ผับดังพร้อมสู้กลับ คดีสาวสองกล่าวหาถูกการ์ดกระทืบคืนเคานต์ดาวน์

มองสองมุม สาวสองโวยถูกการ์ดผับดังกระทืบช่วงเคานต์ดาวน์ ยันขอดูวงจรปิด ด้านร้านพร้อมสู้กลับชี้เชิญออกเพราะอนาจาร พร้อมแจ้งความหลังได้รับความเสียหายจากการใส่ร้าย

รายการ “โหนกระแส” ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่องสาม ได้จัดรายการในตอน “หนังคนละม้วน สาวสองอ้าง ถูกการ์ดผับกระทืบช่วงเคานต์ดาวน์” โดยเป็นเหตุการณ์ที่สาวประเภทสองรายหนึ่งโพสต์ว่าถูกการ์ดในผับทำร้ายร่างกาย โดยมีผู้ร่วมรายการประกอบด้วย

“โช” สาวสองผู้ได้รับบาดเจ็บ “มาดามแคม” เพื่อนผู้โพสต์ “ยุทธ” ผู้จัดการร้าน และ “จุ้ย” การ์ดของทางร้านที่อยู่ในเหตุการณ์

โดย “โช” เล่าว่า ในวันที่ 31 ตนตั้งใจไปเที่ยวบ้านเพื่อนและจองโต๊ะที่ร้านหนึ่งโต๊ะสี่คน ไปถึงสามทุ่มกว่าก็เต้นปกติ และมีพนักงานมาบอกว่ายังไม่มีดนตรีสดนะ พวกตนก็โอเค ก็เริ่มเมา จากนั้นก็มีคนที่รู้จักกันมาคนละโต๊ะมาดิ่มกินมาเล่นกัน จากนั้นก็มีช่วงที่ตนไปนั่งคร่อมชายคนหนึ่ง ซึ่งคนนี้รู้จักกับเพื่อนของตน เขาก็หยอกล้อว่ากระโปรงสั้นไปนะ ตนจึงบอกไปว่าแล้วไม่สวยหรือพี่และเหตุการณ์ก็เป็นไปตามคลิป จากนั้นก็จำไม่ได้ และตนก็กลับไปที่โต๊ะ และเช็กบิลจะย้ายร้าน จะไปหาเพื่อนร้านไหม แต่ก็ไปเจอเพื่อนอีกกลุ่มที่หน้าร้าน เพื่อนเลยดึงมือตนเข้าไป โดยอาจจะไม่รู้ว่าพวกตนมีเรื่องอยู่ การ์ดก็พยายามดันไม่ให้เข้าพอเพื่อนพยายามดึงการ์ดก็พยายามดันออกมา เขาก็อารมณ์โมโหก็เลยเปิดไปก่อน ตนเห็นเพื่อนก็จะช่วยแต่จะช่วยก็ล้มลงก่อนเพราะเมาหนักจริงๆ

“โช” เล่าว่าตอนอยู่ในร้าน มีคนมาบอกว่าเต้นแรงเกินไปนะ คนรอบโต๊ะไม่โอเค เปิดกระโปรงขึ้นบ้าง แต่หนูก็ไม่รู้ตัว  ที่เปิดกระโปรงเป็นช็อตที่ตนยืนที่โต๊ะและมีเพื่อนคนหนึ่งขอดูสะโพกเพราะตนฉีดสะโพกมา ตนก็ไม่รู้ว่าใครเปิดตนหรือเพื่อน

ขณะที่ “ยุทธ” ผู้จัดการร้านบอกว่าเมื่อ “โช” ถกกระโปรงการ์ดจึงไปเตือน  เพราะมีลูกค้ามาร้องเรียน ลูกค้าบอกเห็นสภาพนั้นดื่มเหล้าไม่อร่อย การ์ดจึงเข้าไปเตือน ว่าพฤติกรรมไม่เหมาะสมและไม่สนุกด้วยกับพฤติกรรมแบบนี้

“โช” จึงเล่าต่อว่า  มีการกล่าวหาว่าหนูลากผู้ชายไปในห้องน้ำ “หนูต้องแย้งว่าไม่ใช่หนู แต่เป็นเพื่อนหนูอีกคนที่ไปกินงู เค้าคิดว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน เราเล่นด้วยกัน แต่เป็นคนละโต๊ะ” พออย่างนั้นจึงกลายเป็นว่าที่เขาไม่ให้เข้าเพราะคิดว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน  แต่เพื่อนคนใหม่ยังไม่รู้และการ์ดไม่รู้ว่าคุยอะไรกันเพื่อนก็พยายามดึงเข้าไป ก็เลยเกิดการลงมือ โดยเพื่อนที่มาใหม่เปิดก่อน  ส่วนทำอะไรหนูไม่แน่ใจเพราะหนูอยู่ข้างหลัง ส่วนหนูน่าจะโดนลูกหลงอะไรสักอย่าง หนูก็ล้มลงก่อนเพราะหนูอ่อนลงไป จากนั้นก็มีเพื่อนคนหนึ่งมาดึงออก หลังจากนั้นไปแจ้งความก็รถล้มและรู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ที่โรงพยาบาล

