ต่างประเทศ

เปิดสาเหตุสำคัญโศกนาฏกรรม ฮ.ทหาร ชน เครื่องบินอเมริกันแอร์ไลน์

โดย JitrarutP

31 ม.ค. 2568

4.6K views

เปิดสาเหตุสำคัญโศกนาฏกรรม “เฮลิคอปเตอร์ทหาร” ชน เครื่องบินโดยสารของสายการบิน อเมริกัน อีเกิล ในเครือ อเมริกันแอร์ไลน์ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 67 ราย บริเวณแม่น้ำโพโตแม็ก ใกล้กับสนามบินแห่งชาติเรแกน

สืบเนื่องจากเหตุเครื่องบินโดยสารของสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ชนกับเฮลิคอปเตอร์ทหารในกรุงวอชิงตัน ดีซี เมื่อคืนวันที่ 29 มกราคม (ตามเวลาท้องถิ่น) จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 67 คนซึ่งถือเป็นโศกนาฏกรรมทางอากาศที่มีอยู่เสียชีวิตมากที่สุดของสหรัฐฯ ในรอบ 20 ปี ล่าสุด มีรายงานเปิดเผยออกมาว่า หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมนี้คือ การจราจรทางอากาศที่หนาแน่น

กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป็นเมืองหลวงของสหรัฐอเมริกาที่มีหน่วยงานของรัฐบาลสำคัญ ๆ ตั้งอยู่มากมาย ทั้ง ทำเนียบขาว, อาคารรัฐสภา, กระทรวงกลาโหม รวมถึง ฐานทัพต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีสนามบินอีกหลายแห่ง ทำให้มีการจราจรทางอากาศที่หนาแน่น

ขณะที่เครื่องบินทหารมักมีการฝึกบินทั้งในและรอบ ๆ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป็นประจำ เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับพื้นที่และความต่อเนื่องของการวางแผนของรัฐบาล

ข้อมูลจากรัฐบาลเปิดเผยว่า ในระหว่างปี พ.ศ. 2560 – 2562 มีเฮลิคอปเตอร์บินทำการบินอยู่ภายในรัศมี 48 กิโลเมตรจากสนามบินแห่งชาติเรแกนประมาณ 88,000 ลำ รวมถึง มีเที่ยวบินของทหารอีกประมาณ 33,000 เที่ยวและเที่ยวของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย 18,000 เที่ยว

เนื่องจากรันเวย์มีความสั้น เที่ยวบินมากกว่า 90% จึงเลือกใช้รันเวย์หลักของสนามแห่งนี้ในการลงจอดและขึ้นลง ทำให้รันเวย์ดังกล่าวเป็นรันเวย์ที่มีเที่ยวบินคับคั่งมากที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ โดยมีเครื่องบินขึ้นและลงมากกว่า 800 เที่ยวต่อวัน

สนามบินแห่งชาติเรแกนมีรันเวย์ทั้งหมด 3 รันเวย์ รันเวย์ที่ถูกใช้งานมากที่สุดคือรันเวย์ 1/19 ซึ่งมีความยาว 7,167 ฟุต (ประมาณ 2.1 กิโลเมตร) ส่วนรันเวย์ที่เครื่องบินอเมริกันแอร์ไลน์จะลงจอดคือนรันเวย์ 15/33 มีความยาว 5,204 ฟุต (ประมาณ 1.58 กิโลเมตร) ส่วนอีกหนึ่งรันเวย์ที่สั้นที่สุด คือรันเวย์ 4/22 มีความยาว 5,000 ฟุต (ประมาณ 1.5 กิโลเมตร)

ข้อมูลดังกล่าวที่ถูกเปิดเผยมาทำให้หลายคนเชื่อว่า หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมนี้คือ ความหนาแน่นของการจราจรทางอากาศ

ผู้โดยสารคนหนึ่งได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ ขณะที่กำลังเดินทางออกจากสนามบินแห่งนี้ ซึ่งจะเห็นว่าขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นฟ้า เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมามีเฮลิคอปเตอร์บินขนาบข้างอย่างใกล้ชิด 2 ลำ

ด้านนายดาร์เรล เฟลเลอร์ อดีตนักบินของกองกำลังป้องกันประเทศของสหรัฐฯ ออกมาบอกว่าโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันที่เคยเกิดขึ้นกับเขาเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ขณะกำลังขับเฮลิคอปเตอร์ทหารไปทางทิศใต้ตามแม่น้ำโพโตแม็กใกล้กับสนามบินแห่งชาติเรแกน

ตอนนั้น เจ้าหน้าที่หอควบคุมการจราจรทางอากาศแนะนำให้เขาระมัดระวังเครื่องบินพาณิชย์ที่จะลงจอดบนรันเวย์ 3-3 ซึ่งเส้นเป็นทางที่เครื่องบินจะต้องบินข้ามแม่น้ำจากตะวันออกไปทางตะวันตก ตัดกับเส้นทางที่เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่าง ๆ บินเข้าและออกจากอาคารรัฐสภา

เฟลเลอร์บอกว่าแม้สภาพอากาศจะแจ่มใส แต่เขามองไม่เห็นเครื่องบินพาณิชย์เลยเพราะแสงไฟจากเมืองและรถยนต์ที่วิ่งอยู่บนสะพานใกล้เคียง ทำให้เขาลดระดับเฮลิคอปเตอร์ลงและบินอยู่เหนือแม่น้ำเพียง 50 ฟุต (ประมาณ 15 เมตร) เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องบินพาณิชย์จะบินผ่านเฮลิคอปเตอร์ของเขาไป



ขณะเดียวกันก็มีรายงานออกมาว่า ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ หอควบคุมการจราจรทางอากาศของสนามบินแห่งชาติเรแกนมีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ

รายงานความปลอดภัยเบื้องต้นขององค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ FAA ระบุว่าจำนวนเจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับช่วงเวลาและปริมาณการจราจรทางอากาศ เจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลการบินของเฮลิคอปเตอร์ ต้องทำหน้าที่ควบคุมเครื่องบินพาณิชย์ที่จะลงและขึ้นจากสนามบินดังกล่าวไปด้วย ขณะที่ปกติ จะต้องมีเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแล 2 คน

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้พบกล่องดำ 2 กล่องที่เป็นกล่องบันทึกข้อมูลการบินและกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินแล้ว ซึ่งตอนนี้ถูกนำไปตรวจวิเคราะห์ที่ห้องปฏิบัติการของคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติ (NTSB) เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดแล้ว และคาดว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นออกมาภายในเวลา 30 วันนับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ

ขณะเดียวกัน ก็ค่อนข้างที่จะเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผู้โดยสาร ลูกเรือ รวมถึงทหารบนเฮลิคอปเตอร์เสียชีวิตทั้งหมด 67 คน แต่เจ้าหน้าที่สามารถกู้ร่างขึ้นมาจากน้ำได้แล้วแค่ 28 คน

คุณอาจสนใจ

Related News