เศรษฐกิจ

ต้นทุนสูงรับไม่ไหว! คนเผาถ่าน หยุดส่งไปกทม.-ลดเผา สวนทางความต้องการ

โดย passamon_a

26 มิ.ย. 2565

23 views

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.65 นายสุเชฏฐ์ จันผุด อายุ 56 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 ต.ห้วยนาง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งประกอบอาชีพเผาถ่าน ขายมานานกว่า 3 ปีแล้ว กล่าวว่า ตนเองมีเตาเผาถ่านทั้งหมด 4 เตา ปกติจะผลิตส่งไปขายยุ้งในกรุงเทพฯ เดือนละประมาณ 300 กระสอบ แต่ขณะนี้ได้ลดกำลังการผลิตลง เหลือประมาณเดือนละ 100 กระสอบเท่านั้น


เนื่องจากปีกไม้ยางพารา มีการปรับราคาสูงขึ้นมาก ประกอบกับน้ำมันสำหรับเลื่อยไม้ ก็มีราคาแพง ทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น แม้ความต้องการใช้ถ่านของประชาชนในขณะนี้จะเพิ่มสูงขึ้นมากทั่วประเทศ เพราะหลายคนต้องการประหยัดค่าแก๊สหุงต้ม หลังจากที่มีการปรับราคาสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แล้วหันมาใช้เตาอั้งโล่ และวิธีการอื่น ๆ ในการปรุงอาหารแทน


ขณะเดียวกัน ล่าสุดถ่านไม้ก็มีการปรับราคาขายเพิ่มขึ้นแล้วเช่นกัน จากเดิมกระสอบละ 380 บาท เป็นกระสอบละ 400 บาท หรือเพิ่มขึ้นกระสอบละ 20 บาท แต่อย่างไรก็ตาม จากปัญหาที่ปีกไม้ยางพารา มีการปรับราคาสูงขึ้นเป็นตันละกว่า 1,000 บาท และราคาก็ยังมีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา และไม้ 1 ตัน จะผลิตถ่านไม้ได้ประมาณ 3 กระสอบเท่านั้น แถมยังต้องจ่ายค่าแรงให้คนงานอีกกระสอบละ 75 บาทด้วย จึงทำให้การเผาถ่านขายไม่คุ้มทุน อีกทั้งในการส่งไปขายที่กรุงเทพฯ แต่ละครั้ง จะต้องมีปริมาณอย่างน้อย 300 กระสอบขึ้นไป เพื่อให้คุ้มกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ โดยเฉพาะค่าน้ำมันที่ยังคงมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง


ดังนั้นเมื่อรายได้ไม่คุ้มทุน ตนเองจึงจำต้องหยุดการส่งถ่านไม้ไปยังกรุงเทพฯ และต้องลดการผลิตถ่านไม้ลงเหลือแค่เดือนละ 100 กระสอบ แล้วเอาในส่วนนี้มาแบ่งขายปลีกในจังหวัดตรัง และใกล้เคียงแทน เพราะความต้องการใช้ถ่านไม้ของประชาชนในพื้นที่ก็มีมากเช่นเดียวกัน


โดยใช้วิธีการแบ่งขายถ่านไม้เป็นกระสอบ ๆ ละประมาณ 10 กิโลกรัมเศษ ขายในราคากระสอบละ 140 บาท และยังจัดถ่านไม้ใส่ถุงส่งขายปลีก ตามร้านค้า และหน้าบ้าน ในราคาถุงละ 30 บาท เพื่อให้ประชาชนได้ใช้กัน เป็นการส่งเสริมการประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ในยุคที่ราคาพลังงานทุกอย่างพุ่งสูงขึ้นรายวันเช่นนี้ ส่วนเศษถ่านไม้ จะเอาไปส่งขายให้กับโรงงานผลิตถ่านอัดแท่ง ในราคากระสอบละ 20 บาท


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/UVUeluTFkCU

คุณอาจสนใจ

Related News