเหตุแห่งการสั่งปิด คือชุมนุมสหกรณ์ไม่ดำเนินกิจการแล้ว และมีหนี้สินเกินกว่าจะเดินหน้ากิจการได้

ที่ปรึกษาชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางฯ ยอมรับว่ามีคำสั่งยกเลิกจริง และอยู่ระหว่างยื่นอุทธรณ์ และหากอุทธรณ์ไม่เป็นผล ก็จะฟ้องศาลปกครอง เพราะเห็นว่าการขาดทุนเป็นภาวะปกติของสหกรณ์ ที่กิจการก็ขึ้นอยู่กลไกตลาด และภาวะเศรษฐกิจด้วย หากได้รับโอกาสและพัฒนาศักยภาพต่อเนื่อง ก็เชื่อว่าจะฟื้นตัวได้ การสั่งเลิกชุมนุม จึงถือว่าเร็วเกินไป

ตอนนี้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ อยู่ระหว่างพิจารณาคำอุทธรณ์ของชุมนุมสหกรณ์ ซึ่งเลยกำหนด 30 วันมาแล้ว แต่ผลการพิจารณาล่าช้า เพราะติดสถานการณ์โควิด-19

สถานการณ์ของชุมนุมสกรณ์กองทุนฯสวนยาง เป็นมากกว่าสหกรณ์ทั่วไป เนื่องจากเชื่อมโยงกับโครงการสร้างโรงงานแปรรูปยางพารา ที่ใช้งบประมาณ 193 ล้านบาท ของกลุ่มอีสานตอนบน เพราะโรงงานตั้งอยู่บนที่ดินสหกรณ์ และสหกรณฺ์ทำสัญญาเช่า ตอนนี้ ชุมนุมสหกรณ์ถูกสั่งยกเลิก จึงเกิดคำถามถึงอนาคตโรงงานนั้นด้วย