ไม่เดือดร้อน พ่อลูกติดโควิด กักตัวในกระต๊อบ-กางเต็นท์กลางดงกล้วย แจงอยากให้เตียงคนที่อาการหนักกว่า

จากกรณีสองพ่อลูกติดโควิด กักตัวในกระต๊อบกางเต็นท์นอนกลางดงกล้วย ซึ่งเป็นพื้นที่ของญาติ โดยล่าสุดอาการของพ่อลูกดีขึ้นแล้ว และไม่ได้ต้องการเตียง อยากให้เตียงกับคนที่มีอาการหนักกว่า

โดยพ่อชื่อสมหวัง อายุ 53 ปี ส่วนลูกชายชื่ออาร์ต อายุ 18 ปี ทั้งคู่ติดโควิด โดยพ่อกักตัวอยู่ในบ้านลักษณะคล้ายกระต๊อบ ส่วนลูกชายกักอยู่ในเต็นท์ ข้างๆ ที่พ่ออยู่

น้องอาร์ตจะกักตัวอยู่แต่ในเต็นท์ จะออกมาเฉพาะเข้าห้องน้ำเท่านั้น โดยในเต็นท์จะมีเพียง หมอนมุ้ง ผ้าห่ม น้ำดื่ม หน้ากกากอนามัย ยาแก้ปวดลดไข้ ยาแก้ไอ และฟ้าทลายโจร ใส่ไว้ในถังน้ำข้างๆที่นอน

ส่วนคุณพ่อจะปิดประตูกักตัวเองอยู่ด้านในกระต๊อบ จะนั่งข้างๆ คอยมองลูก ซึ่งทั้งคู่จะคอยสอบถามอาการกันตลอดเวลา

น้องอาร์ต บอกว่า ตนเองเรียน กศน.ช่วงนี้ไม่ได้ไปเรียนจึงรับจ้างทำความสะอาดบ้าน กวาดถนนภายในหมู่บ้าน ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ก.ค.รู้สึกมีอาการปวกศรีษะตัวร้อน กระทั่งวันที่ 31 ก.ค.เป็นไข้ ตาแดง มีน้ำมูก จึงไปตรวจหาเชื้อโควิด พบว่าผลเป็นบวก จากนั้นกลับมากักตัวอยู่ในกระต๊อบกับพ่อ ซึ่งตอนนั้นพ่อยังไม่ติดโควิด และหลังจากนั้นน้องอาร์ตได้แยกตัวออกมากางเต็นท์อยู่เพียงลำพังเพราะกลัวติดพ่อ แต่ผ่านไป 2 วันพ่อก็เริ่มเป็นไข้และติดโควิดเช่นกัน

จากการสอบถามน้องอาร์ตว่าต้องการไปโรงพยาบาลสนามหรือไม่ น้องอาร์ตบอกว่า ไม่ต้องการเตียง อยากให้คนที่มีอาการหนักกว่าได้มีเตียงรักษา ตนกับพ่อยังไม่เดือดร้อนเท่าไหร่ มีคนหาข้าว หาน้ำและยาฟ้าทลายโจรมาให้กินอยู่ตลอด

ซึ่งล่าสุดอาการน้องอาร์ตและพ่อดีขึ้นแล้ว ไม่มีไข้ และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาคุณหมอโทรมาสอบถามอาการ และบอกว่าจะเอาที่วัดไข้มาให้ด้วย ซึ่งตอนนี้ไม่อยากได้อะไรเพิ่ม อยากได้แค่ยาฟ้าทลายโจรเท่านั้น หากตนและพ่อหายป่วยก็จะเอายาฟ้าทลายโจรไปให้คนที่ติดโควิดรายอื่นๆ ด้วย