เปิดปม ผอ.เครียดชักปืนหน้าเสาธง สัมพันธ์ลึกซึ้ง นร.ม.3 แม่เด็กลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด

ระทึกกลางโรงเรียน เมื่อผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.เทพา จ.สงขลา วัย 60 ปี ก่อเหตุงัดปืนโชว์นักเรียนหน้าเสาธง ทำเอานักเรียนแตกฮือหนีเตลิดวุ่น

ในระหว่างที่ ผอ.พูดคุยในหลายประเด็น ช่วงหนึ่งระบุว่า อาจจะลาโรงเรียน 2-3 วัน และได้มีการพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมกับกล่าวคำขอโทษและทิ้งท้ายว่า ผอ.ได้ขอโทษเขาแล้วและจะทำเรื่องนี้ให้ดังกว่าที่เขาทำ จากนั้นก็ได้เปิดเสื้อคลุมออกจนเห็นปืน

ก่อนที่คณะครูจะรีบเข้าไปหาเพื่อป้องกันการเกิดเหตุร้าย และพาตัว ผอ.ไปสงบสติอารมณ์ พร้อมประกาศงดการเรียนการสอน และประสานให้ผู้ปกครองมารับเด็กกลับบ้าน ท่ามกลางข่าวสะพัดปมเหตุ ผอ.เครียดจัด จากข่าว ความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนักเรียนหญิงชั้น ม.3 จนผู้ปกครอง ออกมากดดันให้รับผิดชอบ รวมถึงเข้าแจ้งความแล้ว

หลังเกิดเหตุกลุ่มครูได้พาตัว ผอ. นั่งรถตู้ออกไปจากโรงเรียนทันที โดยมุ่งหน้าไปยัง สภ.เทพา เพื่อมอบตัวกับตำรวจ เบื้องต้นทราบว่า ปืนที่ก่อเหตุเป็นปืนที่มีใบอนุญาต แต่ตำรวจได้ให้นายเอ เอาเอกสารการใบอนุญาตปืนมายืนยันอีกครั้ง จากนั้นได้ปล่อยตัวกลับไป

ด้านเเม่เด็กหญิง ม.3 ที่ตกเป็นข่าวยืนยันเป็นเรื่องจริง โดยเล่านาทีบุกถามความจริงถึงโรงเรียน ให้ ผอ.แสดงความรับผิดชอบลาออก หลังเค้นถามลูกสาวบอกมีความสัมพันธ์ หลายครั้งกับ ผอ. ตั้งเเต่ต้นปี หนึ่งในนั้นเกิดขึ้นภายในบ้านพัก ผอ. ในโรงเรียน แต่ ผอ. กลับปฏิเสธสวนทางกับที่ลูกสาวพูด จึงแจ้งความ ลั่นจะเอาเรื่องถึงที่สุดและไม่ได้ต้องการเรียกร้องเงินทอง หรือค่าเสียหายใดๆ ทั้งสิ้นส่วนลูกสาวตอนนี้ให้หยุดเรียนไปก่อนชั่วคราว เพราะสภาพจิตใจยังไม่ปกติ

ล่าสุด ได้มีคำสั่งย้ายให้ ผอ.โรงเรียน ไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16 เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวน และจะดำเนินการไปตามขั้นตอนต่อไป

ทั้งนี้ นายศังกร รักชูชื่น ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16  เผยปมปัญหาว่า เป็นเรื่องขึ้นมานานราว 1 สัปดาห์ โดยมีการพูดถึงพฤติกรรมระหว่างผู้อำนวยการโรงเรียนและเด็กนักเรียนหญิงชั้นมัธยม โดยในช่วงค่ำของวันที่ 3 ก.พ.64 ผอ.โรงเรียนได้โทรศัพท์มาหาเพื่อปรับทุกข์ และบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ลักษณะคล้ายกับจะสั่งลา จึงแนะนำให้ตั้งสติ ทุกปัญหามีทางออก ขอให้ใช้วิธีที่ถูก ที่ควร และการคิดสั้นก็เป็นสิ่งที่ผิดตามหลักศาสนาด้วย

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/TdClIFgVUbg