ต่างประเทศ

“สส.เซอร์เบีย” ปาระเบิดควัน-แก๊สน้ำตา กลางสภา เหตุไม่พอใจรัฐบาล

โดย JitrarutP

5 มี.ค. 2568

244 views

เกิดเหตุความวุ่นวายขึ้นกลางสภาเซอร์เบีย หลัง สส.พรรคฝ่ายค้าน พากันปาระเบิดควันและแก๊สน้ำตา ขณะที่กำลังมีการประชุมเนื่องจากไม่พอใจฝ่ายรัฐบาล ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 4 คน หนึ่งในนั้นเกิดภาวะสมองขาดเลือดเฉียบพลัน

เหตุการณ์ความวุ่นวายนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมสภาเริ่มต้นขึ้นได้ประมาณ 1 ชั่วโมง และหลังจากฝ่ายรัฐบาลซึ่งนำโดยพรรคก้าวหน้าเซอร์เบีย (SNS) ได้อนุมัติวาระการประชุมสภา ทำให้สมาชิกฝ่ายค้านบางคนไม่พอใจ วิ่งออกจากที่นั่งไปบุกไปยังบัลลังก์ประธานสภา ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยวิ่งมาขวาง และเกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้น

ในเวลาต่อมา สส. พรรคฝ่ายค้านก็เริ่มขว้างปาระเบิดควัน, แก๊สน้ำตา, และจุดพลุสี บางสื่อบอกว่ามีการฉีดสเปรย์พริกไทยด้วย ทำให้เกิดควันฟุ้งกระจายเต็มห้องประชุม มีการชกต่อย เป่านกหวีด และชูป้ายที่มีข้อความ "เซอร์เบียลุกขึ้นสู้ เพื่อโค่นล้มระบอบนี้" ด้วย ซึ่งภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ถูกถ่ายทอดสดบนโทรทัศน์

สำหรับชนวนเหตุของความวุ่นวายนี้ รายงานระบุว่าเกิดจากที่รัฐบาลเดินหน้าประชุมพิจารณากฎหมายใหม่เพื่อเพิ่มงบประมาณด้านการศึกษา ทำให้ฝ่ายค้านมองว่าการประชุมครั้งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และรัฐบาลไม่มีอำนาจในการออกกฎหมายใหม่เพราะสภายังไม่ได้รับรองการลาออกของนายกรัฐมนตรีมิโลซ วูเซวิชที่ประกาศลาออกไป เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งตามหลักการ เมื่อผู้นำรัฐบาลลาออก รัฐสภาต้องรับรองการลาออกนั้นก่อน

ด้านประธานสภาได้ประณามฝ่ายค้านว่าเป็น “แก๊งก่อการร้าย” และบอกว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการก่ออาชญากรรม สะท้อนให้เห็นถึงวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่รุนแรงของประเทศนี้

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ สส. ได้บาดเจ็บอย่างน้อย 4 คน หนึ่งในนั้นเป็น สส. พรรครัฐบาล เกิดอาการสโตรกและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งในเวลาต่อมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของเซอร์เบียบอกว่า สส. คนดังกล่าวมีอาการวิกฤตน่าเป็นห่วง

ขณะเดียวกัน อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ สส. พรรคฝ่ายค้านก่อเหตุความวุ่นวายนี้มาจากการที่พวกเขาต้องการแสดงการสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาและประชาชนจำนวนมากที่ออกมารวมตัวประท้วงขับไล่รัฐบาลเป็นเวลานานประมาณ 4 เดือน หลังเกิดเหตุหลังคาสถานีรถไฟในเมืองโนวีซาด เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศพังถล่มเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 คน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้จุดชนวนความโกรธแค้นอย่างมากให้กับประชาชนที่ไม่พอใจรัฐบาลจากปัญหาการทุจริตและการขาดการกำกับดูแลโครงการก่อสร้างและการพัฒนาที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

คุณอาจสนใจ

Related News