บีบหัวใจ สามีเผยไม่รู้มาก่อน ภรรยาเขียนข้อความสั่งเสีย ก่อนโควิดพรากพร้อมลูกในท้อง

นายธิติวัฒน์ เลิศรัตนโมลี เล่าว่า ตนเองได้เสียภรรยาที่ติดโควิดพร้อมลูกในท้อง จึงได้โพสข้อความในเฟซบุ๊ก ที่ทางภรรยา ได้เขียนโน๊ตไว้ก่อนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2564 โดยระบุว่า

"ถึงเจมที่รัก ถ้าเค้าไม่รอด เพราะโควิด เค้าขอโทษที่ไม่ได้ให้เธอเห็นหน้าลูก เค้าจะไปอยู่กับลูกเอง เค้าจะเลี้ยงลูกให้เธอเอง ขอให้เธอใช้ชีวิตให้ดี คิดถึงฉันกับลูกบ้างก็พอ ถ้ามีครอบครัวใหม่ เลือกคนดีๆ ในชีวิต ชีวิตต้องก้าวต่อไป หวังว่าชาติหน้าเราจะได้เจอกันอีก อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกนะ

ฉันไม่มีอะไรให้เธอเลย แต่เค้าฝากแม่โอนรถให้เธอแล้ว ขอบคุณที่อดทนกับเค้ามานานแสนนานนะที่รัก เค้ารักเจมนะ สู้ๆ นะ อย่างน้อยฉันก็ได้ลาเธอ เลิกเล่นพนันบอลนะ มันมีแต่หมด ทำมาหากินอย่างเดียวพอ ตั้งใจผ่อนบ้าน ไม่ได้อยากจากไป แต่มันห้ามกันไม่ได้จริงๆ ถ้ามีแฟนใหม่ เอารูปแต่งงานมาไว้กับแม่ฉันนะ ผู้หญิงมันทนเห็นไม่ได้หรอก เลี้ยงมีตังดีๆ (มีตัง คือ สุนัข) อย่าให้กินเยอะ อาบน้ำบ่อยๆ จะได้ไม่เหม็น และบอกมันว่าฉันคิดถึงมัน รักมัน เลิกบุหรี่ด้วยนะ ปอดมันจะพัง

ฝากมาดูแม่ฉันบ้างนะ ช่วงแรกๆ เค้าคงทำใจไม่ได้ มาบังคับให้เค้ากินข้าว แม่ฉันเค้าก็รักเธนะ แต่เค้าห้วนๆ ฉันฝากแม่หน่อยนะ"

ก่อนหน้านี้ เจ้าของเฟซบุ๊ก ได้โพสต์แจ้งกำหนดการฌาปนกิจของภรรยา พร้อมกับระบุถึงภรรยาที่จะไม่ได้เห็นหน้ากันอีกแล้ว ซึ่งต่อมาโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ และมีคนเข้ามาแสดงความเสียใจด้วยเป็นจำนวนมาก บางคนถึงกับบอกว่า อ่านแล้วน้ำตาไหล

ผู้สื่อข่าว เดินทางไปพบกับเจ้าของโพสต์ ชื่อว่า เจมส์ หรือ นายธิติวัฒน์ อายุ 26 ปี เล่าว่า ตนกับภรรยาติดโควิดด้วยกันทั้งคู่ และได้ไปอยู่โรงพยาบาลสนามด้วยกัน แต่ตนหายและออกมาก่อน ขณะที่ภรรยาอยู่โรงพยาบาลสนามก็ได้เขียนข้อความสั่งเสียไว้ ซึ่งตนไม่รู้มาก่อน มารู้อีกทีก็ตอนที่ภรรยาเสียชีวิต และทำพิธีเก็บกระดูกแล้ว

จากนั้นทางครอบครัวได้นำโทรศัพท์ภรรยามาเปิดอ่าน แล้วเห็นข้อความ สั่งลาดังกล่าว ซึ่งทำให้บีบหัวใจตนเองเป็นอย่างมาก และรู้สึกว่าวันเวลาย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว หลังจากนี้ตนจะทำตามที่แฟนสั่งเสียไว้ทุกอย่าง อยากจะบอกว่า ตนรักภรรยามาก และคิดถึงเขามาก อยากบอกว่า โรคโควิดมันน่ากลัว แค่ 20 วันเอง โรคโควิดก็มาพรากภรรยาไปจากตนแล้ว

ส่วนทางด้าน แม่ของผู้เสียชีวิต นางธนินท์รัฐ อายุ 58 ปี กล่าวถึงความรู้สึกว่า ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ เหมือนใจสลาย คิดตลอดว่าลูกสาวติดโควิด รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลมีเจ้าหน้าที่ดูแลซึ่งตนเองอุ่นใจ ลูกจะหาย แต่นี่ลูกไปแล้ว ไม่ได้กลับมาอีก

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/AhFvMZlqLlA