ทางลำบากก็ไม่หวั่น! กู้ภัยเข้าช่วยผู้ป่วยอาการวิกฤติ นำใส่เปลขึ้นท้ายจยย. ส่งโรงพยาบาลปลอดภัย

ชื่นชมเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงอาการวิกฤติ รถฉุกเฉินเข้าไม่ได้ นำผู้ป่วยใส่เปลสนามขึ้นท้ายรถจักรยานยนต์ ก่อนพาขึ้นรถฉุกเฉินที่จอดอยู่ทางเข้า นำส่งโรงพยาบาลปลอดภัย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิอริโยสามัคคีนาทวี เข้าช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงที่กำลังวิกฤติ ใส่เปลสนามก่อนนำขึ้นท้ายรถจักรยานยนต์เร่งนำส่งโรงพยาบาลนาทวี โดยรถฉุกเฉินของเจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่สามารถขับเข้ามารับผู้ป่วยที่บ้านได้ เนื่องจากเส้นทางเข้าบ้านผู้ป่วยทางขรุขระ เปียกแฉะและเป็นหลุมลึก ถ้าขับเข้ามารถฉุกเฉินอาจจะติดหล่ม จึงเดินเท้าเข้ามาและยืมรถจักรยานยนต์ของญาติผู้ป่วย เพื่อเร่งเคลื่อนย้ายออกมาก่อนนำส่งโรงพยาบาลได้ทันท่วงที


ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่มูลนิธิอริโยสามัคคีนาทวี ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา สอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (22 มี.ค. 2568) นายวิชชุกร ช้างอินทร์ อายุ 24 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัย กล่าวว่า เมื่อวานนี้ได้รับแจ้งจากศูนย์สั่งการว่ามีผู้ป่วยอ่อนเพลียถึงขั้นวิกฤติและนอนติดเตียง ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิอริโยสามัคคีนาทวีเข้าไปรับตัวนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ส่วนสาเหตุที่นอนติดเตียงนั้นก่อนหน้านี้ผู้ป่วยรายดังกล่าวเหมือนคนปกติทั่วไป แต่ได้เกิดเป็นลมหัวฟาดพื้นอยู่ในบ้าน ซึ่งตอนนั้นผู้ป่วยอยู่บ้านคนเดียว กว่าภรรยามาพบนำส่งโรงพยาบาลช้าจึงทำให้ผู้ป่วยเป็นอัมพาตนอนติดเตียงในเวลาต่อมาจนถึงปัจจุบัน เมื่อวานนี้หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เดินทางลงพื้นที่ทั้งหมด 5 นาย ซึ่งได้เดินทางไปที่บ้านผู้ป่วยในพื้นที่หมู่ 9 ต.ฉาง อ.นาทวี เมื่อเดินทางไปถึงปรากฏว่าทางเข้าบ้านพักผู้ป่วยเป็นทางขรุขระ เปียกแฉะและเป็นหลุมตลอดระยะทาง 1.5 กิโลเมตร ซึ่งไม่สามารถขับเข้าไปได้จึงได้จอดรถฉุกเฉินตรงถนนทางเข้าและเดินเท้าเข้าไปที่บ้านพัก


เบื้องต้นพบผู้ป่วยนอนติดเตียงมีอาการค่อนข้างหนัก มีอาการซึม เริ่มนอนไม่รู้สึกตัว ปากเบี้ยว มีน้ำลายฟูมปากและน้ำหนักผู้ป่วยหนักประมาณ 70 กิโลกรัม จึงเริ่มนำเปลสนามเคลื่อนย้ายผู้ป่วย แต่เมื่อเห็นเส้นทางที่เดินเข้ามามีอุปสรรคในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ประชุมร่วมกันและตัดสินใจยืมรถจักรยานยนต์ของญาติผู้ป่วยที่จอดอยู่ นำผู้ป่วยซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เพื่อเร่งเคลื่อนย้ายไปที่รถฉุกเฉินที่จอดอยู่ทางเข้า หากยกเปลผู้ป่วยไปอาจจะเกิดความล่าช้าเพราะเส้นทางลำบาก จึงใช้รถจักรยานยนต์นำผู้ป่วยซ้อนท้ายไป ระหว่างเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เดินประคองผู้ป่วยทั้งซ้ายขวาและท้ายรถ ซึ่งใช้เวลาจากบ้านพักไปรถฉุกเฉินประมาณ 25 นาที และนำส่งโรงพยาบาลนาทวีต่ออีก ประมาณ 15 นาที ขณะนี้ผู้ป่วยปลอดภัยแล้วหลังนำส่งโรงพยาบาลรักษาต่อ


โดย chutikan_o

23 มี.ค. 2568

95 views

EP อื่นๆ