สหรัฐฯขึ้นดอกเบี้ยตามคาดอีก 0.5% แตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี ฉุดตลาดหุ้นร่วงทันที

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งที่ 0.5% เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ ทำให้อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯพุ่งขึ้นไปแตะที่ 4.25-4.50% ซึ่งถือเป็นดอกเบี้ยที่สูงทีสุดในรอบ 15 ปี นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2007 ก่อนหน้าวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในปี 2008

อย่างไรก็ตาม ถือเป็นการปรับขึ้นที่น้อยกว่าในครั้งก่อนๆ หน้า โดยเมื่อ 4 ครั้ง ก่อนหน้านี้ เฟดได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 0.75% ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดเริ่มที่จะชะลอความร้อนแรงของการขึ้นดอกเบี้ยลง

แต่กระนั้นก็ตาม เจอโรม เพาเวลส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯระบุว่า คาดว่าเฟดจะยังรักษาระดับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปตลอดจนถึงปลายปีหน้า ซึ่งเจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจจะขึ้นไปแตะที่ 5.1% ในที่สุด โดยจะมีเป้าหมายดอกเบี้ยที่ระหว่าง 5.0-5.25%

ทั้งนี้ การส่งสัญญาณถึงการขึ้นดอกเบี้ยต่อไปตลอดปีหน้านั้น ทำให้ตลาดหุ้นผิดหวัง และปรับลดลงกันทั้งหมดโดย

• ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลงไป 0.42% ไปปิดที่ 33,966.35 จุด
• แนสแดก ปรับลดลงไป 0.76% ปิดที่ 11,170.89 จุด
• เอสแอนด์พี-500 ปรับลดลง 0.61% ปิดที่ 3,995.32 จุด