ด้าน “ยุทธ” ผู้จัดการร้านเล่าว่า กลุ่มของน้องที่มาคนละโต๊ะแต่ก็รู้จักกันและสุดท้ายก็ไปรวมอยู่โต๊ะเดียวกัน  เริ่มจากการไปกินงูในร้านเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง โดยมีแม่บ้านเป็นพยานเพราะเห็นพฤติกรรมน่าสงสัย โดยผู้ชายเป็นลูกค้าของร้าน  ซึ่งการเข้าไปในห้องเดียวกันเรามองได้หลายออย่างอาจจะเป็นยาเสพติดหรือไม่ ถือว่าน่าสงสัยร้านเราก็ทำตามกฎหมายจึงให้ทีมการ์ดไปดู  

โดยแม่บ้านบอกว่าเห็นเดินเข้าไปสองคนเข้าไปห้องเดียวกันและอยู่นานผิดสังเกตเคาะอย่างไรก็ไม่เปิด เราก็สงสัยจึงแจ้งการ์ด  ขณะที่การ์ดบอกว่ามีคนไปแจ้งว่าเพื่อนหายไปในห้องน้ำก็เลยเคาะแต่ก็ไม่ตอบ  จึงตัดสินใจปีนขึ้นไปดูก็เห็นสาวสองและผู้ชายคนนึงกำลังกินงูกันอยู่ เขาเห็นตนก็ตกใจ และบอกว่าทำแบบนี้ไม่ได้ และเชิญออกมาด้านนอก จากนั้นก็ไปกินเหล้าต่อกับคนที่อยู่ในร้าน  จึงขอให้เช็กบิลกลับและออกไปนอกร้าน

ด้าน “ยุทธ” กล่าวต่อว่า หลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำ แต่สิ่งที่เชิญออกคือ พอออกมาก็ไปนั่งคร่อมลูกค้าด้านหน้าร้าน ซึ่งลูกค้าก็ไม่ยินยอม และผลักออก และเขาก็ไปแจ้งทีมการ์ดว่าน้องไปทำพฤติกรรมที่ไม่ดีกับเขา และน้องก็กลับไปนั่งมที่โต๊ะจากนั้นก็เต้นในลักษณะโชว์เปิดกระโปรงขึ้น ไม่ใช่เวลาน้อยๆประมาณห้านาทีทีเดียว น้องใส่จีสตริงเห็นบั้นท้ายและอวัยวะเพศด้านหน้า ซึ่งแขกที่ดื่มกินเขาก็มองเห็น บรรยากาศก็เริ่มไม่ดีคล้ายๆอนาจารรอบสอง

มีลูกค้าหลายโต๊ะมาแจ้ง และการ์ดก็ไปเตือน รอบแรกไปกินงู รอบสองไปนั่งคร่อมลูกค้า รอบสามไปเต้นโชว์ ทำให้บรรยากาศร้านเสียเป็นการอนาจารการ์ดจึงไปเชิญออกด้วยความละมุนละม่อมด้วยความสุภาพ

ขณะที่ “จุ้ย” ซึ่งเป็นการ์ดเล่าว่า จังหวะนั้นตนอนู่หน้าประตู พี่ในทีมก็บอกว่ากระเทยกลุ่มนี้ไม่เอาละนะบอกหลายครั้งแล้วก็เลยไม่ให้เข้าเลย เขาก็ถามว่าเพราะอะไรตนก็บอกว่าข้อหาอนาจาร ตนก็จับประตู กลุ่มน้องเขาก็เอาตัวกระแทกผม ท่อนแขนมาก่อนก็กระแทกหน้าผม และสุดท้ายเป็นน้องที่กระโดดต่อยผม และเป็นน้องที่สู้จนร่วงเอง และครั้งที่สามตนก็ต่อยกลับย แต่ไม่ได้ต่อยน้องเขาแต่เป็นอีกคน

เมื่อถามว่าทำไมถึงต่อยลูกค้า “ยุทธ” เล่าว่าเขาเห็นพฤติกรรมเลยมาดู น้องเลยไม่พอใจและต่อยลูกค้าของตนไปอีก

“โก้” รองผู้จัดการร้านระบุว่า ผมเชิญลูกค้าเช็กบิลเสร็จ ทั้งอนาจาร ทั้งกินงู ตนเลยบอกใจเย็นๆและให้ไปแจ้งความ แต่น้องก็ยังดื้อตนเลยไปเรียกร้อยเวรมาที่เกิดเหตุ น้องถึงไปแจ้งความ

ด้าน “โช” กล่าวต่อว่า วันนี้ก็ต้องขอโทษด้วยเหตุที่เกิดวันนั้นเพราะเมา ที่มาวันนี้ต้องการรู้ว่าใครทำบนหน้าหนู   หนูมีไฟลท์บินวันที่12 เพราะหนูต้องไปทำงานที่ต่างประเทศแล้วหนูต้องลางาน หนูเลยอยากรู้ว่าใครเป็นคนทำ  

