สังคม

รร.ดังติดอื้อ! คลัสเตอร์ใหม่ในปัตตานี ครูเสียชีวิตแล้ว 1 ราย

โดย panisa_p

13 ก.ค. 2564

3K views

วันที่ 13 ก.ค. 2564 สถานการณ์การแพร่ระบาดของจังหวัดปัตตานี ยังคงพบผู้ติดเชื้อมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้จังหวัดปัตตานี เป็น 1 ใน 10 จังหวัด ที ศบค.ยกระดับมาตรการควบคุมสูงสุด และเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม ซึ่งล่าสุด พบคลัสเตอร์ใหม่ เป็นโรงเรียนจงรักสัตย์วิทยา ต.ตันหยงลุโละ อ.เมือง จ.ปัตตานี ที่เด็กนักเรียน จ.พังงา กว่า 59 ราย กลับภูมิลำเนา ทำให้ จนท จ.พังงา ทำการตรวจหาเชื้อ กระทั้งพบเด็กนักเรียน 36 ราย ติดเชื้อโควิด-19 ส่วนรายที่เหลือกักตัว อยู่ระหว่างรอผลตรวจ


เช่นเดียวกับนักเรียน จ. ปัตตานี ที่ยังคงอยู่ภายในโรงเรียนดังกล่าว ต้องทำการตรวจหาเชื้อทุกคน กระทั่งพบเด็กนักเรียน และครูติดเชื้อหลายราย ล่าสุด 1 ในนั้น เป็นครูสอนศาสนาในโรงเรียนจงรักสัตย์วิทยา มีผลเป็นบวก ต่อมาเชื้อลงปอด อีกทั้งมีโรคแทรกซ้อน ทำให้ครูสอนศาสนาดังกล่าวเสียชีวิตแล้ววานนี้


โดยก่อนหน้านี้โรงเรียนดังกล่าวก็เป็นพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังอยู่แล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้พบครูที่เดินทางมาจากบ้านที่จังหวัดยะลา ได้ติดเชื้อกับคนในครอบครัว หลังพบทามไลน์คนในครอบครัวมีเชื้อโควิด กระทั้งเดินทางมาโรงเรียนและทราบข่าวภายหลัง ทำให้ทั้งนักเรียนและครู ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต้องกักตัวในโรงเรียนทันที


ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจังหวัดปัตตานี ผ่านพ้นคืนแรกกับมาตรการสั่งห้ามออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่เวลา 21.00 - 04.00 น. ซึ่งทุกคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันที่ด่านคัดกรองโควิด-19 บ้านเกาะหม้อแกง ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก ที่เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่าง จ.สงขลา เเละ จ.ปัตตานี อีกทั้งด่านอื่นที่เป็นเส้นทางเชื่อมจังหวัดปัตตานี เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มงวดมากขึ้นในการคัดกรองบุคคลที่เข้าและออก โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีเหตุจำเป็นในการเดินทางเข้า ออกในพื้นที่อย่างเด็ดขาด ยกเว้น ผู้ที่มีใบรับรองจากทางราชการ


ความคืบหน้าสถานการโควิด-19 จ.ปัตตานี ยังคงมีผู้ติดเชื้อโควิด 19 มารักษาตัวต่อเนื่อง ขณะทีตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อใน จ.ปัตตานี ก็ยังคงน่ากังวลซึ่ง โดยวานนี้ วันที่ 12 ก.ค. พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 คน ให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 43 คน และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 95 คน ทำให้ยอดติดเชื้อสะสม 4,281 คน รักษาหาย 2,454 คน

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ปิดโรงเรียน ,โควิด19 ,ปัตตานี

คุณอาจสนใจ

Related News