เศรษฐกิจ
ผู้ประกอบการจ่อชงนายกฯ มาตรการปิดผับตี 4 ชี้วิธีวัดแอลกอฮอล์ลูกค้าก่อนกลับ เสี่ยงเกิดปัญหาทำได้ยาก
โดย nicharee_m
11 พ.ย. 2566
80 views
ผู้ประกอบการเตรียมยื่นหนังสือถึงนายกฯ เสนอวิธีการเปิดสถานบริการถึงตี 4 เน้นแบ่งโซนนิ่งและทำชัดเจน ยันวิธีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ลูกค้าก่อนกลับ ทำได้ยากเพราะไม่ใช่เจ้าหน้าที่ และเสี่ยงต่อการทะเลาะวิวาท
นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร เปิดเผยกรณีข้อเสนอ ของ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่เสนอให้สถานบริการที่เปิดบริการถึงตี 4 ได้ จะต้องตรวจปริมาณแอลกอฮอล์นักดื่มทุกคนก่อนกลับบ้าน และต้องห้ามไม่ให้ขับรถ โดยทางร้านอาจจะจัดบริการรถสาธารณะรับส่งลูกค้า
นายสง่า ระบุว่า เป็นไปไม่ได้ใน 2 ข้อนี้ เพราะจะเป็นตัวสร้างปัญหามากกว่าป้องกัน โดยตามธรรมชาติของคนเมาเมื่อถูกวัดแอลกอลฮอล์ ขนาดตำรวจเป็นคนวัด ยังมีปัญหาทะเลาะวิวาท แล้วถ้าให้ผู้ประกอบการไปวัดแอลกอฮอล์เอง เสี่ยงต่อการทะเลาะวิวาทแน่นอน เพราะผู้ประกอบการไม่ใช่เจ้าหน้าที่ และไม่เข้าใจเหตุผลว่า จะวัดไปเพื่ออะไร เพราะยังไงคนที่นั่งดื่มส่วนใหญ่ แอลกอลฮอล์ก็เกินกฎหมายที่กำหนดอยู่แล้ว และตามนิสัยของคนเมา หากเมาแล้วมักจะไม่ดื่มต่อ บางคนก็อาจจะหลับ บางคนก็จะสนุกกับเพื่อนๆ ต่อ
ส่วนเรื่องการจัดหารถรับ-ส่งนั้น โดยปกติ จุดนำร่องโครงการนี้ อย่างเช่นถนนข้าวสาร นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ จะเรียกบริการรถโดยสาร หรือแท็กซี่อยู่แล้ว หรือบางรายก็พักโรงแรมที่สามารถเดินไปได้ ซึ่งเรื่องนี้ เมื่อปรับเวลาปิดตี 4 การตั้งด่านเมาแล้วขับ ก็ต้องมีการตั้งด่านให้สมดุลย์กัน เพื่อป้องกันอันตรายจากการเมา
ทั้งนี้ นายสง่า บอกว่า ตั้งแต่มีแนวคิดโครงการปิดสถานบริการถึงตี 4 ยังไม่เคยได้รับการเสนอความคิดหรือมีการสอบถามผู้ประกอบการโดยตรง เพราะผู้ประกอบการจะรู้ดีที่สุดปัญหาตรงไหน และควรทำอย่างไร มีเพียงแค่ทฤษฎีหลักการเท่านั้น ดังนั้น วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 กลุ่มผู้ประกอบการจะยื่นหนังสือ ถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณา 1.ปรับปรุง ยกเลิกมาตราการควบคุมแอลกอลฮอล์ที่ล้าสมัยหรือเป็นอุปสรรค ต่อการประกอบการ 2.เร่งกำหนดพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวเพื่อพลักดันการท่องเที่ยวและ “Soft Power” 3.เสริมสร้างความร่วมมือ แลกเปลี่ยนข้อมูลทางผู้ประกอบการ กับทางภาครัฐ
โดยทั้งหมดนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาให้โครงการปิดสถานบริการถึงตี 4 ได้ผลปละครอบคลุม แต่ 2 ข้อที่ นำเสนอมานั้น ตนในฐานะผู้ประกอบการ เชื่อว่าทำไม่ได้และยิ่งจะเกิดปัญหา
