11 ก.ย. 2567
อาจารย์ มช.โวยวัดดัง โบกปูนยักษ์ล้านนาอายุ 500 ปี จนไม่เหลือสภาพโบราณวัตถุ
อาจารย์ มช.ร้องวัดดังเชียงใหม่ โบกปูนยักษ์เก่าแก่เป็นยักษ์ใหม่ สิ้นความเสียหายจากการบูรณะประติมากรรมภาพยักษ์ศิลปะล้านนาอายุ 400-500 ปี
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากอาจารย์มหาวิทยาลัยจังหวัดเชียงใหม่ คณะวิจิตรสิน พร้อมภาพถ่ายยักษ์โบราณเก่าแก่อายุ 500 ปี ถูกโบกปูนทำของโบราณเก่าแก่กลายเป็นของใหม่อย่างน่าเสียดาย นำภาพในอดีตกับภาพปัจจุบัน มาเปรียบเทียบให้ดู และเรียกร้องให้ผู้ที่ตัดสินใจทำการบูรณะยักษ์ดังกล่าวให้เป็นของใหม่ให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุรชัย จงจิตงาม คณะวิจิตรศิลป์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เปิดเผยว่า ที่วัดอุโมงค์สวนพุทธธรรม จ.เชียงใหม่ ปัจจุบันได้มีการซ่อมแซมประติมากรรมปูนปั้นภาพยักษ์ขนาดใหญ่ในศิลปะล้านนาของวัดอุโมงค์สวนพุทธธรรม เชิงดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ ด้วยการปั้นพอกจนกลายเป็นของใหม่
ประติมากรรมปูนปั้นยักษ์ขนาดใหญ่สูงราว 2 เมตร เป็นรูปยักษ์ในศิลปะล้านนาที่พบอยู่ภายในวัดอุโมงค์มาแต่โบราณ ครั้งวัดอุโมงค์ยังเป็นวัดร้างอยู่กลางป่าหลายร้อยปี โดยคณะสงฆ์ และศรัทธาของวัดอุโมงค์สวนพุทธธรรมที่นำโดยท่านพุทธทาสภิกขุ และท่านปัญญานันทภิกขุ ซึ่งท่านได้ฟื้นฟูวัดอุโมงค์ขึ้นมาอีกครั้ง ท่านได้พบเห็นประติมากรรมยักษ์ดังกล่าวแล้วตั้งแต่ พ.ศ.2490 และท่านทั้งสองก็ทราบความสำคัญของศิลปกรรมอันล้ำค่าของบรรพบุรุษล้านนาแต่โบราณ โดยได้ทำการรักษาไว้ตามเดิมสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งภาพประติมากรรมยักษ์ที่วัดอุโมงค์มีอายุไม่น้อยกว่า 400 ปี เพราะศิลปะโบราณภายในวัดได้ถูกทิ้งร้างไปตั้งแต่ครั้งเชียงใหม่ตกเป็นเมืองขึ้นพม่าเมื่อราว 400 ปีก่อน ประติมากรรมยักษ์ดังกล่าวสภาพยังสมบูรณ์อยู่มาก มีศีรษะ และลำตัวครบ แม้แขนจะชำรุดบ้าง แต่ก็เป็นศิลปะที่มีค่า โดยในศิลปะล้านนาภาพยักษ์ในสภาพที่สมบูรณ์อายุหลายร้อยปีเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก
ประติมากรรมยักษ์ที่วัดอุโมงค์จึงมีความสำคัญในฐานะเป็นต้นแบบในการศึกษาภาพยักษ์ในศิลปะล้านนา ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างเฉพาะตัวไปจากภาพยักษ์ในศิลปะอยุธยา และรัตนโกสินทร์ที่กรุงเทพฯ ซึ่งพบเห็นได้ง่ายในจำนวนมากกว่า ฉะนั้น ยักษ์ที่วัดอุโมงค์จึงมีความสำคัญ และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อันหาได้ยากที่ควรรักษาไว้
อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ ราวปลาย พ.ศ.2566 ได้มีบุคคลจากภายนอกที่ไม่รู้คุณค่าของศิลปะโบราณ ได้นำช่างฝีมือรุ่นใหม่มาทำการปั้นพอกปูนทับยักษ์โบราณในรูปแบบที่ปั้นใหม่ขึ้นทั้งหมด ทำให้ยักษ์วัดอุโมงค์จึงกลายเป็นของใหม่อย่างสิ้นเชิง ไม่เห็นผิวปูนโบราณแต่ดั้งเดิมเลยแม้แต่น้อย
เป็นการกระทำที่ทำให้ศิลปะล้ำค่าของโบราณหมดคุณค่า และก่อให้เกิดความเสียหายทางศิลปกรรม เพราะการซ่อมที่ถูกต้องนั้นในยุคปัจจุบันก็มีหลักการสากลถือปฏิบัติอย่างชัดเจนเช่น การทำความสะอาดผิวปูน การเสริมความแข็งแรงให้กับเนื้อปูนโบราณ หากจำเป็นต้องเสริมปูนเพิ่มเติมขึ้นใหม่ต้องระวังไม่ให้ไปทับกับเนื้อปูนที่เป็นฝีมือเดิมเมื่อหลายร้อยปีก่อน