ขณะที่ “ยุทธ” ผู้จัดการบอกว่า ทุกอย่างต้องไปไล่ตามหลักฐาน ทั้งวงจรปิดและโดยรวม บุคลากรในร้าน รวมถึงวีดีโอวงจรปิด ที่เราส่งไปในร้าน รวมถึงแชทที่ขอคลิปวงจรปิด

สำหรับแชทดังกล่าวตนเป็นคนตอบกลับเอง ไม่ใช่ระบบ ซึ่งเป็นความผิดที่ตนที่ใช้ข้อความกระทัดรัดเกินไป  ซึ่งกลางวันผมพาการ์ดไปรับทราบข้อกล่าวหาและแจ้งความกลับพร้อมหลักฐานคือคลิปวีดีโอ และอยู่ดีๆมีข้อความว่า เพื่อนกลุ่มผู้เสียหายต้องการไฟล์วีดีโอ  จะมาขอและให้ตนส่งไปเลยก็ไม่ใช่ ก็เลยให้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ไปเอาไฟล์ที่สถานีตำรวจได้ และทางร้านก็มีกฎเรื่องการทะเลาะวิวาท และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และปรับฝ่ายละสองหมื่น

ต่อมา “โช” ระบุว่า  หนูเข้าใจเรื่องป้องกันตัว แต่พี่การ์ดน่าจะมีวิธีรับมือที่ดีกว่านี้ เพราะตัวการ์ดเองก็อยู่ในงานที่ต้องเห็นคนเมา และที่ไม่ได้ไปขอเอง ก็เพราะล้มตื่นอีกทีก็เที่ยง

ต่อมา “ฮันนี่” พี่สาวของ “โช” ได้เข้ามาร่วมรายการ โดยบอกว่าที่พาน้องมาในวันนี้เพราะต้องการทราบว่าที่น้องโดนกระทำเพราะอะไร เพราะหลังจากการโดนกกระทำไม่ได้รับการติดต่อจากใครเลย หลังจากวันเกิดเหตุที่น้องต้องเจ็บต้องไปแจ้งความเองทำให้เกิดอุบัติเหตุ และจากนี้จะดำเนินการอย่างไรเพราะน้องต้องเสียเวลาเสียรายได้

“ฮันนี่” กล่าวต่อว่า เรายอมรับว่าเราต่อยเพราะเป็นการป้องกันตัวของเรา แต่เราต้องการเห็นคลิปในอีกมุม ว่าใครเป็นคนทำร้าย  

ขณะที่ทางร้านยืนยันว่าไม่มีกล้องวิดีโอในมุมดังกล่าว ซึ่งอยู่ด้านหลังบูธดีเจ  

ส่วนการ์ดก็ยืนยันว่ายังไม่ได้สวนกลับโชเลย แต่สวนกลับเพื่อนโช พร้อมระบุว่าด้านหน้าก่อนเกิดเหตุมีเรื่องกลุ่มวัยรุ่นมีเรื่องอีกกลุ่ม  

เมื่อถามว่าเกิดเหตุแล้วขี่มอเตอร์ไซค์ไม่กลัวเมาแล้วขับหรือ “โช” ตอบว่า ตนไม่ได้ขับแต่ซ้อนเพื่อนไป โดยการ์ดบอกว่าเพื่อนเป็นคนพาไป

ด้าน “ฮันนี” จึงสวนขึ้นมาว่า ถ้าน้องไม่โดนทำร้ายจนจมูกแตก เลือดไหล น้องก็ไม่ต้องไปแจ้งความใช่ไหมคะ ก็ไม่ต้องเกิดอุบัติตามมาถูกต้องไหมคะ ตรงเมาแล้วขับก็ยอมรับหากมีการดำเนินคดีแต่อยากรู้ว่าใครเป็นคนทำน้อง

ด้าน “ยุทธ” กล่าวต่อว่า ทางร้านเราไม่สนับสนุนความรุนแรง ส่วนหนึ่งเกิดจากการยั่วยุ แต่ก็ไม่สนับสนุนความรุนแรง ส่วนหนึ่งเราให้จุ้ยเขาออกจากงานไปแล้ว ที่อยากได้ค่าเสียหาย พี่ก็ให้คลิปวีดีโอให้ไว้ที่ สน. และมาสรุป   แต่สิ่งที่กระทบร้านคือโซเชียลและลูกค้า ลูกค้าไม่กล้าเข้าไปเที่ยว

“ในมุมของทางร้านได้รับความเสียหาย จากการที่ไปทำอนาจารและผลกระทบจากโซเชียล โพสต์ในลักษณะใส่ร้ายป้ายสี เกิดผลกระทบอย่างมาก ผมก็จะมีทีมทนายเราก็จะดำเนินคดีในชั้นศาลเลย กี่ศาลก็จะสู้”


โดย nicharee_m

4 ม.ค. 2566

5K views

EP อื่นๆ