สังคม

'หมอโอภาส' เผย โควิด 'สายพันธุ์อินเดีย' รุนแรงเท่า 'สายพันธุ์อังกฤษ' ชี้ วัคซีน 'แอสตราเซเนกา' ช่วยรับมือได้

โดย pichaya_s

22 พ.ค. 2564

1.2K views

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า จากการเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส Covid 19 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ไ ด้ตรวจรหัสพันธุกรรมจากตัวอย่างที่ส่งมาจากแคมป์คนงานก่อสร้าง และบริเวณใกล้เคียง จำนวน 80 ตัวอย่าง


พบว่าเป็นสายพันธุ์อินเดีย (B.1.617.2) จำนวน 36 ราย เป็นคนไทย 21 ราย คนงานชาวพม่า 10 ราย และกัมพูชา 5 ราย ที่เหลือเป็นสายพันธุ์อังกฤษ (B.1.1.7) และยังมีตัวอย่างจากการค้นหาเชิงรุก จากพื้นที่อื่นใน กทม.อีก 2 แห่ง แต่พบเป็นสายพันธุ์อังกฤษทั้งหมด


พบว่าเป็นสายพันธุ์อินเดีย (B.1.617.2) จำนวน 36 ราย เป็นคนไทย 21 ราย คนงานชาวพม่า 10 ราย และกัมพูชา 5 ราย ที่เหลือเป็นสายพันธุ์อังกฤษ (B.1.1.7) และยังมีตัวอย่างจากการค้นหาเชิงรุก จากพื้นที่อื่นใน กทม.อีก 2 แห่ง แต่พบเป็นสายพันธุ์อังกฤษทั้งหมด


ต่อมา ก่อนการแถลงยืนยันนั้น นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้แจงกรณีพบการระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์อินเดีย ในแคมป์คนงานย่านหลักสี่ ว่า กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับห้องปฏิบัติการมหาวิทยาลัยต่างๆ ถอดรหัสพันธุกรรมเชื้อโควิด 19 เพื่อเฝ้าระวังสายพันธุ์ต่างๆ โดยจากการตรวจ 61 ตัวอย่าง พบ 15 ตัวอย่างตรงกับสายพันธุ์อินเดีย เป็นชาย 7 คน หญิง 8 คน อายุเฉลี่ย 46 ปี เป็นคนงานในแคมป์ก่อสร้าง 12 คน ผู้สัมผัสร่วมบ้าน 3 คน ทั้งหมดมีอาการเล็กน้อย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ไม่ได้เป็นแรงงานผิดกฎหมายแต่อย่างใด โดยผู้ติดเชื้อทั้ง 15 คน ยังไม่ยืนยันว่า สัญชาติใดบ้าง อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค แต่เป็นแรงงานที่ถุกต้องตามกฎหมาย


การกระจายตัวของเชื้อสายพันธุ์อินเดีย รวมถึงความรุนแรงของเชื้อนั้น ไม่แตกต่างจากเชื้อสายพันธุ์อังกฤษ ที่ไทยเองกำลังเผชิญอยู่ และวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า วัคซีนหลักของไทยก็สามารถควบคุมได้ดี ซึ่งเป็นข้อมูลจากหน่วยงานควบคุมโรคของอังกฤษ ที่ในอังกฤษเองพบการระบาดของสายพันธุ์อินเดียค่อนข้างมาก ส่วนวัคซีนซิโนแวคแม้ยังไม่มีรายงานยืนยัน แต่ก็ยืนยันว่ามีประสิทธิภาพในการควบคุม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานยืนยันว่า สายพันธุ์อินเดียจะดื้อต่อวัคซีนที่ไทยมีอยู่ และยังคงใช้ยาฟาราพิราเวียรักษาได้


ส่วนวัคซีนซิโนแวคแม้ยังไม่มีรายงานยืนยันแต่จากการรวบรวมข้อมูล ซึ่ง น.พ.โอภาสใช้คำว่า น่าจะยังมีประสิทธิภาพในการควบคุม สายพันธุ์อินเดียได้ แต่ต้องตรวจสอบข้อมูลต่อไป


ทั้งนี้ทางสำนักข่าวต่างปะรเทศ เผยว่า สหราชอาณาจักร พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าภายใน 1 สัปดาห์ และได้สร้างความกังวลต่อรัฐบาลว่า จะสามารถปลดล็อกมาตรการป้องกันการระบาดของโรคทั้งหมด ตามกำหนดการอีก 1 เดือนข้างหน้าได้หรือไม่ โดยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย มากถึง 3,424 คน ขณะที่สัปดาห์ที่แล้วพบผู้ติดเชื้อ 1,313 คน และสัปดาห์ก่อนหน้านั้น พบผู้ติดเชื้อ 520 คน


ด้าน บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เผยว่า มีความกังวลมีผลกระทบต่อไทม์ไลน์ที่จะเปิดเศรษฐกิจประเทศ ปลดล็อกมาตรการควบคุมการป้องกันโรคทั้งหมด ในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ และจะเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนตามจุดที่สายพันธุ์นี้ระบาดอย่างหนัก และลดระยะเวลาระหว่างการฉีดวัคซีนทั้ง 2 โดสลงมา


จากรายงานพบว่า วัคซีนแอสตราเซเนกา มีประสิทธิภาพต่อไวรัสสายพันธุ์อินเดียที่ 97 % อ้างอิงจากผลการทดลองของ โรงพยาบาล "อินทราปราสาท อพอลโล" ในกรุงนิวเดลี ของอินเดียกับอาสาสมัคร พบว่า อาสาสมัครที่ฉีดแอสตราเซเนกา 3,300 คน ที่ไม่ป่วยหนักไม่ต้องเข้าโรงพยาบาล โดยมีที่ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล 2 คนเท่านั้น โดยอาสาสมัครทั้งหมด นั้นฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา ทั้งหมด และทำงานในหน่วยงานสาธารณสุขของอินเดีย


ขณะที่ทางด้านสำนักงานเวชภัณฑ์แห่งยุโรป เผยว่า วัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค และ โมเดอร์นา นั้นก็มีประสิทธิภาพกับสายพันธุ์อินเดียเหมือนกัน


ชมผ่านยูทูบที่ : https://youtu.be/ZJ4Y6-c7Ugc

คุณอาจสนใจ

Related News