การอนุรักษ์ถ้าหากกระทำอย่างถูกวิธีก็จะสามารถรักษาศาสนวัตถุโบราณให้แข็งแรงสวยงามตามสภาพฝีมือช่างเดิมได้ โดยไม่ต้องปั้นพอกใหม่ดังที่ปรากฏอยู่ ฉะนั้น แม้ว่าจะเจตนาดีที่อยากซ่อมแซมของโบราณ แต่ผู้ซ่อมก็ควรมีความรู้ในหลักการอนุรักษที่เป็นสากล การซ่อมแซมเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้ทำลายคุณค่าของฝีมือช่างแต่เดิม หากไม่มีความรู้ก็ควรเข้าไปปรึกษาหารือผู้ที่มีความรู้ก่อนการดำเนินการ
ภาพประติมากรรมยักษ์ศิลปะล้านนาโบราณที่วัดอุโมงค์สวนพุทธธรรม ถูกรักษาไว้อย่างดีมาโดยตลอดหลายร้อยปี แต่เมื่อราวปลาย พ.ศ. 2566 ได้มีบุคคลภายนอกวัดได้มาทำการปั้นปูนพอกยักษ์โบราณจนกลายสภาพ เป็นของใหม่หมดจนไม่เหลือร่องรอยของปูนโบราณอันเป็นฝีมือครูช่างในอดีตเลย
“งานปั้นใหม่ในปัจจุบันเป็นของที่ทำได้ง่าย ทำเมื่อไรที่ไหนก็ได้ แต่ศิลปะที่ตกทอดมาแต่โบราณ ไม่สามารถทำเทียมได้ในสมัยปัจจุบัน ฉะนั้นจึงควรรักษา และซ่อมในแบบที่เคารพฝีมือครูช่างโบราณ ไม่ควรไปพอกทับจนเป็นของใหม่อย่างที่เห็น”
บุคคลผู้ที่เป็นต้นความคิดในการซ่อม และออกเงินในการซ่อมควรออกมาแสดงความรับผิดชอบ รวมทั้งหน่วยงานที่รับผิดชอบ ออกมาและชี้แจงกับสาธารณะเพราะงานศิลปะโบราณไม่ใช่สมบัติส่วนตัว หากคิดว่าการกระทำเช่นนั้นของตนถูกต้องก็ควรออกมาชี้แจงเหตุผลของตนแก่สังคมด้วย เพื่อให้สังคมเกิดการเรียนรู้ร่วมกันในการดูแลศิลปะอันล่ำค่า
นอกจากนั้นในฐานะที่ยักษ์ดังกล่าวเป็นโบราณวัตถุของชาติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรตรวจสอบการเข้าไปซ่อมแซมในลักษณะเช่นนั้นว่า ได้กระทำไปถูกขั้นตอนหรือไม่ในฐานะที่วัดอุโมงค์เป็นโบราณสถานของชาติในกลุ่มแรกๆ ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานตั้งแต่ พ.ศ.2478 เมื่อเกือบ 90 ปีก่อน
อีกทั้งวัดอุโมงค์มีความสำคัญยิ่งจนถึงขนาดพระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏเมื่อครั้งเสด็จจากบางกอกมายังเชียงใหม่ล้านนา ได้ทรงประทับช้างบุกป่าเสด็จมาชมถึงวัดอุโมงค์ด้วยพระเนตรของพระองค์ตั้งแต่เมื่อ 2 มกราคม พ.ศ.2470 ดังปรากฏการพรรณนาไว้ใน “โคลงนิราศล่องแก่งแม่ปิง” ก็ย่อมสะท้อนถึงความสำคัญยิ่งของโบราณสถาน โบราณวัตถุ ในวัดอุโมงค์ที่มีมาอย่างยาวนานแต่อดีต ผู้ใดก็ตามที่จะมาซ่อมก็ควรเรียนรู้ประวัติความเป็นมา และควรเคารพอดีตก่อนที่จะกระทำการใดๆ ที่อาจเกิดความเสียหายตามมา
โดย nicharee_m
8 มิ.ย. 2567
663 views
EP อื่นๆ
11 ก.ย. 2567
11 ก.ย. 2567
11 ก.ย. 2567
11 ก.ย. 2567
11 ก.ย. 2567
11 ก.ย. 2567
11 ก.ย. 2567
11 ก.ย. 2567
ลงน้ำเอง! ‘บิ๊กอ๊อบ’ ผบ.ทสส. พร้อมด้วย ‘ผบ.จิน’ ผบ.นทพ. เข้าช่วยประชาชนที่แม่สาย
chutikan_o
11 ก.ย. 2567
11 ก.ย. 2567
11 ก.ย. 2567
11 ก.ย. 2567
11 ก.ย. 2567
11 ก.ย. 2567
“ไลอ้อน” ร่วมปันน้ำใจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม สนับสนุนสินค้าอุปโภค-บริโภค ผ่าน 4 องค์กรและมูลนิธิ
thichaphat_d
11 ก.ย. 2567
11 ก.ย. 2567
11 ก.ย. 2567
11 ก.ย. 2567