ต่างประเทศ
'ทิม วอลซ์' ประกาศ! สร้างบทบาทที่เท่าเทียมให้ชาวมุสลิมอเมริกัน หากพรรคเดโมแครตชนะเลือกตั้ง
โดย paweena_c
4 ต.ค. 2567
54 views
'ทิม วอลซ์' ผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี และคู่หูของรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริสจากพรรคเดโมแครต ประกาศให้คำมั่นว่าพวกเขาจะสร้างความเท่าเทียมให้ชาวมุสลิมอเมริกันภายในรัฐบาลของพวกเขา หากชนะการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้ หลังพรรคเดโมแครตต้องสูญเสียการสนับสนุนจากชาวมุสลิมอย่างมากเพราะรัฐบาลไบเดนให้การสนับสนุนอิสราเอล
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่องสงครามในตะวันออกกลางก็เป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่ค่อนข้างมีความสำคัญในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีนี้ เนื่องจากในสหรัฐอเมริกามีชาวมุสลิมอาศัยอยู่ประมาณ 3.85 ล้านคน คิดเป็น 1.1% ของประชากรทั้งประเทศ
รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้สูญเสียแรงสนับสนุนจากคนกลุ่มนี้ไปเป็นอย่างมาก เพราะการสนับสนุนอิสราเอลในการทำสงครามกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ด้วยเหตุนี้รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริสและนายทิม วอลซ์ ตัวแทนชิงตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตจึงพยายามเรียกคืนแรงสนับสนุนจากคนกลุ่มนี้กลับคืนมา
แม้รองประธานาธิบดีแฮร์ริสจะให้คำมั่นสัญญาว่าเธอจะยังคงสนับสนุนอิสราเอลต่อไป แต่ก็ได้เน้นย้ำบทบาทใหม่ว่าเธอจะพยายามผลักดันให้เกิดการหยุดยิง ขณะที่นายวอลซ์ เมื่อวานนี้ ก็ออกมาให้คำมั่นสัญญาว่าหากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้ง เขาจะผลักดันบทบาทของชาวมุสลิมในสหรัฐอเมริกาให้มากขึ้น
วอลซ์กล่าวในการประชุมออนไลน์ที่จัดโดย Emgage Action ซึ่งเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวของชาวมุสลิมอเมริกันที่เพิ่งประกาศให้การสนับสนุนรองประธานาธิบดีแฮร์ริสว่า รองประธานาธิบดีแฮร์ริสและเขามีความมุ่งมั่นจะดึงชาวมุสลิมเข้ามาร่วมงานกับรัฐบาลและทำงานเคียงข้างกันเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งยังประณามการต่อต้านชาวมุสลิมและชาวอาหรับทุกรูปแบบที่นำโดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน
วอลซ์ได้พูดถึงสงครามในฉนวนกาซาด้วยว่าตัวเลขของผู้เสียชีวิตและการทำลายล้างที่เกิดขึ้นนั้นน่าตกตะลึงและเลวร้ายมาก และตอนนี้ แฮร์ริสกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้ความทุกข์ทรมาณในกาซานั้นสิ้นสุดลง และชาวปาเลสไตน์มีศักดิ์ศรี, เสรีภาพ, และการกำหนดชีวิตของตัวเอง
รายงานระบุว่าการเลือกตั้งระหว่างแฮร์ริสกับทรัมป์ในวันที่ 5 พฤจิกายนนี้คาดว่าจะสูสีกันมาก โดยเฉพาะในรัฐสมรภูมิอย่าง มิชิแกน ที่มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
แม้ว่า Emgage Action จะประกาศสนับสนุนแฮร์ริส แต่ก็ยังมีกลุ่มมุสลิมอื่น ๆ ประกาศเรียกร้องไม่ให้ชาวมุสลิมสนับสนุนเธอในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเฉพาะหลังจากพรรคเดโมแครตปฏิเสธไม่ให้ชาวปาเลสไตน์ขึ้นพูดในการประชุมใหญ่ของพรรคเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
สำหรับนโยบายที่เกี่ยวข้องกับชาวมุสลิมของแฮร์ริส คาดว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนักจากรัฐบาลไบเดน ขณะที่ทางทรัมป์เคยบอกว่าจะกลับมาใช้มาตรการ “ห้ามเดินทาง” จากประเทศที่มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมาตรการนี้ถูกไบเดนยกเลิกไป หลังเขาเข้ารับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีได้ไม่นาน เมื่อปี 2564