แผ่นดินไหวญี่ปุ่น สะเทือนหลายเมือง พบผู้เสียชีวิต 4 คน เจ็บนับร้อย

สถานการณ์ความคืบหน้า หลังเกิดแผ่นดินไหวสองครั้งซ้อน รุนแรง 6.4 และ 7.3 แมคนิจูด นอกชายฝั่งฟูกูชิมา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อวานนี้

ล่าสุด  พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 ราย ได้รับบาดเจ็บแล้ว 107 คน โดยเหตุครั้งนี้ และเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากประชาชนทั่วประเทศเพิ่งรำลึกครบรอบ 11 ปีเหตุแผ่นดินไหว สึนามิ เมื่อวันที่ 11 มี.ค.2554

ก่อนหน้านี้ ทางการญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยคลื่นสึนามิ แต่ต่อมายกเลิก ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น ระบุว่า มีคลื่นสูงราว 30 เซนติเมตร เหนือน้ำทะเลซัดชายฝั่งในเมืองอิชิโนมากิ จังหวัดมิยากิ แรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ได้ถึงกรุงโตเดียว และหลายเมืองใกล้จุดศูนย์กลาง ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนราว 2 ล้านหลัง ไม่มีไฟฟ้าใช้

แรงสั่นสะเทือน ได้ทำให้ไฟฟ้าดับทั่วกรุงโตเกียว และในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก่อนที่จะได้รับการแก้ไข และกลับมาเป็นปกติ ส่วนสถานการณ์รถไฟชินคันเซ็นไถลตกราง ระหว่างมิยากิและฟูกูชิมา ทำให้ผู้โดยสาร 75 คน และเจ้าหน้าที่ 3 คน ต้องติดอยู่บนขบวนรถไฟนานกว่า 4 ชั่วโมง ก่อนได้รับความช่วยเหลือ แต่โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

นายฮิโรคาซุ มัตสึโนะ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น  ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นเล็กน้อย และยังไม่พบความผิดปกติที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แต่ก็เตือนว่า อาฟเตอร์ช็อกรุนแรงมักเกิดขึ้นในช่วง 2-3 วันให้หลัง จึงขอเตือนให้ประชาชน หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้อาคารที่ได้รับความเสียหาย และสถานที่เสี่ยงพังถล่ม

กระนั้นก็ตาม แผ่นดินไหวครั้งนี้ยังคงสร้างความสับสนอลหม่านให้แก่อุตสาหกรรมต่างๆ โดย บริษัทผู้ผลิตชิป เรเนซัส อิเล็กทรอนิกส์ คอร์ป ซึ่งเป็นซัปพลายเออร์รายใหญ่รายหนึ่งของชิปที่ใช้สำหรับรถยนต์ส่งไปทั่วโลก ต้องระงับการผลิตในโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ 2 แห่ง และหยุดงานบางส่วนในโรงที่สาม ซึ่งก่อนหน้านี้ทั่วโลกภาวะขาดแคลนชิปสืบเนื่องจากความติดขัดที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดใหญ่โควิด-19 ก็บังคับให้บริษัทรถยนต์จำนวนมากต้องตัดลงการผลิตลงมาอยู่แล้ว

ส่วนบริษัทโซนี่ กรุ๊ป คอร์ป ระงับการผลิตที่โรงงาน 2 แห่งซึ่งผลิต อุปกรณ์เก็บข้อมูล, เลเซอร์ ไดโอด, และ อิมเมจ เซนเซอร์

ขณะที่  โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ก็ระงับการผลิตไปไม่นานหลังเกิดแผ่นดินไหว ก่อนจะกลับมาเริ่มเดินเครื่องกันใหม่