สังคม

โต้วุ่น ปมลิงอ้วน 'ก็อตซิลล่า' จนท.ยันคืนลิงให้เจ้าของไม่ได้ เพราะเป็นสัตว์ป่า แม้จะลดน้ำหนักได้แล้ว

โดย thichaphat_d

1 เม.ย. 2564

1.5K views

ความคืบหน้ากรณี ก็อตซิลล่า ลิงแสมตัวอ้วน อายุ 3 ปี 8 เดือน ซึ่งมีน้ำหนักเกินมาตราฐาน และเป็นลิงที่พลัดพรากจากเจ้าของ โดยมีครอบครัวของนายสมรักษ์ เอ็มสรรค์ รับมาดูแลกว่า 3 ปี จนตัวอ้วน ต่อมาทางกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รับไปดูแลเพื่อลดน้ำหนัก และปรับพฤติกรรมใหม่ ซึ่งลิงแสมเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง (ชนิดสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม) ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2562


เรื่องนี้เป็นดราม่ามาหลายวันและยังคงยุติปัญหาไม่ได้ ล่าสุด คุณสมรักษ์ เจ้าของลิง ออกมาเปิดเผยว่า เข้าใจว่าการดูแลของเจ้าหน้าที่ตามขั้นตอนกฎหมาย แต่อยากให้นึกถึงสภาพจิตใจของลิงและเจ้าของด้วย เพราะตนเลี้ยงมาเหมือนเป็นน้อง เป็นลูกอีกคนในครอบครัว ตอนนี้แม้ว่าก็อตซิลล่าจะกินอาหารได้ แต่ในใจน้องอาจจะแย่ ยอมรับว่าที่ผ่านมาเลี้ยงผิด ให้ข้าวกิน อยู่แบบคน ต้องอาบน้ำทุกวัน คนกินอะไรเขาก็กินด้วย อาหารที่ชอบมากคือ ข้าวเหนียวไก่ย่าง กินแบบนี้ประจำ


ช่วงแรกที่รับน้องมาเลี้ยงเพราะว่า พ่อแม่ของก็อตซิลล่า ประสบอุบัติเหตุ ตนจึงรับมาเลี้ยงและดูแล โดยมีการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่แล้ว และเจ้าหน้าที่บอกว่าให้ดูแลได้แต่อย่าให้ไปรบกวนคนอื่น จึงดูแลกันเรื่อยมา ช่วงแรกก็อตซิลล่าก็น้ำหนักปกติ แต่ระยะหลังไปฉีควัคซีน สัตว์แพทย์ก็แนะนำว่าให้ลดน้ำหนัก พอก็พาไปวิ่งออกกำลังกายหน้าบ้านและคุมอาหารแต่น้ำหนักยังไม่ลง ก็ดูแลมาเรื่อยๆ ไม่คิดว่าวันหนึ่งเจ้าหน้าที่จะมารับไป ในข้อกฎหมายเราเข้าใจ แต่ในมุมของสภาพจิตใจมันย่ำแย่ทั้งครอบครัวตนและก็อตซิลล่า


ซึ่งวันนี้ 1 เม.ย ตนจะเข้าเยี่ยมก็อตซวิลล่าอีกครั้ง และจะเตรียมทำหนังสือขอความอนุเคราะห์ให้ย้ายสถานที่ดูแลมาใกล้กทม. เพื่อที่ตนจะได้ไปดูแลช่วยเจ้าหน้าที่อีกทาง ซึ่งการที่ต้องการลิงมาดูแลเองไม่ใช่เพราะเอามาหาประโยชน์ แต่เป็นเพราะรักและเป็นห่วงมากเหมือนคนในครอบครัว ก๊อตซิลล่า เป็นเหมือนน้องชายผม


