‘ปู ไปรยา’ รีวิวชีวิตหลังแต่งงานกับสามี พร้อมเล่านาทีหวิดถูกโจรปล้นเครื่องเพชรมูลค่า 200 ล้านบาท

‘ปู ไปรยา’ รีวิวชีวิตหลังแต่งงานกับสามีต่างชาติ กำลังปลูกเรือนหอที่แอลเอ พร้อมเล่านาทีหวิดถูกโจรปล้นเครื่องเพชรมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท

นางเอกสาว ‘ปู ไปรยา’ ล่าสุดเดินทางกลับมาเมืองไทยอีกครั้ง พร้อมมาร่วมงานเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ A SECRET ของ ‘เอ ศุภชัย’ ที่ เบเนดิก สตูดิโอ ซึ่งปูก็ได้ถือโอกาสรีวิวชีวิตหลังแต่งงานกับสามีนักธุรกิจชาวต่างชาติ ไปเมื่อวันที่ 11 เดือน 11 ปีที่แล้ว และเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกือบถูกโจรปล้นเครื่องเพชรมูลค่าเกือบ 200 ล้านบาท ที่แอลเอ สหรัฐอเมริกาด้วย

ชีวิตหลังแต่งงาน ปู บอกว่า แฮปปี้มีความสุขดี ครั้งนี้กลับมาไทยก็เพื่อมาถ่ายโฆษณา ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มทำบ้านที่ L.A แล้วด้วย ซึ่งก็เป็นเรือนหอ อยู่ที่โน่นก็มีงานแคส มีโปรเจกต์หนังและซีรีส์ ส่วนสามีก็ทำงานหนักเหมือนกัน บินเยอะกว่าปูอีก ได้เจอกันทุก 2-3 อาทิตย์ ซึ่งก็ชินแล้ว เพราะเป็นแบบนี้ตั้งแต่ตอนที่คบกันแล้ว และไม่ใช่เป็นคู่ที่หวานกันตั้งแต่แรก เขาก็ไม่ใช่สายโรแมนติก จะออกแนวจริงจังนิดนึง ไม่มีกระหนุงกระหนิง มีขี้หึง เราไม่ค่อยทะเลาะกัน

ซึ่งปูแฮปปี้กับแบบนี้มากๆ เพราะเธอก็เป็นผู้หญิงบ้างาน ให้หยุดทำงานแล้วเอาเวลาไปช้อปปิ้งมันก็ไม่ใช่ น่าเบื่อตาย เพราะไม่ใช่สายช้อป ขอทำงานดีแล้ว ช่วยเขาเก็บเงิน เพราะเขาก็ทำงานเหนื่อยมาก เธอก็ไม่อยากเป็นภาระให้สามี

ส่วนเวลาที่อยู่ด้วยกัน เธอก็จะทำอาหาร ทำสวนปลูกผัก เลี้ยงหมา 4 ตัว เลี้ยงไก่เพื่อเก็บไข่สด มีสวนกุหลาบ ก็ใช้ชีวิตคู่แต่งงานปกติทั่วไป แต่ก็มีข้อตกลงกันว่า พวกวันสำคัญๆ อย่างเช่น วันเกิด วาเลนไทน์ คริสต์มาส ตรุษจีน ไม่ว่าทั้งคู่จะอยู่ที่ไหนของโลก ยังไงก็ต้องบินกลับมาเจอกัน

ส่วนเรื่องลูกก็อาจจะต้องรอเวลาอีกแป๊ปนึง ตอนนี้อยากช่วยสามีทำงานก่อน ไม่อยากให้เขารู้สึกว่าเราเข้ามาแล้วเอาเปรียบเขา อยากเป็นสะใภ้ที่ทำงาน ซึ่งตอนนี้ก็มีคิวงานยาวไปจนถึงปลายปีแล้ว ยอมรับว่างงเหมือนกันที่หลังจากแต่งงานก็มีงานเยอะขึ้นกว่าเดิม

ปูยังได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกือบโดนปล้นที่ L.A ให้ฟังด้วยว่า ตอนนั้นเธอใส่เครื่องเพชรมูลค่ากว่า 6 ล้านเหรีญ USD หรือ 200 กว่าล้านบาท เพื่อไปร่วมงานอีเว้นต์งานหนึ่ง ซึ่งในขณะที่กำลังจะเดินทางไปที่งานอีเว้นต์ ก็ต้องขึ้นรถคันหนึ่ง แล้วเขาก็สลับให้เป็นอีกคันนึง แล้วก็มีรถอีกคันขับมาสกัดรถบอดี้การ์ด

เหตุการณ์ตอนนั้นชุลมุนมาก เหมือนกับในหนังเลย พอลงจากรถได้ก็คิดในใจว่าโชคดีมาก ตอนนั้นก็อึ้งๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งจากเหตุการณ์วันนั้น ก็ทำให้คิดว่า อะไรที่มันยากมาก ไม่ต้องทำก็ได้ ขอทำงานแบบที่ไม่กดดัน ไม่ต้องแข่งขัน ทำเฉพาะที่อยากทำ ไม่อยากเอาชีวิตไปเสี่ยงกับอะไรอีก

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/iksoNUFYUPg