สังคม

พ่อแม่ติดโควิด รักษาตัวที่บ้าน ลามติดลูกชายป่วยติดเตียง หวั่นหลานสาวพิการทางสมองติดอีกราย

โดย thichaphat_d

25 ส.ค. 2564

53 views

วานนี้ (24 ส.ค.) ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ลงพื้นที่ชุมชนสหกรณ์เคหะสถานภาคภูมิใจ ถนนบางบอน 3 ซอย 8 แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน กรุงเทพฯ หลังรับแจ้งว่ามีครอบหนึ่งอาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน สามี อายุ 59 ปี ภรรยา อายุ 66 ปี ลูกชาย อายุ 35 ปี ป่วยติดเตียง ทั้ง 3 ติดเชื้อโควิด ส่วนหลานสาวอายุ 41 ปี พิการทางสมอง ยังไม่ได้ตรวจหาเชื้อ คาดว่าน่าจะติดโควิดด้วยเพราะเริ่มมีอาการไอ ตัวร้อน


จากการลงพื้นที่พบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านปูน 2 ชั้น ลูกชายซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงนอนอยู่ชั้นล่าง เจาะคอพูดคุยไม่ได้ ไอมีเสมหะ ตัวร้อน ไม่ค่อยกินข้าว โดยมีนางเจียมจิต ผู้เป็นแม่คอยดูแลเช็ดตัวเนื้อเช็ดตัวหายากิน รวมถึงต้องดูแลหลานสาวพิการทางสมองด้วย ส่วนนายเชิดศักดิ์ ผู้เป็นพ่อ พิการเท้าขวาขาด แยกกักตัวอยู่ชั้น 2 ของบ้าน อาการไม่น่าเป็นห่วงแค่ไอเล็กน้อย


นายเชิดศักดิ์ ผู้เป็นพ่อ เผยว่า วันที่ 15 ส.ค.ตนเหมือนไม่สบาย จึงไปซื้อชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) มาตรวจหาเชื้อขึ้น 2 ขีด ไม่มั่นใจ วันที่ 17 ส.ค.จึงพาภรรยาและหลานสาวไปตรวจซ้ำที่จุดตรวจคัดกรองแห่งหนึ่ง ผลออกมาพบว่าตนกับภรรยาติดเชื้อโควิด ส่วนหลานสาวผลตรวจขณะนั้นเป็นลบ ต่อมาวันที่ 18 ส.ค.ได้ทำการตรวจหาเชื้อให้ลูกชายที่ป่วยติดเตียง ด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ปรากฎว่าผลเป็นบวก


จากนั้นหลานอีกคนอยู่บ้านคนละหลัง เอาชื่อไปแจ้งที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เพื่อขอเข้าระบบรักษาตัวอยู่ที่บ้าน วันที่ 21 ส.ค.หมอจัดยาฟาวิพิราเวียร์มาให้กินคนละชุด อาการเริ่มดีขึ้น ตอนนี้อยากให้ช่วยตรวจหาเชื้อให้กับหลานสาวที่อยู่บ้านหลังเดียวกัน อยู่กินด้วยกัน หากพบว่าติดเชื้อโควิดก็จะได้ทำการรักษา


ทั้งนี้ตนไม่ได้ประสานขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานใด มีเพียงประธานชุมชนคอยช่วยเหลือประสานหาสถานที่ตรวจหาเชื้อ นำข้าวสารอาหารแห้งมาวางไว้ให้กิน ร้านค้าละแวกนั้นเอาข้าว ก๋วยเตี๋ยวมาให้กิน เพราะออกไปที่ไหนไม่ได้ งานก็ไม่ได้ทำ “อยากรักษาอยู่ที่บ้าน เป็นห่วงลูกชายไม่อยากให้เขาไปลำบาก อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง พม. เข้ามาดูแลความเป็นอยู่ของลูกชาย”


ด้านนางเจียมจิต ผู้เป็นเป็นแม่ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้วันที่ 10 ส.ค. ตนได้ไปฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มแรก ต่อมามีอาการไอคิดว่าเป็นผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน จึงพยายามกินยาบรรเทาอาการ กระทั่งไปตรวจหาเชื้อพบว่าติดโควิดและกักตัวอยู่ที่บ้านต้มสมุนไพรสูดดม กินฟ้าทะลายโจร กระชาย น้ำขิง คาดว่าตนน่าจะได้รับเชื้อมาจากการไปฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แล้วนำมาแพร่กระจายให้คนในบ้าน