ทางด้านนางสาวมัชมณ แก้วพฤหัสชัย นายสัตว์แพทย์ชำนาญการ หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่2(กระบกคู่) คนดูแลเจ้าก็อตซิลล่า เปิดเผยว่า การที่เจ้าของเป็นห่วงสภาพจิตใจลิงนั้นก็เข้าใจได้ในฐานะที่เลี้ยงดูมานาน แต่อยากให้เข้าใจว่า ก็อตซิลล่าคือสัตว์ป่า ซึ่งเท่าที่รับมาดูแลก็มีอาการและพฤติกรรมก็เป็นสัญชาตญาณของลิงทั่วไป แต่จะฉลาดและเข้าใจไวมาก และเริ่มปรับตัว อย่างเช่น เวลาที่เห็นเจ้าหน้าที่นำอาหารมาให้ก็จะร้องกรี้ด เหมือนกับเวลาเจอเจ้าของ ซึ่งดูแล้ว จากการสังเกตุและละลายพฤติกรรมการกิน ปรับโภชนาการใหม่


คาดว่าใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ก็อตซิลล่าก็จะกลับมาน้ำหนักปกติ และอยู่ในวัยเจริญพันธ์อย่างสมบูรณ์ จึงขอให้สังคมเข้าใจและทฤษฎีการดูแลสัตว์นั้น อย่าไปใช้ใจเราตัดสินใจแทนสัตว์ เพราะเขาคือสัตว์ป่า ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงและไม่ต้องกังวลเรื่องการตรอมใจจนตาย เพราะมีทีมแทพย์ อยู่ดูแลตลอด24 ชม.


ประเด็นการจะขอย้ายสถานที่และการนำกลับมาดุแลเองนั้น นายธานี วงศ์นาค ผอ.ส่วนคุ้มครองสัตว์ป่า กรมอุทยานฯ ระบุว่า แม้จะลดน้ำหนักเจ้าก็อตซิลล่าได้แล้ว แต่ทางอุทยานฯไม่สามารถคืนให้กับเจ้าของไปเลี้ยงได้เพราะคือสัตว์ป่า แต่จะให้เจ้าของเข้าโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์ สามารถเข้ามาช่วยดูแลเลี้ยงดูได้แต่จะเอากลับไปเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว


ซึ่งกรณีที่เจ้าของบอกว่า โทรแจ้งเจ้าหน้าที่มารับไปดูแล แต่ได้รับคำแนะนำให้ดูแลได้ เป็นเรื่องที่เข้าใจผิด และเจ้าของนั้นโทรหาคนละหน่วยงาน เพราะตรวจสอบประวัติจากการโทรเข้ามา สามารถตรวจสอบได้เป็น 10 ปี ไม่พบเบอร์หรือข้อมูลของลิงตัวนี้ ส่วนจะให้ย้ายสถานที่มาดูแลใกล้ๆบ้านนั้น ก็ต้องพิจารณากันอีกครั้ง อยากให้สังคมเข้าใจว่า เราไปช่วยสัตว์ไม่ได้ไปพรากสัตว์ไปทรมาน


ส่วนกรณีที่ก็อตซิลล่า มีพฤติกรรมดุร้าย กัดนักข่าวตอนที่ไปทำข่าวที่บ้าน คุณมานพ เอ็มสวรรค์ ชี้แจงว่า วันนั้นเตือนนักข่าวแล้วว่าอย่าเข้าใกล้เพราะก็อตซิลล่าจะหวงของหวงบ้าน เขาจะเชื่องสำหรับบางคนเท่านั้น แต่นักข่าวคนนี้ไม่เชื่อ เห็นพุงน้องขาวเลยขอจับ จึงถูกกัด และขอยืนยันว่า เจ้าก็อตซิลล่าไม่ได้มีนิสัยดุร้าย เอาไปขายของที่ตลาดก็ไม่เคยทำร้ายใครมีแต่คนมาเล่นด้วย ซึ่งกรณีการกัดนักข่าวนั้นหลังเกิดเหตุ ขอยืนยันว่านักข่าวเข้าไปจับเองไม่เชื่อฟัง จึงเกิดเรื่องนี้


ทางด้านนักข่าว ที่ถูกเจ้าก็อตซิลล่ากัด ขณะนี้ได้พักรักษาตัวที่รพ.จุฬา โดยแพทย์งดเยี่ยมเพราะป้องกันการติดเชื้อ โดยขณะนี้ยังไม่สามารถระบุว่าเชื้อที่ติดนั้นเกิดมาจากอะไร



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/EQeU9S1DWGs

คุณอาจสนใจ

Related News