‘เปิ้ล นาคร’ แจงชัด! ดรามาแข่งเจ็ตสกีชิงแชมป์โลก วอนพิจารณาใหม่ ปมนักกีฬาไทยถูกปัดตกเงินอัดฉีด

‘เปิ้ล นาคร’ ยันแข่งเกิน 6 ประเทศ ทีมงาน NSDF ขอโทษแล้ว บอกเข้าใจผิด ลั่นไฝว้เพื่อนักกีฬาไทย เชื่อถ้าปล่อยไว้จะไม่ได้เงินหนุน วอนพิจารณาใหม่ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับนักกีฬาไทยทุกประเภท

สำหรับวงการกีฬาเจ็ตสกีไทยที่กำลังเป็นดรามาอยู่ในขณะนี้ หลังนักแสดงชื่อดัง ‘เปิ้ล นาคร’ ออกมาแจ้งเรื่องเงินอัดฉีดนักกีฬาเจ็ตสกีประเทศไทย ว่านักกีฬาทุกคนรวมถึงลูกชายอย่าง น้องออก้า จะไม่ได้เงินสนับสนุนในการแข่งขันกีฬาเจ็ตสกี ที่ไปแข่งได้แชมป์โลก รายการ “IJSBA World Finals 2022” ที่ เมืองเลคฮาวาซู รัฐอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โพสต์ดังกล่าวก็ถูกแชร์ออกไปจนกลายเป็นประเด็นดรามาจี้ถามผู้ที่เกี่ยวข้อง

กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงกฎระเบียบข้อบังคับการให้เงินรางวัลแก่นักกีฬา บุคลากรกีฬาและสมาคมกีฬาที่ใช้คำว่า แห่งประเทศไทย ซึ่งสาเหตุที่ไม่ได้เงินอัดฉีด เพราะการแข่งขันไม่เข้าหลักเกณฑ์ เนื่องจากการแข่งขันแต่ละอีเว้นต์ต้องมีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน 6 ประเทศขึ้นไป แต่ในการแข่งขันของน้องออก้า ที่คว้าเหรียญทองมาได้ มีแค่ 2 ประเทศ คือ ไทย กับทีมสโมสรในประเทศสหรัฐอเมริกา มีจำนวนเรือทั้งหมด 6 ลำ และออก้ายังไม่ใช่นักกีฬาตัวแทนทีมชาติไทยอีกด้วย

ประเด็นนี้ส่งผลให้ เปิ้ล นาคร โดนกระแสตีกลับอย่างหนัก ว่าออกมาสู้เพื่อลูกตัวเองหรือเปล่า ล่าสุดวานนี้ (4 ก.ย.) นักข่าวทีมครอบครัวบันเทิงได้ไปสัมภาษณ์ เปิ้ล นาคร ถึงประเด็นดรามาดังกล่าว

เจ้าตัวเปิดใจว่า เรื่องกฎที่บอกว่า การแข่งขันกีฬาแต่ละอีเว้นต์ จะต้องมี 6 ประเทศขึ้นไป จึงจะได้รับเงินสนับสนุนนั้น เปิ้ลอธิบายเพิ่มเติมว่า คำว่าอีเว้นต์ หมายถึงการจัดงานภาพใหญ่ ซึ่งการแข่งขันเจ็ตสกีชิงแชมป์โลก รายการ “IJSBA World Finals 2022” มีตัวแทนมาแข่งมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ซึ่งในอีเว้นต์การแข่งขัน ก็จะถูกแบ่งการแข่งขันย่อยออกมาเป็นรุ่นแต่ละรุ่น ตอนนั้นน้องออก้าลงแข่ง 3 รุ่นด้วยกัน รุ่นนึง 6 ลำ รุ่นนึง 18 ลำ อีกรุ่นนึงแข่งทีละลำ ซึ่งก็ได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ถึงประเด็นนี้ไปแล้ว และเขาก็ได้ขอโทษมาแล้ว โดยบอกว่าทีมงานน่าจะเข้าใจผิด แต่ก็งงว่า ทำไมถึงเอาประเด็นนี้กลับมาพูดอีก เป็นการดิสเครดิตเด็ก 10 ขวบหรือเปล่า