นอกจากนี้ทีมข่าวได้รับแจ้งว่า ยังมีบ้านอีกหลังซึ่งอยู่ในชุมชนเดียวกัน อาศัยอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวใหญ่ 9 คน จากการตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) พบว่าติดเชื้อโควิด 6 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้สูงอายุวัย 76 ปี 1 คน ป่วยติดเตียงยังไม่ได้ฉีดวัคซีน และมีเด็ก 3 คน อายุ 11 ขวบ 4 ขวบ และ 5 ขวบ ทั้งหมดกักตัวอยู่ภายในบ้านรอรับการรักษา ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ ไอเพียงเล็กน้อยท่านั้น


ขณะที่นางมณี ยายวัย 76 ปี ลูกสาวให้แยกไปนอนบ้านอีกหลังใกล้เคียงกันกำลังก่อสร้าง โดยคุณยาย ยังเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว บอกว่าตนเองเดินเหินไปไหนไม่ได้ นั่ง ๆ นอน ๆ อยู่แต่ในบ้าน หลังจากทราบว่าติดเชื้อโควิดก็มีลูกหลานคอยดูแล หาข้าวหาน้ำให้กินแต่กินไม่ลง กินได้แต่นมและเคี้ยวหมาก


นางสายใจ อายุ 42 ปี ลูกคนสุดท้องของยายมณี เผยว่า ตนเป็นคนแรกที่เริ่มมีอาการป่วย ไอ เป็นไข้สูง 37.5 ปวดตามข้อ ครั่นตัวครั่นตัว หลังกลับจากฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา เข็ม 3 เข้าใจว่าเป็นไข้เพราะลุยฝนหรืออาจผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน กินยาอาการไม่ดีขึ้น จมูกเริ่มไม่ได้กลิ่น


วันที่ 22 ส.ค. จึงซื้อ Antigen Test Kit (ATK) มาตรวจพบว่าเป็นบวก ก่อนประสานประธานชุมชนมาช่วยตรวจให้กับคนในบ้านกระทั่งพบว่าติดเชื้อทั้งหมดรวม 7 คน ส่วนพ่อวัย 70 ปี และและลูกสาวของตนอีกคนผลเป็นลบ ตอนนี้ไปเช่าห้องพักแยกกักตัวต่างหาก


พร้อมระบุว่า “ติดต่อไปที่ 1330 ขอเข้าระบบ Home Isolation แต่เด็ก ๆ ชอบวิ่งเล่นในชุมชนและวิ่งไปบ้านหลังอื่น หวั่นนำเชื้อไปแพร่กระจาย กลัวเพื่อนบ้านรังเกียจ คิดไปคิดมาขอพาคนในบ้านไปรักษาตัวที่อื่นดีกว่า จึงพยายามประสานหน่วยงานหนึ่งมารับตัวตนเองกับเด็ก ๆ รวม 4 คน ไปฮอสพิเทล เพื่อนบ้านได้สบายใจไม่ต้องหวาดระแวง


ส่วนแม่วัย 76 ปี และพี่สาววัย 45 ปี ที่ติดเชื้อด้วย เจ้าหน้าที่จะมารับตัวทั้งคู่ไปรักษาที่ศูนย์แรกรับฯ อาคารนิมิบุตร ในวันพฤหัสบดี นี้ ”


นางสาวนริศา อายุ 45 ปี ลูกคนที่ 7 ของยายมณี กล่าวว่า ทุกคนจะอยู่แต่ในบ้าน หากมีใครมาหาจะว่าคนที่บ้านติดเชื้อโควิดให้ระวัง เพราะไม่อยากให้คนอื่นรับเชื้อไปด้วย ถ้าติดขึ้นมามันวุ่นวายลำบากไปหมด พอทราบว่าพ่อไม่ติดเชื้อก็โล่งใจ ตอนนี้เป็นห่วงแม่เพราะอายุเยอะแล้ว สงสารไม่อยากให้แม่เป็นอะไร ไม่อยากให้แม่เจ็บ ถ้าแม่ต้องเป็นอะไรไปตนขอเป็นแทนเสียดีกว่า


ตนจะไปรักษาตัวพร้อมกับแม่จะได้ดูแลแม่ซึ่งป่วยติดเตียงด้วย ที่ผ่านมาแม่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตนต้องคอยวัดไข้ วัดความดัน ความค่าออกซิเจนในเลือด บังคับให้กินข้าวไม่งั้นไม่มีแรง และจะสอบถามอาการว่าเป็นยังไงบ้าง หายใจออกมั้ย อยากกินอะไรมั้ย ถ้าแม่ตัวร้อนเป็นไข้ก็จะเอายาให้กิน “โควิดมันโหดร้ายมาก ทรมานใจเข้าถึงกันไม่ได้ ญาติ ๆ จะมาหาก็มาไม่ได้ ทำได้เพียงโทรถามไถ่อาการกัน”



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/n9-ATsRVUCc

คุณอาจสนใจ

Related News