รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ พบผู้นำปาเลสไตน์ หารือสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์

ขณะที่ความเคลื่อนไหวต่างประเทศ วันนี้นาย แอนโธนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ เดินทางไปพบกับประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ เพื่อหารือถึงสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ และองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ก็ออกแถลงประณามการโจมตีขบวนรถพยาบาล ว่าอาจจะเป็นละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ


การเดินทางไปยังเขตเวสต์แบงก์ ในฉนวนกาซา ของบลิงเคน ในวันนี้ เกิดขึ้นโดยที่ไม่มีผู้สื่อข่าวสำนักไหนทราบมาก่อน และไม่มีการแจ้งล่วงหน้า โดยเขาเดินทางไปยังกรุง รามัลเลาะห์ เพื่อพบหารือกับอับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์


รายงานระบุว่า ระยะการพูดคุยของทั้งคู่มีขึ้นเป็นเวลาไม่ถึงชั่วโมง โดยผู้นำปาเลสไตน์ ได้กล่าวกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐว่า จะต้องมี การหยุดยิงในทันที และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมควรได้รับอนุญาตให้เข้าไปในฉนวนกาซาอย่างเร่งด่วน


การพูดคุยของบลิงเคนต่อผู้นำชาติต่างๆ ถือเป็นการเดินสายพูดคุยเพื่อหารือ ในเรื่องสงครามระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ที่ยืดเยื้อมานานหลายทศวรรษ ซึ่งก่อนหน้านี้ บลิงเคนได้ได้พบกับรัฐมนตรีต่างประเทศจากกาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ จอร์แดน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่รวมตัวกันกดดันสหรัฐ ให้ช่วยเจรจากับอิสราเอลให้ทำการหยุดยิง


อย่างไรก็ตาม สหรัฐเสนอให้หยุดการต่อสู้ชั่วคราวเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และเพื่อให้ประชาชนอพยพออกจากฉนวนกาซา แต่ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ก็ไม่ได้ตอบรับข้อเสนอดังกล่าว และในวันพรุ่งนี้ บลิงเคนจะเดินทางไปตุรกี เพื่อหารือเกี่ยวกับความขัดแย้งต่อไป


ขณะที่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ประณามเหตุโจมตีขบวนรถพยาบาล ที่โรงพยาบาลในฉนวนกาซา โดยระบุว่า เป็นการโจมตีด้านสุขภาพ รวมถึง เป็นการมุ่งเป้าไปที่โรงพยาบาล และการจำกัดการส่งมอบสิ่งของจำเป็น เช่น เวชภัณฑ์ เชื้อเพลิง และน้ำ และนี่อาจถือเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรม ระหว่างประเทศ WHO ยังเรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันที ระหว่างทั้งสองฝ่าย โดยเน้นความจำเป็นเร่งด่วนในการปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย การขนส่งด้านสุขภาพ และสถานพยาบาลทั้งหมด


ส่วนสถานการณ์ในกาซา สื่อของปาเลสไตน์รายงานว่า เมื่อคืนนี้ ค่ายผู้ลี้ภัยมากาซี ทางตอนกลางของฉนวนกาซาถูกกองทัพอิสราเอลถล่มจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 51 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง


ขณะที่โฆษกของกระทรวงสาธารณสุขฮามาสอ้างว่า การโจมตีดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก และทางฮามาสกล่าวหาอิสราเอลว่า จงใจทิ้งระเบิดใส่บ้านเรือนของประชาชน "โดยตรง" อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ กองทัพอิสราเอลยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


นอกจากนี้ อิสราเอลยังโจมตีค่ายผู้ลี้ภัยจาบาเลีย ทางตอนเหนือของกาซาด้วย ทำให้อาคารบ้านเรือนพังเสียหายและเกิดไฟไหม้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างของผู้เสียชีวิต ออกมาจากซากปรักหักพัง และนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล การโจมตีที่เกิดขึ้นนี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนหนึ่งแต่ยังไม่สามาถยืนยันได้อย่างแน่ชัด


ขณะเดียวกัน สภากาชาดของปาเลสไตน์เปิดเผยว่า อิสราเอลยังโจมตีใส่อาคาร หน้าโรงพยาบาลอัล-คุดส์ จนพังเสียหาย มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 21 คน เช่นเดียวกันกับโรงเรียนขององค์การสหประชาชาติ ที่ใช้เป็นที่หลบภัยของพลเรือน ทางเหนือของกาซา ก็ถูกอิสราเอลโจมตี นับตั้งแต่ 7 ตุลาคม กระทรวงกระทรวงสาธารณสุขกาซาเผยว่า มีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลอย่างน้อย 9,488 คน และบาดเจ็บ 24,158 คน