กลายเป็นว่า ตอนนี้คนมองว่า ตัวเองกำลังออกมาสู้เพื่อลูกเหรอ ยืนยันว่าไม่ได้ไฟว์เพื่อลูก แต่สู้เพื่อนักกีฬาทั้งประเทศ เพราะถ้าปล่อยไปแบบนี้ ในอนาคตนักกีฬาไทยก็จะไม่ได้เงินสนับสนุน หรือเงินอัดฉีดอีกต่อไป จึงอยากขอความเมตตาผู้ใหญ่ ทีมรัฐมนตรีใหม่ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่กำลังจะเข้ามาบริหาร อยากให้พิจารณาเรื่องนี้ใหม่ ทำยังไงก็ได้ให้เกิดประโยชน์กับนักกีฬาไทยทุกประเภท เพื่อนักกีฬาจะได้มีกำลังใจในการสร้างอะไรให้กับประเทศชาติ

เปิ้ลเล่าต่ออีกว่า หลังจากที่กฎกติกาเรื่องอีเว้นต์ 6 ประเทศถูกปัดตกไป  ปรากฎว่าเขาไปหากติกาข้อใหม่มาแทน ที่จะทำให้นักกีฬาไม่ได้เงินสนับสนุน ซึ่งข้อใหม่นี้ถูกต้องตามกฎหมายที่จะทำให้นักกีฬาไม่ได้รับเงินสนับสนุน คือ เนื่องจากสมาคมเจ็ตสกีนานาชาติ IJSBA ซึ่งเป็นองค์กรเจ็ตสกีโดยตรง เพียงองค์กรเดียวของโลก ไม่ได้เป็นสมาชิกของสหพันธ์สมาคมกีฬานานาชาติ (GAISF)  จึงไม่เข้าระเบียบการที่จะให้เงินสนับสนุน หรือเงินอัดฉีดให้กับนักกีฬา

ดังนั้นจึงอยากขอความเมตตา และขอเป็นกระบอกเสียงเล็กๆ ให้กับนักกีฬาทีมชาติไทย และนักกีฬาอีกหลายๆ ประเภทที่ถูกปัดตกเรื่องเงินสนับสนุนเหมือนกัน อยากให้ความถูกต้องที่มาตั้งเป็นกฎกติกา ทำแล้วให้เกิดประโยชน์กับนักกีฬาไทย ไม่ใช่เอาความถูกต้องมา แล้วตัดประโยชน์ ตัดอนาคตของนักกีฬา  อย่างการแข่งขันเจ็ตสกี ปีที่แล้วมีนักกีฬารวมตัวกันไปแข่ง 28 คนเพื่อคว้าแชมป์อันดับโลก แต่ปีนี้เหลือเพียง 6 คนเท่านั้น เพราะคนอื่นไมมีเงินทุนไปต่อ แล้วอย่างนี้มันพัฒนาประเทศชาติตรงไหน

และบางคนที่บอกว่า กีฬาเจ็ตสกี เป็นกีฬาของคนรวย ทำไมไม่ควักเงินตัวเองไปแข่งล่ะ พี่เปิ้ลขอพูดตรงนี้เลยว่า นักกีฬาทุกประเภทมีทั้งคนรวย และคนจน อย่าเอากีฬามาแบ่งวรรณะ อย่างนักกีฬาเจ็ตสกีหลายคนก็ต้องสู้ชีวิต  บางคนช่วยพ่อแม่ขายข้าวแกง แล้วมารับจ้างแข่ง เพื่อหาเงินไปเรียนหนังสือ บางคนป็นเด็กล้างจานมาก่อนแล้วผันตัวมาเป็นนักแข่งสร้างตัวได้

นักข่าวถามต่อว่า ถ้าอีกฝ่ายอยากพูดคุยด้วย ยินดีไหม เปิ้ล บอกว่า ยินดีพูดคุย แต่ต้องหากฎข้อใหม่ ที่เกิดประโยชน์ต่อนักกีฬาในอนาคต

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/SZ3w7rt7Oek