โศกนาฏกรรมไฟไหม้ตึกถล่ม ยังรื้อถอนไม่ได้! จนท.บอกต้องรอใบอนุญาตจากเจ้าของก่อน

วันนี้ (5 เม.ย.) นายกสภาวิศวกร เผย 4 สาเหตุทำบ้านทรุด จนทำให้อาสาสมัครกู้ภัยเสียชีวิตถึง 4 ราย เร่งถอดบทเรียนด่วน ด้านเพื่อนบ้านเผย กู้ภัย 3 คนมาขอเข้าบ้านเกิดเหตุ พอเข้าไปไม่นานบ้านถล่มทันที

อุบัติเหตุครั้งนี้เริ่มจาก เหตุไฟไหม้บ้านเลขที่ 138/12 ซอยอัญมณี 17 หมู่บ้านกฤษดานคร 31 แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพ ตอนตี 5 ครึ่งของวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 3 ชั้น เป็นบริษัทธุรกิจเกี่ยวกับการนำเที่ยว ในช่วงเกิดเหตุไฟไหม้มีพนักงานในบริษัท 8 คน ออกได้ได้ 7 คน และเสียชีวิตในห้องน้ำ 1 คน คือ นาย เกียรติ แพนเตอร์สัน อายุ 35 ปี เจ้าหน้าที่ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ระหว่างนั้นก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น

ช่วงเวลาถล่มคือประมาณ 6 โมง 50 นาที บ้านถล่มลงมาทั้งหลัง ทรุดลงมาแบบแพนเค้ก คือ ทับซ้อนกันเป็นชั้นๆ ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เข้าไปช่วยเหลือ นาย เกียรติ ติดอยู่ด้านใน 5 คน คือ นายธนภพ ประไพ อายุ 44 ปี, นายสมัญญา นิลธง อายุ 48 ปี, นายอรรถพล ท้วมทอง 26 ปี และ นายสุทัศน์ เปลี่ยนกลัด อายุ 38 ปี และ นายสุรศักดิ์ เปลี่ยนกลัด อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นผู้รอดชีวิตเพียง 1 เดียวที่รอดออกมาได้

เจ้าหน้าที่สามารถนำตัวออกมาได้ช่วงประมาณ 10 โมงครึ่ง นาย สุรศักดิ์ ให้ข้อมูลว่า จากจุดที่เขาอยู่ยังมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยอีก 2 คนน่าจะติดอยู่ด้วย

จากนั้นบ่ายโมง 50 นาที ก็นำร่างของ นายธนภพ ประไพ หรือ ต้น ออกมาเป็นศพแรก โดยมี พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำธงชาติมาคลุมร่างให้ ท่ามกลางความเสียใจของอาสาสมัครที่ร่วมปฏิบัติงาน

นายประดิษฐ์ โสดาบัน 1 ในอาสาสมัครที่อยู่ในเหตุการณ์บอกว่า ช่วงที่เกิดเหตุได้ตะโกนเตือนเพื่อนๆ ที่กำลังเข้าไปในอาคารแล้ว แต่ไม่ทันจะสิ้นเสียงก็เกิดเหตุสลดใจขึ้น

ขณะที่การค้นหาผู้รอดชีวิตได้นำเทคโนโลยีอุปกรณ์ตรวจวัดความสั่นสะเทือนและคลื่นเสียง เข้ามาใช้ แต่จากการตรวจสอบ และใช้สุนัขตำรวจ เค 9 เข้ามาร่วมค้นหากลับไม่มีปาฏิหารย์เกิดขึ้น

5 โมงเย็นของวันที่ 3 เมษายน พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยอีก 3 คน ที่ติดอยู่ด้านในอาคารเสียชีวิตทั้งหมดแล้ว รวมถึง นาย เกียรติ พนักงานบริษัทนำเที่ยวของบ้านหลังนี้ที่ติดอยู่ในห้องน้ำตั้งแต่เกิดเหตุเพลิงไหม้ก็เสียชีวิตแล้วเช่นกัน

จากนั้นเจ้าหน้าที่เริ่มวางแผนที่จะนำร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คน ออกมาให้สมบูรณ์และไวที่สุด ปฏิบัติการครั้งนี้เริ่มขึ้นในเวลาเกือบ 5 ทุ่ม เจ้าหน้าที่นำรถตัดถ่างเข้าพื้นที่ข้างบ้านจุดเกิดเหตุ เพื่อย่อยซากปรักหักพังที่มีชิ้นใหญ่ให้เล็กลง โดยใช้โดรนบินมุมสูงไว้ตลอดเวลา เพื่อวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์แบบเรียลไทม์ ซึ่งตลอดเวลาที่ดำเนินการ ต้องฉีดน้ำไปด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดควันหรือไฟเพิ่ม เนื่องจากภายในบ้านเกิดเหตุยังคงมีอุณหภูมิสูง อาจจะเกิดเพลิงซ้ำได้

กระทั่งพบร่าง นายสุทัศน์ เปลี่ยนกลัด เสียชีวิตอยู่ด้านข้างตัวบ้าน และนำศพออกมาได้ในเวลา ตีหนึ่ง 15 นาที และ 6 โมง 28 นาที เจ้าหน้าที่ก็นำร่าง นายสมัญญา นิลธง และ นายอรรถพล ท้วมทอง ซึ่งถูกคานทับเสียชีวิต อยู่ใกล้กับห้องน้ำของบ้านที่เกิดเหตุ ออกมาได้ แต่ที่น่าเศร้า คือ นายสมัญญา นายอรรถพล และนายสุทัศน์ ทั้งหมดเป็นญาติกัน ไปฟังเสียงความรู้สึกของ นางสาวนิตยา โกยทอง ภรรยาของ นายสมัญญา ส่วนศพสุดท้าย คือ นายเกียรติ พนักงานบริษัทของบ้านที่ถล่มออกมาได้ในเวลา 8 โมง 20 นาที และประกาศเสร็จสิ้นภารกิจทันที

