สาวสุดช้ำ ถูกสามีซ้อม ซ้ำถูกแม่ผัวทวงค่าเช่าบ้านย้อนหลัง 7 แสน-ตัดน้ำตัดไฟจนอยู่ไม่ได้

โหนกระแส (20 ธ.ค.65) พูดคุยกรณีสาววัย 28 ปี โพสต์คลิปเรียกร้องความเป็นธรรม หลังถูกสามีทำร้ายร่างกายทั้งเตะ ทั้งต่อยก่อนไล่ออกจากบ้าน จนต้องหอบข้าวของพร้อมลูกเล็กอีก 2 คนหนีมาอยู่กับญาติ ไม่จบแค่นั้นแม่สามีเรียกเงินคืนอีก 7 แสนบาทบอกว่า ค่าเช่าบ้านและค่ากินอยู่ช่วงที่มาอยู่ในบ้าน

หญิงผู้เสียหายเล่าว่า เธอคบกับสามีมา 3 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คนคนแรกอายุ 2 ขวบกว่า คนที่ 2 อายุ 5 เดือน ซึ่งเหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 ตอนนั้นคลอดลูกคนแรกได้ไม่นาน พอลูกหลับเธอลงมาคุยโทรศัพท์กับญาติ ทำให้สามีไม่พอใจเพราะลงมาคุยนาน จึงลงมาตามและมีปากเสียงทะเลาะกัน ฝ่ายชายพยายามเข้ามาแย่งโทรศัพท์มือถือ และเหตุการณ์ก็เป็นไปตามคลิปที่ปรากฏ เธอถูกถีบเข้าที่ท้องและเตะ ต่อยอีกหลายครั้ง และเป็นครั้งแรกที่ถูกทำร้ายร่างกาย

จากนั้นก็มีการทำร้ายร่างกายเธออีกหลายครั้ง จนทนไม่ไหวตัดสินใจขอเลิกกับฝ่ายชาย ซึ่งฝ่ายชายก็ยอมเลิก เธอจึงกลับมาอยู่บ้านญาติ ระหว่างนั้นก็มีกลับไปคุยและคบกับแฟนเก่า

พอสามีรู้ก็พยายามมาตามง้อ อุ้มลูกมาง้อถึงหน้าบ้าน ฝ่ายหญิงก็เลยใจอ่อน บอกเลิกแฟนเก่าแล้วกลับไปคบกับฝ่ายชายที่เป็นพ่อของลูก กลับไปคบกันได้ไม่นานก็ท้องลูกคนที่ 2 โดยฝ่ายชายให้ค่าเลี้ยงดูวันละ 100 บาท เดือนละ 3,000 บาท ก่อนมารู้ทีหลังว่าเป็นเงินของอาม่าเธอเอง ไม่ใช่เงินของสามี

ช่วงที่ท้องลูกคนที่ 2 เธอบอกว่า ถูกสามีทำร้ายร่างกายอีกหลายครั้ง แต่กลายเป็นว่า ครอบครัวสามีเข้าข้างฝ่ายชาย ซึ่งพ่อและแม่สามีไม่ได้ยอมรับเธอตั้งแต่มีลูกคนแรก บอกว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นกาลกิณีของบ้านถ้าเด็กคลอดออกมาให้ไปตรวจ DNA ก่อนเพราะไม่เชื่อว่าเป็นลูกของลูกชายตัวเอง

ต่อมาทางบ้านสามีได้ติดป้ายประกาศขายบ้าน ไล่เธอออกจากบ้าน มีการเขียนจดหมายทวงเงินค่าเช่าบ้านย้อนหลังตลอด 2 ปีกว่าที่มากินอยู่ที่บ้าน เดือนละ 30,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 720,000 บาท ก่อนที่พ่อแม่สามีและสามีย้ายออกจากบ้านหลังดังกล่าว และสั่งให้การไฟฟ้ามาตัดไฟ ทั้งที่ตัวเธอเองยังอาศัยอยู่กับลูกเล็กอีก 2 คน

ด้านทนายแก้ว-ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่กฎหมายสภาทนายความ ชี้ว่าการทวงเงิน 7 แสน เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะฝ่ายหญิงเข้ามาอยู่ด้วยความสมัครใจ ถือเป็นการให้โดยสิเหน่หา จะมาเรียกร้องไม่ได้ เพราะไม่มีสัญญาเช่า ทางผู้เสียหายไม่ต้องจ่าย

ส่วนเรื่องการทำร้ายร่างกาย ต้องไปแจ้งความและส่งหลักฐานเพิ่ม เพราะเป็นอาญาแผ่นดิน สามารถดำเนินคดีได้ใน 10 ปี ส่วนเด็กที่พ่อจดทะเบียนรับรองบุตร จะมีสิทธิได้ค่าอุปการะเลี้ยงดูโดยชอบตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ทางสามีและแม่สามีไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ ซึ่งล่าสุดได้กลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว หลังฝ่ายหญิงย้ายออกไป

โดย thichaphat_d

20 ธ.ค. 2565

587 views

EP อื่นๆ