ครอบครัวโศกเศร้า บรรยากาศงานศพหัวหน้าป่าไม้ พ่อลั่นระบบราชการไทยสู้ผู้มีอิทธิพลไม่ได้

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 9 กันยายน 67 เวลาประมาณ 06.00-07.00 น. ข้าราชการพนักงานเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่สน.4 (เมือง) นำโดยนายพลวัฒน์ ชนะบุญ หัวหน้าหน่วยฯ สน.4 จ.สกลนคร และเจ้าหน้าที่อีก 3 นาย ได้ร่วมกันติดตามรถบรรทุกไม้ ซึ่งเป็นขบวนการค้าไม้ ณ บ้านหลุบเลา ต.หลุบเลา อ.ภูพาน จ.สกลนคร โดยรถบรรทุกไม้ได้ทำการหลบหนี จึงได้ติดตามรถบรรทุกคันดังกล่าวจนถึงท้องที่ บ้านทุ่งนางาม ต.บ่อแก้ว อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ รถยนต์พนักงานเจ้าหน้าที่ประสบอุบัติเหตุ ทำให้นายพลวัฒน์ หัวหน้าหน่วยฯสน.4 (เมือง) เสียชีวิต และพนักงานเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 3 ราย ขณะนี้ทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลนาคู จ.กาฬสินธุ์



โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ที่บ้านหมู่ 3 บ้านท่าตูม ต.ท่าตูม อ.เมือง จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นบ้านที่ใช้จัดงานสวนอภิธรรมศพ นายพลวัฒน์ อายุ 30 ปี นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่สน.4 (เมือง) โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีญาติและเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาแสดงความเสียใจกับครอบครัว มีพวงหรีดจาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานอื่นๆ ที่นำมาร่วมแสดงความเสียใจกับครอบครัวชนะบุญ



โดยทางครอบครัวได้จัดเตรียมงานศพ มีการทำอาหารเลี้ยงแขกที่มาร่วมงาน และจัดเตรียมของชำร่วย ที่จะในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในวันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 67 ณ ฌาปนสถานวัดป่าสโมสรบ้านท่าตูม ต.ท่าตูม อ.เมือง จ.มหาสารคาม



นายสินไชย อายุ 62 ปี พ่อของนายพลวัฒน์ กล่าวว่า ได้ทราบข่าวตอน 9 โมงเช้า มีญาติโทรหาบอกว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว หัวอกคนเป็นพ่อมันจุก พูดอะไรไม่ออก ลูกชายเพิ่งจะสร้างครอบครัว ลูกสาวเพิ่งจะอายุได้ 1 ปี 8 เดือน เพิ่งจะพูดเก่งเรียกพ่อเรียกแม่ เรียกปู่เรียกย่า เพิ่งจะรู้จักภาษา ลูกชายเป็นลูกคนที่สอง เพิ่งจะบรรจุได้ 2 ปีเศษ ลูกชายเป็นคนดูแลพ่อแม่ เป็นเสาหลักของบ้าน ขาดเหลืออะไรก็อยู่กับลูก ลูกชายมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตอนเรียนมหาลัยได้โควตาหลายที่ แต่ลูกเลือกที่จะเรียน ม.แม่โจ้ พอลูกเรียนจบก็ไปหาสอบทำงาน ตอนแรกก็ได้เป็นพนักงาน ต่อมาก็สอบบรรจุได้เป็นข้าราชการที่นครพนม สังกัดกรมป่าไม้ ซึ่งลูกชายจะกลับบ้านที่มหาสารคามเป็นประจำ



