เทศบาลตั้ง คกก.สอบวินัยร้ายแรง หลังโซเชียลแฉครูขาดราชการ 60 วัน

จากกรณีที่มีเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ ปฎิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ได้โพสต์เรื่องราวของครูคนหนึ่ง ซึ่งมีใจความว่า “ขาดราชการ 60 วัน นอนกินเงินเดือนฉ่ำเรื่องมีอยู่ว่า ครูสอนสังคมเด็กชั้นประถมของ รร.แห่งหนึ่งในจ.ราชบุรี ตั้งแต่เปิดภาคเรียนวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 จนถึงวันนี้ ขาดราชการไปแล้ว 60 วัน นอนอยู่บ้านกินเงินหลวงฉ่ำ วันไหนอยากมาสอนก็มา ถ้าไม่มีสอนก็หายตัว บางวันสอนเสร็จกลับบ้านเช้า บ่ายหาย หรือบางวันแอบย่องมาสแกนนิ้วตอนเย็นทีเดียว”


หลังจากที่มีการข้อความดังกล่าวขึ้นมาได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องตำหนิผู้อำนวยการโรงเรียนที่ปล่อยให้ครูคนดังกล่าว ได้ขาดราชการเกินกว่า 15 วัน เป็นการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ มีอีกเยอะครูแบบนี้ บางคนก็ประชดประชันว่า ชีวิตดี้ดีอยากเป็นครูบ้างจัง


วันนี้ (12 ก.ย. 67) ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่โรงเรียนดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองโพธาราม จ.ราชบุรี เพื่อขอพูดคุยกับทางผู้อำนวยการโรงเรียน แต่ทราบผู้อำนวยการโรงเรียนนั้นติดภารกิจ แต่ก็มีบุคคลากรในโรงเรียนให้ข้อมูลว่า ครูคนดังกล่าวนั้นสอนชั้น ป.3 ในวิชาคณิตศาสตร์และสังคมศาสตร์ แต่วันนี้ไม่ได้มาโรงเรียน


ซึ่งหากวันไหนครูคนนี้ไม่มาทางโรงเรียนก็จะจัดครูท่านอื่นไปสอนแทน เมื่อสอบถามเด็ก ๆ ในห้องที่ครูคนนี้สอน เด็กๆ ก็จะบอกว่า ชอบ เพราะครูคนนี้จะมีอะไรแปลก ๆ น่าสนใจ เช่นแต่งชุดสไปร์เดอร์แมนไปสอนเด็ก


ส่วนข้อความที่มีการโพสต์ในโซเซียลนั้นมีความจริงอยู่บ้าง แต่ทั้งนี้ทางผู้บริหารโรงเรียนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้มีการส่งเรื่องให้กับทางเทศบาลเมืองโพธารามเป็นผู้พิจารณาตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยไปแล้ว และในส่วนของผู้อำนวยการ ก็คอยดูแลสอดส่องพฤติกรรมของครูคนนี้มาตลอด ไม่ได้ปล่อยปละละเลยตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน


นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปพูดคุยกับทางสัมภาษณ์นายพีรพงษ์ นิติกรชำนาญการพิเศษของเทศบาลเมืองโพธาราม ซึ่งเป็นผู้ที่ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงกับครูคนนี้ บอกว่า เบื้องต้นทางเทศบาลได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงไปแล้ว ซึ่งพบว่ามีมูลความผิดจริง และเข้าเงื่อนไขว่ามีความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง แต่ด้วยข้อเท็จจริงปรากฏว่าพฤติการณ์ของครูคนนี้ไม่ได้ขาดราชการในครั้งเดียวติดกันเกิน 15 วัน แต่เป็นการขาดราชการเป็นช่วง 3 วันมาสอน และหยุดไป 2-3 วัน แล้วก็กลับมาสอน ซึ่งจะเป็นลักษณะนี้ ทั้


งนี้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงก็ต้องทำการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจะพิสูจน์ว่าครูคนนี้ทำผิดจริงหรือไม่ ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงนั้นได้สรุปสำนวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเตรียมที่จะแจ้งข้อกล่าวหากับครูคนนี้


ส่วนการสอบถามสาเหตุที่ต้องหยุดราชการบ่อยกับครูคนนี้เบื้องต้นก็อ้างว่า มีความอึดอัดใจ อาจจะด้วยเพราะไม่มีห้องทำงาน ซึ่งการทำงานของครูนั้นไม่ได้มีการจัดห้องให้เป็นส่วนตัว แต่จะมีห้องพักครูเป็นห้องรวม จึงอาจจะไม่มีความสะดวกในการนั่งพัก ซึ่งหากว่าครูคนนี้ถูกลงโทษวินัยร้ายแรงทางโรงเรียนก็ยังมีครูที่จัดไว้สำรอง เด็กนักเรียนจะไม่ขาดแคลนครูอย่างแน่นอน


ส่วนที่มีข่าวว่าทางโรงเรียนปล่อยปละละเลยนั้นไม่เป็นความจริง คือ ส่วนนี้จะต้องให้ความเป็นธรรมกับครูคนนี้ด้วย เพราะว่าในข้อเท็จจริงบางวันที่ครูเขาไม่ได้สแกนลายนิ้วมือเข้าสอนนั้น ตามบันทึกของครูหัวหน้าสายชั้นก็มีเรื่องรายงานว่าครูคนนี้เข้ามาทำการสอน ทีนี้การพิจารณาความต้องพิจารณาว่าครูท่านนี้ไม่ได้เข้าสอนจริง ๆ และไม่ได้มาทำงานจริง ๆ


ตอนนี้คณะกรรมการที่เคยสอบสวนวินัยร้ายแรงได้รวบรวมพยานหลักฐาน พยานบุคคล พยานเอกสาร และวัตถุพยานที่เป็นการสแกนลายนิ้วมือเรียบร้อยแล้ว จะได้เรียกครูมารับทราบ และต้องให้โอกาสครูชี้แจงด้วย ถ้าเกิดเป็นเรื่องการละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อกันเกิน 15 วัน ประกอบกับว่าไม่มีเหตุอันสมควรด้วย โทษก็เป็นวินัยร้ายแรง ถึงขั้นปลดออก ไล่ออก และจะมีผลย้อนหลังถึงวันที่คุณครูท่านนี้ได้ขาดราชการไป


กรณีที่ครูท่านนี้เคยโดนคือ ว่าครั้งนั้นเป็นลักษณะนี้ว่ามีการขาดงาน แต่ว่าการขาดงานของเขานั้นจะไม่ติดต่อเกิน 15 วัน ก็เป็นการละทิ้งหน้าที่ ซึ่งกรณีที่ละทิ้งหน้าที่ราชการไม่เกิน 15 วัน จะเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง โทษที่เคยลงไปจะเป็นลดขั้นเงินเดือน ซึ่งถ้าเกิดไม่เคยกระทำความผิดมาก่อนก็อาจจะมีเหตุบรรเทาโทษ ลดหย่อนโทษได้ แต่กรณีนี้ก็อาจจะเอาเรื่องนี้มาช่วยในการลดหย่อนโทษไม่ได้


ส่วนครูคนนี้เป็นข่าวนั้น ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้

โดย paranee_s

12 ก.ย. 2567

205 views

EP อื่นๆ