ตลาดหุ้นโลกฟื้นตัว หลัง 'แบล็กมันเดย์' นิกเคอิพุ่ง 11% ตลาดโลกโดยรวมปรับขึ้น หลังเจอเทขายหนัก

หลังจากที่ตลาดหุ้นทั่วโลกเจอกับภาวะการเทขายอย่างหนัก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ล่าสุด ตลาดหุ้นหลายแห่งได้กลับมาฟื้นตัวแล้ว

ดัชนีนิกเคอิของญี่ปุ่น ปิดตลาดเมื่อวานนี้ ปรับขึ้นไป 3,2170.4 จุด +10.23% ปิดที่ 34,675.46 จุด ทำสถิติเป็นการปรับขึ้นที่มากที่สุดในวันเดียว หลังจากที่ก่อนหน้านั้นเมื่อวันจันทร์ นิคเคอิได้ทำสถิติติดลบมากที่สุดในวันเดียว ตั้งแต่ปี 2022 ซึ่งติดลบไป 12.40% หรือ -4,451.18 จุด

ส่วนที่เกาหลีใต้ ดัชนีคอสปี ปรับขึ้น 3.30% ขณะที่ดัชนีคัมโพสิต ของตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ปรับขึ้นเล็กน้อย 0.23%

กระนั้นก็ตาม ทางด้าน คริส เวสตัน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของบริษัทโบรกเกอร์ เปบเปอร์สโตน เตือนว่า ยังคงเห็นระดับความผันผวนของดัชนีนิกเคอิอยู่ ไปอีกสักระยะหนึ่ง

ขณะที่ ตลาดหุ้นยุโรป และสหรัฐฯ ก็กลับมาฟื้นตัวได้เช่นกัน โดยดัชนีแดกซ์ของเยอรมนี ปรับเพิ่มขึ้น 0.09% ดัชนีฟุตซี 100 ของอังกฤษปรับขึ้น 0.23% และดัชนีซีเอซี -40

ส่วนดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยที่ 0.76% เอสแอนด์พี-500 ปรับขึ้น 1.04% และ แนสแดกปรับขึ้น 1.03%

สถานการณ์การร่วงลงอย่างหนักของหุ้นทั่วโลก เริ่มขึ้นเมื่อปลายสัปดาห์ก่อนที่มีการเทขายหุ้นอย่างหนัก โดยมีรายงานข่าวในวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม ว่า อัตราการจ้างงานในเดือนกรกฎาคมของสหรัฐฯ ชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ค่อนข้างมาก จนทำให้เกิดความหวั่นวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะดำเนินมาตรการเข้มงวดเพื่อจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น หลังจากที่มีการบังคับใช้นโยบายดอกเบี้ยสูง เพื่อควบคุมเงินเฟ้อมาเป็นเวลานาน

ขณะที่นักลงทุนมืออาชีพเตือนว่า ปัจจัยทางเทคนิคบางอย่างอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นผันผวนมากขึ้น และเกิดการปรับลดมากเกินไป

-------------