อาสากู้ภัยร้องสื่อมวลชน โดนเด็กนักการเมือง ตบหัว-กระชากคอเสื้อ-ขู่ยิงทิ้ง เหตุมาถึงจุดเกิดเหตุช้า

วันที่ 14 เม.ย. 2567 เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย มูลนิธิร่มโพธิ์เพชรบูรณ์ จำนวน 4 นาย ร้องเรียนต่อสื่อมวลชน หลังถูกเจ้าของฟาร์มวัวแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลระวิง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ทำร้ายร่างกายด้วยการตบศีรษะและผลักหน้าอก ในขณะที่เดินทางไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เหตุเกิดบนทางหลวง สายอำเภอเมือง-ตำบลระวิง ในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลระวิง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งก่อนเกิดเหตุอาสามูลนิธิร่มโพธิ์เพชรบูรณ์ รับการประสานงานว่ามีอุบัติเหตุ รถยนต์ชนรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บในที่เกิดเหตุ ขอให้ช่วยนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล อาสากู้ภัยจึงพากันเดินทางไปที่เกิดเหตุ จำนวน 4 คัน ซึ่งเมื่อเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ จึงรีบทำการปฐมพยาบาล ผู้บาดเจ็บ

ในขณะนั้นได้มีชายฉกรรจ์คนหนึ่ง สวมเสื้อยืดสีขาว เดินเข้ามาหา เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย พร้อมทั้งพูดขึ้นมาว่า "ทำไมมาช้าจัง" พร้อมทั้งมีการใช้มือกระชากคอเสื้ออาสากู้ภัย พร้อมทั้งใช้มืออีกข้าง ตบเข้าที่ศีรษะของอาสากู้ภัยอย่างแรง โดยมีอาสากู้ภัย จำนวน 4 ราย ที่ถูกทำร้ายร่างกายโดยการตบศีรษะ และบางคนถูกผลักอก นอกจากนี้ยังมีคำพูดว่า "เดี๋ยวกูยิงเลย" โดยชายคนก่อเหตุ ต่อมาทราบชื่อคือ เสี่ยโก้ เป็นเจ้าของฟาร์มวัวแห่งหนึ่งในพื้นที่ ตำบลระวิง อำเภอเมือง และยังทำตัวเป็นขาใหญ่ในพื้นที่ เพราะถือว่าเป็นเด็กนักการเมืองคนหนึ่ง ส่วนสาเหตุที่เสี่ยโก้เจ้าของฟาร์มวัว ไม่พอใจก่อเหตุลงมือตบหัว อาสากู้ภัย ทั้ง 4 ราย เนื่องมาจากเสี่ยโก้อ้างว่าอาสากู้ภัยมาถึงที่เกิดเหตุล่าช้า โดยที่เสี่ยโก้ไม่ดูว่าระยะการเดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุนั้น มีระยะทางค่อนข้างไกลเกือบจะ 30 กิโลเมตร

ซึ่งหลังนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่มโพธิ์เพชรบูรณ์ ทั้ง 4 นาย ก็ได้ทำการตรวจร่างกาย ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ พร้อมทั้งนำผลการตรวจร่างกาย เดินทางไปลงบันทึกประจำวัน ที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อที่จะดำเนินคดีกับชายคนก่อเหตุแล้ว เนื่องจากเกรงว่าเสี่ยโก้ซึ่งเป็นเด็กนักการเมืองคนหนึ่ง และมีความเชื่อมโยงกับนักการเมืองใหญ่ จึงเกรงว่าพวกตนจะไม่ได้รับความปลอดภัยในอนาคต

จากการสอบถาม นายธนวัฒน์ อายุ 19 ปี เล่าว่า ตนเองไปช่วยเหตุรถจักรยานยนต์ชนรถกระบะ ซึ่งระยะทางที่เดินทางไปไกลรวม 30 กว่ากิโล เมื่อไปถึงตนเองเห็นคนเจ็บก็จึงไปช่วย จากนั้นมีเสียงตะโกนขึ้นมาเสียงหนึ่ง ซึ่งตนเองได้ยินไม่ชัด แต่ได้ยินประมาณว่ามาช้า จากนั้นชายคนดังกล่าวก็เดินเข้ามาหา แล้วพูดกับตนว่า "พวกมึงมาช้ากันจัง" ซึ่งตนก็ได้อธิบายว่าตัวเองขับออกมาจากในเมืองต้องใช้เวลา จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ตบศีรษะตน แล้วพูดว่าจากในเมืองจะไกลสักเท่าไหร่เชียว จากนั้นก็หันไปหากู้ภัยอีกคน แล้วพูดว่าใครเป็นหัวหน้าพวกมึงและกระชากคอเสื้ออาสากู้ภัย แล้วก็พูดว่ามึงใช่ไหมหัวหน้าและตบที่ศีรษะอย่างแรง จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ได้หันไปหาน้องอีกคนหนึ่ง แล้วถามว่าใครเป็นคนขับรถ จากนั้นก็ตบไปที่น้องคนนั้น ซึ่งตอนนั้นตนเองกำลังนั่งทำแผลให้คนเจ็บอยู่ ก็ถูกตบเข้าที่หูด้านซ้าย พอตนตั้งสติได้ตนก็ช่วยคนเจ็บต่อ ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร ได้ยินคำพูดสุดท้ายคือ ไม่ต้องห้ามปล่อยกู เดี๋ยวยิงทุกคนเลย จากนั้นเขาก็เดินหายไป ซึ่งตนก็ได้นำคนเจ็บขึ้นรถแล้วก็ออกจากที่เกิดเหตุ ส่วนตัวนั้นไม่ได้รู้จักผู้เกิดเหตุมาก่อน ยอมรับว่าตั้งแต่เป็นอาสามาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ วันนี้ตนเองจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะพวกตนเป็นจิตอาสา เต็มใจไปช่วย แต่พอโดนแบบนี้ก็จะต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด 

ด้าน นายแป๊ะ รองประธานที่ปรึกษามูลนิธิร่มโพธิ์เพชรบูรณ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนเองจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเพราะความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ เราต้องดูแลเขาทุกคน ถ้าเราไม่เอาเรื่อง วันข้างหน้าก็จะเกิดเรื่องขึ้นมาอีก เราเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของเด็ก วันนี้อยากจะฝากประชาชนชาวตำบลระวิงว่าที่เราไปรับผู้บาดเจ็บ เราไม่เคยเรียกรับเงินทอง รับฟรี ส่งฟรี หรือเมื่อมีการสั่งการจาก 1669 และที่มูลนิธิก็จะสั่งเจ้าหน้าที่ออกเหตุ แต่พอไปเจอเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งเราไม่แน่ใจว่าเขาเป็นคนยังไง ยอมรับว่าเสียกำลังใจ แต่ก็ไม่ได้ท้อยังจะทำงานต่อไปเพื่ออประชาชน