ร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดถูกส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลศิริราช และครอบครัวของของทีมดับเพลิงก็เดินทางไปรอรับท่ามกลางความโศกเศร้า ร่างของ นายธนภพ นำตัวไปที่วัดนครอินทร์ จังหวัดนนทบุรี ส่วนร่างของ นายสุทัศน์, นายสัมญญา และ นายอรรถพล นำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดศาลาแดง ย่านบางแค โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับศพผู้เสียชีวิตไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และทรงรับผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ พร้อมพระราชทานพวงมาลาและน้ำหลวงอาบศพเป็นเกียรติแก่กู้ภัยทั้ง 4 รายด้วย

ล่าสุดทีมข่าวไปพูดคุยกับเพื่อนบ้าน ที่ติดกับบ้านหลังเกิดเหตุ เล่าว่า บ้านของเธอเสียหายเฉพาะกำแพงจากเหตุบ้านถล่ม และวันเกิดเหตุ มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยประมาณ 3 นาย เข้ามาที่บ้านและขอใช้พื้นที่ เมื่อเข้าไปได้ไม่นานนัก อาคารก็พังถล่มลงมา รู้สึกเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย

ซึ่งประเด็นหนึ่งที่เป็นที่สงสัยกัน คือ บ้านหลังนี้ถล่มลงมาได้อย่างไร เช้าวันนี้ (5 เม.ย.)  มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ เข้ามาสำรวจ ทั้งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เพื่อที่จะดูแลลูกจ้างในเรื่องสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ซึ่งในวันนี้ คาดว่าจะยังไม่มีการรื้อถอนซากอาคารที่พังถล่ม

โดย นายพรเลิศ เพ็ญพาส ผู้อำนวยการเขตทวีวัฒนา เผยว่า ขณะนี้ยังต้องรอใบอนุญาตในการรื้อถอนอยู่ ซึ่งจะต้องให้ตัวแทนเจ้าของอาคารมาทำเรื่องเอกสาร

ทั้งนี้ ทีมข่าวได้โทรศัพท์จากการสอบถาม ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกร ระบุว่า ในวันนี้ทางสภาวิศวกร จะไม่มีการลงพื้นที่ เนื่องจากติดภารกิจส่วนตัว เบื้องต้น ได้วิเคราะห์ผ่านการดูคลิปวิดีโอที่มีกานแชร์กันทางโซเชียลว่ามีสิ่งที่น่าสนใจคือ ต้องมาหาสาเหตุว่า เพราะเหตุใดอาคารถึงถล่มลงมา โดยมี 4 ปัจจัยหลัก ในการประเมิน คือ การออกแบบถูกต้องหรือไม, การก่อสร้างเป็นไปตามแบบหรือไม่, ใช้งานผิดประเภทหรือไม่, มีตัวเร่งในกรณีนี้หมายถึงเกิดเพลิงไหม้ และมากกว่านั้น ต้องมาวิเคราะห์ว่าเพราะเหตุใดเหตุการณ์ดังกล่าวจึงทำให้มีผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ทางสภาวิศวกรยังอยากให้มีการถอดบทเรียน ในกรณีที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ลักษณะนี้อีก ให้มีการนำแปลนของโครงสร้างอาคารมาดูควบคู่กับการทำงานของเจ้าหน้าที่

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนอาคารถล่ม มีสัญญาณให้เห็นแล้วว่าอาจจะไม่ปลอดภัยหากเจ้าหน้าที่เข้าไปทำงาน โดยจากในคลิป ตัวอาคารมีลักษณะแอ่นเป็นท้องช้าง กระทั่งเสาฝั่งขวาของตัวบ้านหักโค่น ทำให้อาคารทั้งหลังพังถล่มลงมา

เช้าวันนี้ มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ เข้ามาสำรวจ ทั้งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ซึ่งคาดว่าจะยังไม่มีการรื้อถอนซากอาคารที่พังถล่มเพราะต้องรอใบอนุญาตในการรื้อถอน ขณะที่ตำรวจ สน.ศาลาแดง ให้ปากคำกับตำรวจแล้ว

และในช่วงบ่ายวันนี้ สำนักงานประกันสังคม กำหนดมอบเงินช่วยเหลือทายาทผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เพลิงไหม้หมู่บ้านกฤษฎานคร 31 เวลา 13.00 น. ที่ วัดศาลาแดง โดยมี นางธิวัสรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นผู้มอบเงิน

ขณะที่ในโซเชียลมีเดียมีหนุ่มคนหนึ่ง เป็นพนักงานบริษัทประกัน โพสต์ข้อความ ว่า หนักแผ่นดิน โครม บ้านถล่มก่อนเพื่อนเลย แถมพาชีวิตจคนอื่นต้องพลอยซวยไปด้วย เจ้าของบ้านตายไหม ทำให้บริษัทต้นสังกัดมีมติให้พ้นสภาพการเป็นพนักงานแล้ว

นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านรังสิต แสดงความเห้นว่า ตายกันหมดไหมอะ พร้อมติดภาพการ์ตูนยิ้มและหัวเราะ ล่าสุดแฟนเพจของโรงพยาบาลโพสต์ประกาศขออภัย และได้ให้พ้นสภาพการเป็นพนักงานแล้ว

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/b6UpVyt5w0w