คนยังตั้งข้อสงสัยเหตุ 'พระกิโยติน' ลูกศิษย์รู้เห็น? ใบมีดเล็กไป? - เล็งจัดการรูปปั้นถวายเศียร

จากกรณีอดีตพระธรรมกร ฐานธัมโมหรือนายธรรมกร วังปรีชา อายุ 68 ปีอดีตเจ้าสำนักสงฆ์ภูหินกอง บ้านนาแค ต.ลำภู อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ฆ่าตัวตายโดยการก้มให้ใบมีดตัดคอตัวเองเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและตนเองจะได้ตรัสรู้เป็นปัฐเจกพุทธเจ้าตามความเชื่อ

โดยสร้างกิโยติน ก่อนใช้ของมีคมมีความกว้างประมาณ 4 นิ้วยาวประมาณ 1 เมตร รวมด้าม และด้าม 2 ด้านนั้นใช้ก้อนปูนซีเมนต์เทหล่อในถังพลาสติก จำนวน 2 ก้อน ผูกติดกับด้ามมีดข้างละก้อน แล้วใช้เชือกดึงขึ้นไปบนเสาจากนั้นได้พาตัวเอง เข้าไปนั่งก้มอยู่ตรงใบมีดที่จะตกลงมา และใช้มีดขนาดเล็กตัดเชือกเมื่อเชือกขาดมีดที่ผูกติดก้อนปูนได้ตกลงมาที่คอทำให้ศีรษะขาดออกจากลำตัวเสียชีวิต

หลังจากนั้นได้ให้ลูกศิษย์นำศพไปฌาปนกิจไว้ที่เนินเขาใกล้กับที่พักสงฆ์ดังกล่าว โดยเป็นการเผาร่างแล้วนำก้อนอิฐภูเขาสีแดงวางทับกันซ้อนๆ เหมือนภูเขาเล็กๆ สร้างความตกตะลึงให้กับชาวบ้านที่ทราบข่าวเป็นอย่างมาก

ความคืบหน้าเมื่อวานนี้ (20 เม.ย.) ทีมข่าวได้คลิปภาพในวันเกิดเหตุ คือ ประมาณ 10 โมง ของวันที่ 15 เม.ย. หลังจากพระธรรมกร ตัดศีรษะไปแล้ว 5 ชั่วโมง ตอนนั้นทั้งตำรวจ แพทย์เวร และกู้ภัย เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าลูกศิษย์ล้างทำความสะอาดร่าง ห่อผ้า เก็บใส่โลงไม้ แยกศีรษะใส่กล่องไม้เรียบร้อยแล้ว โดยไม่ยอมให้ตรวจสอบ ต้องสอบถามและเจรจาอยู่นาน

ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่อยู่ในเหตุการณ์ บอกว่า ตอนขึ้นไปตรวจสอบเหตุ ร่างพระธรรมกรอยู่ในโลงไม้แล้ว เมื่อญาติบอกว่า ไม่ติดใจ ทำให้ทั้งหมอและตำรวจไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่เปิดผ้าขาวตรวจศพในโลง ใช้เวลาได้เพียง 2-3 นาทีเท่านั้น ไม่ยอมให้นำร่างออกมาตรวจดูร่องรอยบาดแผล อ้างชื่อตำรวจผู้ใหญ่ ส่วนตนเองเห็นแต่หีบศพ ไม่เห็นร่าง ไม่เห็นกิโยติน ตอนนั้นมีลูกศิษย์นุ่งขาวห่มขาวอยู่กว่า 100 คน

นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตว่า ใบมีดที่ใช้ตัดคอ เล็กเกินไปหรือไม่ เมื่อเทียบกับกิโยติน เครื่องประหารของฝรั่งเศส ใบมีดต้องใหญ่และหนาพอ เมื่อหล่นลงมาจึงสามารถสับคอให้ขาดได้ เป็นไปได้หรือไม่ อาจมีใครมาช่วยตัดศีรษะ ส่วนตำรวจที่เข้าไปตรวจสอบ แล้วปล่อยให้ศพถูกเผาไป ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ชันสูตร ก็อาจมีความผิดด้วย สำหรับรูปปั้นเทพถวายหัว ที่ลูกศิษย์บอกว่า พระธรรมกรจ้างช่างฝีมือมาปั้น เมื่อปี 2562

นางจิราภรณ์ บุญโพธิ์ ผอ.สำนักงานพุทธศาสนา จ.หนองบัวลำภู เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่นชานมา พระมหาไพรวัลย์โทรมาหามาปรึกษาเรื่องทุบรูปปั้นทิ้ง ขอแจงว่าสำนักพุทธไม่มีอำนาจที่จะไปทำลายหรือทำสิ่งหนึ่งประการใดทั้งปวง เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นเพียงที่พักสงฆ์ไม่ได้เป็นสำนักสงฆ์หรือวัดแต่อย่างใด โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นของทหาร คงเป็นอำนาจหน้าที่ของทหารและเจ้าคณะจังหวัดฯ ที่จะพูดคุยกันว่าเห็นสมควรจะทำอย่างไรบ้าง จะปล่อยทิ้งร้างหรือจะนิมนต์พระภิกษุรูปใหม่ไปพำนักแทน

ส่วนพล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริง ผบก.ตร.ภูธร จ.หนองบัวลำภู เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า ตอนนี้ทางตร.กำลังรวบรวมสอบปากคำไปเรื่อยๆ ทั้งลูกศิษย์ คนใกล้ชิดและที่ปรากฏคลิปเพื่อ สืบหาหลักฐานเพื่อหาสรุป ขอเวลาให้ตร.ทำงาน

อย่างไรก็ตามบรรยากาศที่วัดเมื่อวานนี้ (20 เม.ย.) เป็นไปอย่างเงียบเหงามีประชาชนที่ทราบข่าวเดินทางมาที่วัด และไปดูจุดที่เผาศพของพระธรรมกร บ้างก็อยากมาให้เห็นกับตา บางคนก็นำดอกไม้ธูปเทียนมาวางไว้ที่บริเวณเผาศพ

ด้านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ขอให้ประชาชนอย่าไปหลงเชื่อ ในสิ่งที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ เพราะคำสอนของพระพุทธเจ้าถือว่าเป็นคำสั่งสอนที่พิสูจน์ได้ หลายๆ อย่างก็ไม่อยากให้ไปหลงเชื่อมากนัก แต่เรื่องแบบนี้ก็ห้ามไม่ได้อยู่ดี สิ่งต่างๆเหล่านี้ถ้าจะเชื่อก็ต้องมีเหตุและผล ซึ่งพฤติกรรมเลียนแบบเหล่านี้ ก็คงไม่มีใครอยากจะทำ

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/oSQZ1Gn5omU