เบื้องหลัง บุกจับอธิบดี ทุจริตกรมอุทยานฯ แฉบางตำแหน่ง ต้องจ่ายสินบนหลักล้าน

โหนกระแส วันนี้ (29 ธ.ค.65) พูดคุยกรณี นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม คดีทุจริตเรียกรับสินบนแลกตำแหน่งจากข้าราชในกำกับ

นายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เผยว่า แหล่งรายได้หลักจากอุทยานแห่งชาติ มาจากอุทยานทางทะเล ที่มีเงินสะพัดหลายด้าน มีการประมูลเพื่อมอบเงินใต้โต๊ะและกับตำแหน่ง ซึ่งไม่ใช่แค่กรมอุทยาน แต่เชื่อว่าหลายหน่วยงานมีวัฒนธรรมเช่นนี้ และหากสืบสวนเรื่อยๆ อาจไม่สุดทางที่อธิบดี อาจไปต่อถึงระดับที่สูงกว่า

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยว่า มีผู้เสียหายเป็นข้าราชการระดับสูงเข้าร้องเรียนถึงการเรียกรับส่วยรายเดือน เพื่อแลกกับการโยกย้าย จึงได้ประสานไปทางตำรวจในการวางแผนจับกุม โดยทำทีนำกระเช้าไปมอบ และแนบซองเงิน 3 ซองรวมกว่า 9 หมื่นบาท ก่อนแสดงตัวจับกุม ทำให้พบเงินสดจำนวนมากเกือบ 5 ล้านบาท มีชื่อหน่วยงานระบุบนซอง

ซึ่งการทำงานของ ป.ป.ช.ต้องระมัดระวังในการพิสูจน์และเข้าถึงพยานหลักฐาน และต้องตรวจสอบที่มาของเงินเหล่านี้ ว่าไปเบียดบังเงินจากส่วนไหนหรือไม่ ถ้ามีคนร่วมขบวนการ ร่วมสนับสนุน หรือรับเงินต่อจากเขา ก็สามารถเอาผิดต่อได้อีก คดีนี้โทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เผยว่า ได้ร้องเรียนเรื่องทุจริตนี้ไปยังนายกฯ และ ป.ป.ช. จากนั้น ป.ป.ช.ได้เรียกตัวมาสอบ จากข้อมูลของข้าราชการชั้นผู้น้อยที่ได้เผยว่า ต้องจ่ายเงินแลกตำแหน่ง ซึ่งนักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ ต้องจ่ายถึง 1 ล้าน เพื่อแลกตำแหน่งใหม่ หรือบางรายเพื่อรักษาตำแหน่งเดิม เพราะไม่อยากย้ายห่างครอบครัว พร้อมยืนยันไม่มีเรื่องโกรธเคืองส่วนตัวหรือกลั่นแกล้งอธิบดี ตามที่อีกฝ่ายกล่าวอ้าง

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ยืนยันจะทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีละเว้น หากผิดก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย เรียกสอบสวนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้พยานหลักฐานแน่นหนา และพร้อมตรวจสอบทุกหน่วยงานที่ได้รับการร้องเรียนเรื่องทุจริต



โดย thichaphat_d

29 ธ.ค. 2565

306 views

EP อื่นๆ