ดราม่าลิงอ้วน 'ก็อตซิลล่า' เจ้าของวอนขอลิงคืน จนท.ช่วยลดน้ำหนัก ลงแล้ว 4 ขีด ปัดพรากมาทรมาน

คืบหน้ากรณีกรมอุทยานฯ รับก็อตซิลล่า ลิงแสมตัวอ้วนมาดูแลแทนเจ้าของ เพื่อปรับพฤติกรรมการกินและลดน้ำหนัก ล่าสุด เจ้าหน้าที่ทีมแพทย์ คลินิกสัตว์ป่า ศูนย์สัตว์ป่าที่2 (กระบกคู่) อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ดูแลก็อตซิลล่าตามขั้นตอน พบว่า 4 วัน มีน้ำหนักลดลง 4 ขีด โดยระบุว่า

- อาการทั่วไปของลิง ยังสดชื่นดี แสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติของลิง กินน้ำ และอาหาร คือ กล้วย ผักกาดขาว ถั่วฝักยาว ฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ถั่วลิสงต้ม และเสริมโปรตีนจากแมลง

- น้ำหนัก 17.2 กิโลกรัม (ลดจาก 26 มี.ค. 2564 ไป 4 ขีด)

- ลิงยังอยู่ในช่วงของการกักโรค ปรับโภชนาการและปรับพฤติกรรม

- การเจาะเลือดส่งตรวจผู้ดูแลเดิมไม่ประสงค์ให้ทำการวางยาสลบ จึงให้ความร่วมมือช่วยจับบังคับลิงในระหว่างเจาะเลือด แต่ไม่สามารถเจาะเลือดได้ เนื่องจากมีข้อจำกัดที่ต้องทำการเจาะเลือดที่ขา ท่าจับบังคับไม่ค่อยเหมาะสม หาเส้นเลือดได้ยากเนื่องจากลิงมีน้ำหนักตัวมาก

- ลิงเข้าพักในกรงพักสัตว์ป่าชั่วคราวภายในคลินิกสัตว์ป่า ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) ซึ่งเป็นห้องพักที่ใหญ่ขึ้น ผู้ดูแลเดิมเกิดความพึงพอใจ และยอมรับได้ ซึ่งหลังจากมีการนำเจ้าก็อตซิลล่ามาดูแล ก็มีกระแสดราม่าว่า เจ้าหน้าที่ควรนำลิงคืนเจ้าของเพราะถูกเลี้ยงมาจนเชื่องและติดคนแล้ว การพรากลิงไปส่งผลกระทบจิตใจ

เรื่องนี้ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ดูแลให้ข้อมูลว่า เจ้าก็อตซิลล่าไม่มีเจ้าของถือเป็นของกลาง เป็นสัตว์พลัดหลง แต่มีคนนำไปดูแล ซึ่งมีการลงบันทึกประจำวันไว้ วันที่เจ้าหน้าที่ไปรับมาดูแล หากจะบอกว่ามีเจ้าของ ก็ต้องนำหลักฐานในการครอบครองมายืนยัน

"อยากให้สังคมเข้าใจว่าการที่ เจ้าหน้าที่นำก็อตซิลล่ามาดูแล เป็นการช่วยสัตว์ เพราะเจ้าก็อตซิลล่ากำลังป่วยด้วยโรคอ้วน หากปล่อยไปไม่ดูแล อันตรายจะตกกับสัตว์"

ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ก็เคยดูแลลิงอ้วนลักษณะนี้มาแล้ว คือ เจ้าอ้วนลิงแสมที่บางขุนเทียน ตอนนั้นใช้เวลากว่า 3 เดือน ก็สามารถลดน้ำหนักและปรับพฤติกรรมได้ เมื่อปรับร่างกายและพฤติกรรมการกินแล้ว ก็นำไปปล่อยสู่ธรรมชาติเหมือนเดิม ต้องเข้าใจว่าลิงแสมไม่ใช่สัตว์เลี้ยง

การที่อ้วนแบบนั้นคือการดูแลที่ผิด และผลกระทบเกิดกับสัตว์เอง การลดน้ำหนักก็คล้ายกับคน คือต้องควบคุมการกินอาหารและออกกำลังกาย ไม่ใช่การให้ลิงกินอาหารเม็ด

เรื่องการดูแลเจ้าก็อตซิลล่านั้น ทางนายมานพ เอ็มสวรรค์ คนดูแล เปิดเผยว่า ตอนนี้คิดถึงและทำใจไม่ได้ เพราะเป็นห่วง เจ้าก็อตซิลล่า อยากให้เจ้าหน้าที่เข้าใจว่าเขาไม่ใช่สัตว์ป่า เป็นสัตว์เลี้ยง เพราะมีคนดูแลเขามาตลอด การที่นำไปลดน้ำหนักนั้น หากเป็นไปได้อยากขอให้ตนนำกลับมาดูแลเอง ซึ่งยินดีจะทำตามคำแนะนำทุกอย่างของเจ้าหน้าที่ แต่ขอแค่ได้อยู่ด้วยกัน

ตอนนี้เป็นห่วงมาก เพราะเจ้าก็อตซิลล่าเคยนอนห้องแอร์ เมื่อไม่ได้อยู่แอร์ก็เกิดผื่นคัน และเกาจนเป็นรอยแดง วันที่ไปเยี่ยมเจ้าก็อตซิลล่าเห็นหน้าก็ร้องดีใจ เราผูกพันธ์กันมาก อยากขอความเห็นใจจากเจ้าหน้าที่

นอกจากนี้มีรายงาน นิสัยของเจ้าก็อตซิลล่าไม่ใช่ลิงใจดีแสนเชื่อง พบว่า บางช่วงจะมีนิสัยดุร้ายกับคนแปลกหน้า โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้สื่อข่าวสำนักหนึ่งไปทำข่าว และกำลังจะลูบหัวเจ้าก็อตซิลล่า แต่จังหวะนั้นก็อตซิลล่ากัดเข้าที่นิ้วมือ อย่างแรงจนเป็นแผลฉกรรจ์ ต้องทำการผ่าตัด และพบว่าขณะนี้ แผลนั้นมีการติดเชื้อ ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล

ซึ่งเรื่องนี้นายมานพ คนเลี้ยง บอกว่า เจ้าก็อตซิลล่า กัดนักข่าวจริง ซึ่งตนได้เตือนนักข่าวคนนี้แล้วว่า ให้ระวังเพราะก็อตซิลล่าไม่ได้เชื่องสำหรับคนแปลกหน้า วันนั้นจึงกัดเข้าที่นิ้วของนักข่าว และขอยืนยันว่า เจ้าก็อตซิลล่าฉีดวัคซีนทุกปี ไม่มีเชื้ออันตรายใดๆทั้งสิ้น

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/HR8rKG_voTc