วิวาทะข้ามกระทรวง! กรมอุทยานฯถอนหมุดส.ป.ก.4-01 รุกเขาใหญ่ ด้านส.ป.ก.ยันจัดสรรถูกต้อง

วันนี้มีประเด็นร้อนเกิดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา หลังจากเมื่อวานนี้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช ไปตรวจสอบที่ดินแปลงหนึ่ง ที่ปักหมุดแสดงแนวเขต ส.ป.ก. และมี ผู้นำเอกสาร ส.ป.ก.มาแสดงสิทธิ์ด้วย แต่กรมอุทยานฯ ยืนยันว่าที่ดินเนื้อที่ 3 ไร่แปลงนั้น และอีกหลายแปลงใกล้เคียง อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จึงดำเนินคดี ผู้ครอบครองและถอนหมุด ส.ปก.นั้น ไปหารือในที่ประชุมอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้นครราชสีมา จนโต้เถียงดุเดือด หลักฐานที่มีว่าถูกต้อง



ล่าสุด ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เขาใหญ่และบอกว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็ว ก่อนจะกลายเป็นความขัดแย้งข้าม กระทรวง เพราะทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต่างมีก็รัฐมนตรีว่าการที่มาจากพรรคพลังประชารัฐด้วยกัน



วันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พบที่ดินบริเวณนี้ ที่บ้านเหวปลากั้ง ต.หมูสี อ.ปากช่อง มีร่องรอยถูกแผ้วทางด้วยการเปิดพื้นใหม่ และต้นมะม่วง

ราว 20 ต้น ลักษณะเพิ่งลงปลูกไม่นาน ส่วนใกล้เคียงกัน พบหลักหมุดเขตที่ดิน สปก.ปักเป็นแนวเขตไว้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ใช้โดรนบินสำรวจพื้นที่โดยรอบ

พบว่าพื้นที่โดยรอบเป็นป่าหนาทึบ มีรอยแหว่งถูกแผ้วทางเฉพาะบริเวณนี้ ขณะนั้นไม่พบผู้ใดอยู่ครอบครอง



วันที่ 9 มกราคมกล้อง N cap ที่เจ้าหน้าที่ติดไว้บนที่สูง บันทึกภาพชายคนหนึ่ง มารดน้ำต้นมะม่วงและจุดไฟเผาเศษกิ่งไม้ที่แผ้วถางทิ้งไว้ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวควบคุม และชาย คนนี้ก็แสดงเอกสาร สปก.4-01 ที่ตัวเองได้มาเมื่อเดือนพฤศจิกายนให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบว่าเอกสารนี้ให้สิทธิ์เขาครอบครอง 15 ไร่ เขาปลูกมะม่วง 20 ต้นในพืน้ที่ 3 ไร่



ต่อมาเจ้าหน้าที่อุทยานฯตรวจพบว่ายังมีคนอื่นๆอีก 4 คน ได้เอกสารสปก.4-01 คนละ 15 ไร่ รวม 5 คน เนื้อที่ 75 ไร่ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งความ 5 คนนี้ฐานร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐมีเจตนาครอบครองที่ดินของรัฐโดยมิชอบ โดยเจ้าหน้าที่อุทานฯ ยืนยันว่าที่ดินอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่



ต่อมาผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานฯ พร้อมชุดเฉพาะกิจพญาเสือลงไปตรวจสอบพื้นที่ตามแนวปักหมุด สปก. เพื่อเก็บข้อมูลเทียบกับภาพถ่ายดาวเทียม และเทียบกับภาพใน ประกาศแนวท้ายพระราชกฤษฏีกา ประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติเขาใหญ่เมื่อปี 2525 พบว่ามีการขึ้นรูปแปลงในแผนที่โฉนด ซึ่งสอดคล้องกับมีหมุดสปก. วางตามแนวเขตแปลงที่ดินครอบคลุมพื้นที่กว่า 972 ไร่ แต่รายชื่อผู้ครอบครองทั้งหมดยังถูกปกปิดไว้