ซึ่งลูกชายก็เล่าให้ฟังเสมอว่า ได้ไปจับไม้เป็นประจำ ในเขตรับผิดชอบ ทั้ง นครพนม กาฬสินธุ์ สกลนคร และมุกดาหาร ซึ่งบางครั้งไปจับแล้วก็มีผู้หลักผู้ใหญ่โทรศัพท์มาขอจากที่จับได้หลาย ๆ อย่าง ก็ให้ของกลางเหลือน้อย ซึ่งลูกชายได้รายงานผู้บังคับบัญชาไปแล้ว ได้รายงานไปตามความเป็นจริง ลูกชายเป็นทำงานจริงจัง ซึ่งพ่อเคยเตือนว่าเวลาไปจับไม้ให้ระวังที่สุด อย่าไปคนเดียว ลูกชายก็บอกว่าไม่ได้ไปคนเดียว มีทีมงาน มีลูกน้องไปด้วยกัน



ในวันที่เกิดเหตุ ลูกน้องของลูกชาย เล่าให้ฟังว่า ได้มีการติดกล้องติดตามไว้ในป่า มีผู้ลักลอบมาตัดไม้ ลูกน้องก็เลยโทรมาบอก ทางลูกชายก็ได้รีบเดินทางกลับไปที่หน่วย โดยออกจากบ้านไปช่วงตี 5 ก่อนที่จะไปประสบเหตุช่วง 6 โมงกว่าๆ เกือบ 7 โมง ที่ อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์



ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ในความคิดของคนเป็นพ่อ มองว่าระบบราชการเมืองไทย ทำยังไงก็สู้ผู้มีอิทธิพลไม่ได้ อย่างลูกชายตนมีอุดมการณ์ ตายแล้วก็เอาคืนมาไม่ได้ ต่อให้มีการปฏิรูปก็แก้ไขอะไรไม่ได้ ความสำคัญมันอยู่กับคนในชุมชน และผู้อยู่เบื้องหลัง ชาวบ้านธรรมดาจะไปตัดไม้หวงห้าม ชาวบ้านก็น่าจะมีความเกรงกลัว ไม่กล้าทำ แต่หากมีผู้อยู่เบื้องหลัง มีผู้สั่งการ ต้องการไม้แบบนั้นแบบนี้ ไปตัดมาให้หน่อย ซึ่งรถคันที่ก่อเหตุเป็นรถเก่าๆ แต่รถของเจ้าหน้าที่ป่าไม้เป็นรถโฟร์วีล ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ยังสกัดไม่ได้ ถ้าไม่มีคนอยู่เบื้องหลัง คงยอมให้จับไปนานแล้ว



นางอุเทียน อายุ 62 ปี แม่ของนายพลวัฒน์ กล่าวว่า ลูกชายเป็นคนดี ตั้งแต่เด็ก ๆ จะช่วยเหลือพ่อแม่ ปกติแล้วตนกับนายสินไชยจะเป็นคนเลี้ยงลูกสาวของนายพลวัฒน์ ปู่กับย่าจะเป็นคนเลี้ยง วันหยุดนายพลวัฒน์กับภรรยาก็จะกลับบ้านมาหาลูก ซึ่งเมื่อขาดเสาหลักไปแล้ว ก็เป็นกังวลเพราะนอกจากจะต้องเลี้ยงหลานสาววัย 1 ขวบ 8 เดือนแล้ว ตอนนี้ภรรยาของนายพลวัฒน์กำลังตั้งท้องอ่อน ๆ ได้เดือนกว่า ๆ ซึ่งพ่อกับแม่ก็เพิ่งจะทราบ เพราะทางนายพลวัฒน์กับภรรยานัดกันว่าสัปดาห์นี้จะไปหาหมอฝากครรภ์ก่อน แล้วถึงจะมาบอกพ่อกับแม่ แต่ลูกชายก็มาเสียชีวิตเสียก่อน ต่อไปก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง เพราะลำพังลูกสะใภ้ก็เงินเดือนไม่เยอะ และยังต้องเลี้ยงดูลูกอีก 2 คน ส่วนเงินเยียวยาตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่าจะมีมาจากหน่วยงานไหนบ้าง

โดย gamonthip_s

11 ก.ย. 2567

48 views

EP อื่นๆ