เศรษฐกิจ

ถึงทางตัน! เจ้าของร้านดังร่ำไห้ จำใจเซ้งร้าน หลังสู้พิษโควิดไม่ไหว เป็นหนี้กว่า 3 ล้าน

โดย thichaphat_d

2 ก.ค. 2564

791 views

ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ได้รับฟังความรู้สึกของ คุณช่อลัดดา คุ้มวงค์ เจ้าของร้าน มายคาเฟ่ เดอะ ไลบรารี่ (My Cafe the Library) ร้านชื่อดังย่านเกษตร-นวมินทร์ ที่รวบรวมคาเฟ่ ร้านอาหาร บาร์ และห้องสมุดขนาดย่อมไว้ด้วยกัน ซึ่้งเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำละครของช่อง 3 หลายเรื่อง และเคยได้รับการช่วยเหลือจากโครงการเรื่องเล่าแบ่งปัน สั่งออเดอร์ข้าวกล่องมาแจกให้ชาวชุมชนต่างๆ แต่ล่าสุด เธอบอกกับทีมข่าวว่า ตอนนี้จำใจต้องปิดร้าน เพราะไปต่อไม่ไหว


โดย คุณช่อลัดดา เล่าทั้งน้ำตาว่า ร้านนี้เปิดมา 12 ปี ก่อนโควิดระบาดเปิดให้บริการ 24 ชม. ในอดีตลูกค้าเยอะมาก ตนเริ่มจากการเป็นผู้จัดการร้าน ต่อมากลายหุ้นส่วนร้าน และเพิ่งซื้อร้านมาทำต่อเองเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา หลังจากผ่านสถานการณ์โควิดรอบแรก เพราะคิดว่าธุรกิจนี้ยังไปได้ แรกๆก็ไปได้ด้วยดี ถึงแม้กำไรน้อย แต่ก็เลี้ยงลูกน้อง 15-16 คนของร้านได้


ตนรักร้านนี้มาก ตนมีความสุขทุกครั้งที่เห็นลูกค้ามานั่งอ่านหนังสือ จนลูกค้าเรียนจบหลายต่อหลายรุ่น แล้วกลับมาสวัสดีเรา รู้สึกอบอุ่นเป็นเหมือนครอบครัวมากกว่าร้านอาหาร ซึ่งเราไม่ได้หวังทำธุรกิจอย่างเดียว แต่หวังให้เด็กมาอ่านหนังสือ และลูกค้าเข้ามานั่งทำงาน บางครั้งเห็นเด็กมัวแต่เล่นกัน ไม่อ่านหนังสือ ตนก็จะให้พนักงานไปปรามว่าให้อ่านหนังสือ ความรู้สึกเหมือนเราเป็นแม่ มันมีความสุขมาก ตนไม่ได้หวังกำไรอย่างเดียว แต่ตนอยากทำธุรกิจสร้างสรรค์สังคม เคยจัดโปรโมชั่นให้ลูกค้านำหนังสือมาบริจาคแลกกับคูปองสั่งเครื่องดื่มฟรี ซึ่งทางร้านได้นำหนังสือบางส่วนบริจาคให้มูลนิธิต่างๆอยู่หลายครั้ง


ช่วงโควิดระบาดรอบ 2 แม้ว่าต้องเสียพนักงานบางส่วนไปเพราะจ่ายค่าจ้างไม่ไหว ตนก็บอกลูกน้องไปว่าถ้าสถานการณ์ดีขึ้นจะรับกลับมาทั้งหมด ซึ่งเหลือลูกน้องเพียงไม่กี่คน ที่แม้จะได้เงินเดือนลดลงแต่เต็มใจอยู่กับตนต่อ ขณะนั้นตนก็ยังสู้ คิดว่าเดี๋ยวก็ควบคุมได้เหมือนรอบแรก พยายามคิดบวกตลอด จึงหาเงินมาทำร้านต่อ โดยการยืมเงินเพื่อนบ้าง เอารถเข้าไฟแนนซ์บ้าง ตอนนั้นติดหนี้ประมาณ 2 แสนบาท


แต่พอมาเจอโควิดรอบ 3 ถึงขั้นเข่าอ่อน แต่ก็ยังสู้อยู่ จากช่วงก่อนโควิดได้รายได้ประมาณ 2 หมื่นต่อวัน ตอนนี้เหลือวันละไม่กี่ร้อยบาท หลายคนถามว่าทำไมไม่หยุดทำร้าน แต่มันหยุดไม่ได้ เพราะกู้มาเยอะมาก และคิดว่ายังมีความหวังอยู่ แต่ขณะเดียวกันค่าเช่าที่ค้างอยู่ก็พอกพูนมาเรื่อยๆ เพราะตนขอผ่อนจ่ายกับทางศูนย์การค้า


ในช่วงโควิดรอบแรกและรอบ 3 ทางร้านมีโอกาสได้ทำข้าวกล่องให้โครงการเรื่องเล่าแบ่งปัน รู้สึกปลื้มใจมาก เหมือนคนที่กำลังจะจมน้ำตายแต่มีคนมากระชากขึ้นจากน้ำได้ทันเวลา แต่ตอนนี้ ตนจำใจต้องปิดร้าน เพราะไม่มีลูกค้าเลย แถมโดนทวงค่าเช่า และขาดเงินหมุนเวียน ต้องค้างเงินเดือนพนักงาน มันเจ็บปวดมาก ตนไม่รู้จะทำยังไง ตอนนี้มีหนี้สินกว่า 3 ล้านบาท จึงต้องประกาศเซ้งร้าน เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า ซึ่งทางเจ้าของที่ก็ให้ย้ายออกหากจ่ายค่าเช่าไม่ไหว


ขณะนี้เครียดมาก ร้องไห้ทุกวัน แทบไม่ได้นอน พอตื่นขึ้นมาก็ผวาทุกครั้ง เป็นแบบนี้ตั้งแต่มีประกาศออกมาตอนตี 1 วันที่ 27 มิถุนายน ว่า ไม่ให้นั่งทานอาหารในร้าน วันนั้นตนตื่นขึ้นมาตอนตี 2 เห็นข่าวนึกว่าฝันไป ถึงขั้นหยิกตัวเอง แต่พอรู้ว่ามันคือความจริง หลังจากนั้นรู้สึกมือแปดด้าน ไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิต


ที่ผ่านมาตนเป็นคนสู้ชีวิตมาก แต่มาเจอครั้งนี้หนักหนาสาหัสที่สุดในชีวิต เข้าใจเลยที่มีคนคิดสั้นเพียงเสี้ยววินาที เพราะมันเป็นปัญหาที่ไม่มีใครมาช่วยแก้ได้ ตนไม่อยากโทษใคร แต่ตนพยายามตั้งสติมาหลายร้อยครั้งแล้ว ก็ยังหาทางออกไม่ได้ ไม่เข้าใจว่าประเทศไทยใช้คำว่าสู้ๆเปลืองมาก เมื่อไหร่มันจะหมดคำนี้ไปเสียที


ทั้งนี้ จึงอยากวอนให้นายทุนช่วยเซ้งร้าน แล้วเปิดให้บริการต่อตอนโควิดซา เพราะตนรักร้านนี้มาก แต่คงไม่มีทุนทำต่อ จึงไม่อยากให้ร้านดีๆแบบนี้หายไป



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/9j3EJx_OVN0

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ปิดร้านอาหาร ,พิษโควิด

คุณอาจสนใจ

Related News