นายชัยวัฒน์ ระบุว่าที่ดินที่วางหมุดสปก.รอปักแนวเขตทั้ง 900 กว่าอยู่ในเขตอุทยานฯเขาใหญ่ชัดเจน ตรวสอบได้จากแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา ส่วนในพื้นที่จะเห็นว่าแปลง ที่ดินเหล่านี้ อยู่ในแนวถนนป่าไม้ลำลอง ที่ทำไว้กั้นเขตแดนระหว่างเขตนอกและในอุทยาน



เจ้าหน้าที่ซึ่งเข้าตรวจสอบแปลงที่ดิน ได้ถอนต้นมะม่วง 20 ต้น ที่ปลูกบนที่ดินราวส 3 ไร่ พบว่าเป็นมะม่วงที่เพิ่งยกออกจากกระถางเพื่อปลูกไม่นาน จากนั้น ก็ใช้อำนาจตามกฎหมายว่าอุทยานฯ ถอนหมุด สปก.ออกทั้งหมด โดยส่วนหนึ่งนำไปเป็นหลักฐาน แจ้งความและส่วนหนึ่งนำไปหารือต่อ ที่ประชุมอนุกรรมการป้องกัน และปราบปรามการตัดไม้ ทำลายป่านครราชสีมาที่ประชุมกันเมื่อวานนี้



ในที่ประชุมเจ้าหน้าที่สปก.ยืนยันว่าที่ดินบริเวณนี้ ส.ป.ก.ได้มาจากคณะกรรมการพัฒนาที่ดิน หรือชื่อเดิมว่าคณะกรรมการจำแนกประเภทที่ดินกิดจากแปลงแยกที่ดิน ให้สปก.ดำเนินการ โดยมีมติครม.ในปี 2530 และในปี 2531 ก็นำเข้ากรรมการปฎิรูปที่ดิน โดยยืนยันว่ามีข้อมูลหลักฐานครบถ้วน



ขณะที่นายชัยวัฒน์ ยืนยันว่าที่ดินอยู่ในเขตอุทยานฯ และขอให้ ส.ป.ก.แจ้งความเจ้าหน้าที่อุทยานฯได้ หากเห็นว่าการถอนหมุดนั้นไม่ถูกต้องเพื่อจะได้พิสูจน์ข้อเท็จจริง



ในที่สุดที่ประชุมอนุกรรมการฯเมื่อวานนี้ มีมติให้ สปก.หยุดดำเนินการทั้งหมดก่อน จนกว่าจะตรวจสอบชัดเจน จากนั้นบ่าย 2 วันนี้ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ลงพื้นที่ด่วนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง เรื่องหมุด ส.ป.ก.ดังกล่าว พร้อมปรามเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ว่าต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย และระบุว่าไม่อยากให้เรื่องนี้บานปลายข้ามกระทรวง เนื่องจากทั้งกระทรวงเกษตรฯที่กำกับดูแล ส.ป.ก. และกระทรวงทรัพย์ ที่ดูแลกรมอุทยานฯ ล้วนมาจากพรรคเดียวกัน

และระบุว่าเรื่องนี้จะดำเนินการตามกฎหมาย ฝ่ายใดผิดต้องถูกดำเนินคดี ส่วนขั้นตอนต่างๆ ก็ให้หยุดไว้ก่อนเช่นกัน



กรณีนี้ กรมอุทยานแห่งชาติตรวจสอบข้อเท็จจริงต้งแต่เดือนมกราคม และเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ หรือก่อนที่จะไปรื้อถอนหมุดดังกล่าวนั้น ผู้อำนวยการสำนักอุทยานฯได้ไปร้องทุกข์ที่ สำนักงาน ป.ป.ช.ไว้แล้ว เพื่อให้ตรวจสอบว่า การออกเอกสาร ส.ป.ก.ดังกล่าวถูกต้องหรือไม่