ต่างประเทศ

'ปูติน' ประกาศชัยชนะเหนือสมรภูมิ 'มาริอูโปล' สั่งปิดโรงเหล็กที่มั่นสุดท้ายทหารยูเครน จนกว่าจะยอมออกมาเอง

โดย nattachat_c

22 เม.ย. 2565

156 views

ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ประกาศชัยชนะเหนือสมรภูมิรบที่เมืองมาริอูโปล เมื่อท่าทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนแล้ว หลังต่อสู้กันมานาน และรัสเซียปิดล้อมเอาไว้ได้ พร้อมกับสั่งไม่ให้ทหารรัสเซียบุกโรงเหล็ก 'อาซอฟสตัล' ซึ่งเป็นโรงถลุงเหล็กที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยูโรป และ เป็นแหล่งที่มั่นสุดท้ายของทหารยูเครน และทหารพันธมิตรในเมืองนี้  โดยปูติน สั่งให้ใช้วิธีการปิดล้อมโรงเหล็กดังกล่าวแทน จนกว่าทหารยูเครนจะยอมจำนนออกมาเอง ไม้ว่าจะต้องปิดล้อมนานเท่าไหร่ก็ตาม


โดย ปูตินได้กล่าวในระหว่างการประชุมกับ เซียร์ไก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมในเครมลิน โดยมีการถ่ายทอดทางทีวี เมื่อวันพฤหัสบดี ไม่มีความจำเป็นต้องเข้ากวาดล้างนักรบยูเครนกลุ่มสุดท้าย ที่ถูกปิดล้อมอยู่ภายในโรงงานเหล็ก และ ให้ใช้วิธีปิดล้อมโรงานดังกล่าวต่อไปอย่างแน่นหนาชนิด “แม้แต่แมลงวันก็ไม่ให้บินออกมาได้”


ทั้งนี้ ประเมินว่า ยังมีทหารยูเครนและนักรบรับจ้างต่างชาติราว 2,000 นาย อยู่ภายในโรงงานแห่งนั้น ซึ่งถือเป็นโรงหลอมโลหะขนาดใหญ่มีพื้นที่กว้างขวางถึง 11 ตารางกิโลเมตร พรั่งพร้อมด้วยอาคารขนาดใหญ่มาก บังเกอร์ และอุโมงค์ใต้ดินยาวเหยียด ปูตินนั้นเคยพูดถึงพวกทหารยูเครนเดนตายเหล่านี้ว่า จะต้องวางอาวุธยอมจำนน ไม่เช่นนั้นก็จะต้องตาย


ปูตินกล่าวว่า “ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องปีนลงไปในสุสานใต้ดินเหล่านี้ และคลานอยู่ใต้ดินตลอดทั่วทั้งโรงงานอุตสาหกรรมเหล่านี้ แต่ให้ปิดพื้นที่อุตสาหกรรมนี้ให้แน่นหนา ชนิดที่แม้กระทั่งแมลงวันสักตัวก็เล็ดลอดออกมาไม่ได้ดีกว่า"


ทั้งนี้ เมืองมาริอูโปลที่เคยมีประชากรอาศัยอยู่ 400,000 คน กลายเป็นสมรภูมิรบที่รุนแรงนองเลือดที่สุด และเกิดความหายนะด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายที่สุด ในสงครามยูเครน เท่าที่ปรากฏขึ้นมาจนถึงเวลานี้ โดยที่ฝ่ายยูเครนอ้างว่าพลเรือนนับหมื่นๆ ถูกปิดล้อม ถูกถล่มด้วยระเบิด และปืนใหญ่เกือบ 2 เดือน ขณะที่รัสเซียอ้างเรื่อยมาว่า ไม่โจมตีแบบพุ่งเป้าใส่พลเรือน


ยูเครนอ้างว่า มีพลเรือนนับหมื่นคนถูกสังหารในมาริอูโปล โดยบางส่วนถูกฝังรวมกันในหลุมขนาดใหญ่ และศพอีกจำนวนมากที่อยู่ตามท้องถนนถูกรัสเซียเผาทำลายในรถเผาศพเคลื่อนที่ ขณะที่สหประชาชาติ และองค์การกาชาดระบุว่า ยังไม่รู้ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แน่นอนแต่น่าจะมีอย่างน้อยหลายพันคน


ขณะเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พบศพพลเรือนมากถึง 1,020 ศพ ถูกเก็บอยู่ในห้องเก็บศพที่กรุงเคียฟ และในเมืองอื่นๆ รอบกรุงเคียฟ หลังจากที่รัสเซียถอนทหารออกไป


นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโสยังได้ระบุว่า มีการพบศพพลเรือน 9 ศพ ที่มีร่องรอยการถูกทรมาน ที่เมืองโบโรเดียนกา ใกล้กับกรุงเคียฟ    

คุณอาจสนใจ

Related News