อาชญากรรม

ญาติลั่นไม่อโหสิกรรม! รับศพเสี่ยเจ้าของโรงงาน ถูก ตร.หนุ่ม ยิงดับคาทางด่วน วอนตำรวจอย่าช่วยพวกเดียวกัน

31 ธ.ค. 2566

665 views

ญาติรับศพเสี่ยเจ้าของโรงงาน ถูกรอง สว.สน.หัวหมาก ยิงบนทางด่วน แม่ลั่นไม่อโหสิกรรม ถ้าเจอหน้าคนก่อเหตุอยากถาม “ทำไปเพื่ออะไร” กังวลกลัวจะได้รับการประกันตัว อยากให้ได้รับโทษประหารชีวิตเท่านั้น ด้านภรรยาเปิดท้ายรถให้นักข่าวดู พบพาสปอร์ตผู้ก่อเหตุ เชื่อเตรียมหลบหนี ขณะที่ญาติ คาดผู้ต้องหาพูดไม่หมด ขอให้ดำเนินคดีถึงที่สุด วอนตำรวจฯ อย่าช่วยพวกเดียวกัน

วานนี้ (30 ธ.ค.) ครอบครัวและญาติของนายกฤษฎิ์ ศรุวรานนต์ (ผู้ตาย) ได้เดินทางเข้าขอรับศพที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่ วัดศิริเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ

โดยนางสาวจิราภัทร แม่ของนายกฤษฏิ์ ศรุวรานนต์ อายุ 30 ปี เสี่ยเจ้าของโรงงาน กล่าวทั้งน้ำตาว่าปมที่เกิดขึ้นเชื่อว่ามาจากที่นายตำรวจคนที่ก่อเหตุคนนี้ ขอให้ลูกชายช่วยชดใช้หนี้สินทั้งหมดให้เขา แต่ทางลูกชายไม่รับปากและไม่ทำให้ เนื่องจากจำนวนเงินหนี้มันมากเกินไป ลูกชายจึงช่วยเหลือได้แค่ให้เขาทำงานเก็บเงิน แล้วไปชดใช้หนี้สินเอง แต่ทางผู้ก่อเหตุก็ยังคอยอ้อนวอนให้ลูกชายช่วยเหลือตามที่เขาขอ แต่ทางลูกชายก็ยังคงยืนยันคำเดิม ผู้ก่อเหตุจึงน่าจะโกรธและลงมือก่อเหตุดังกล่าวกับลูกชาย

ส่วนตัวมองว่ามันเดินไปหรือไม่ ให้ลูกชายชดใช้หนี้สิน ทั้งที่ไม่ใช่ของตัวเอง อยากถามมากว่าเขาทำแบบนี้ได้ยังไง ทำแบบนี้เท้ากับเขาทำลายครอบครัวคนอื่นไปหมดเลย ลูกชายเป็นนักธุรกิจ เป็นเสาหลักของครอบครัว ขาดเขาไปแล้วครอบครัวก็แย่กันหมด

ถ้าหากตนเองได้เจอหน้าคนก่อเหตุ อยากถามเขามากเลยว่า “ทำทำไม ทำไปเพื่ออะไร” ตอนนี้กังวลกลัวว่าเขาจะได้รับการประกันตัว สิ่งที่ต้องการตอนนี้อยากให้เขาได้รับโทษคือประหารชีวิตเท่านั้น

ขณะที่ทาง นางเหมย ภรรยาของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมารับร่างของสามีเช่นกัน ซึ่งทางเจ้าตัวเองเองยังคงอยู่ในอาการโศกเศร้า และร้องไห้ตลอดตลอดเวลา โดยทางทีมข่าวได้พยามเข้าไปสอบถามถึงเรื่องราวและเหตุการณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่ทางเจ้าตัวได้มีการให้ข้อมูลและพาทีมข่าวไปดูบริเวณหลังรถเก๋ง BMW ซึ่งเป็นรถที่ทางผู้เสียชีวิตและใช้ขับขี่อีกคันนึง ซึ่งเส้นทางภรรยาได้ข้อมูลว่าที่บริเวณท้ายรถยังมีกระเป๋าของผู้ก่อเหตุอยู่ภายใน  

โดยทางภรรยาของคนตายได้เปิดกระเป๋าของผู้ก่อเหตุ ให้ทีมข่าวดู ซึ่งภายในกระเป๋าดังกล่าวพบข้าวของเครื่องใช้บางส่วน รวมไปถึงยังพบในส่วนของพาสปอร์ตหรือหนังสือเดินทาง ของผู้ก่อเหตุ จำนวน 2 เล่ม ซึ่งเป็นเล่มเก่าที่ทำไว้นานแล้วและใกล้จะหมดอายุอีก 4 เดือนข้างหน้า

ขณะที่เล่มใหม่เพิ่งจะมีการทำได้ก่อนจะเกิดเรื่องประมาณ 1 วัน โดยในเอกสารได้มีการระบุการทำพาสปอร์ตเล่มดังกล่าว ในวันที่ 28 ธันวาคม 2566 รวมไปถึงภายในกระเป๋าเองยังพบคุณกุญแจมือ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ทางเจ้าตัวพกติดตัวไว้ในฐานะที่เป็นตำรวจ ตลอดจนยังพบในส่วนของกุญแจรถจักรยานยนต์จำนวน 1 ดอก พร้อมเอกสารบางอย่าง

ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ทางภรรยาได้เห็น อาจจะตั้งข้อสังเกตได้ว่า ทางผู้ก่อเหตุเองอาจจะมีการเตรียมการตั้งใจหลบหนีออกนอกประเทศ หลังจากที่มีการก่อเหตุหรือไม่

จากนั้นในช่วงบ่าย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปุย อายุ 48 ปี และ นายป้อม อายุ 50 ปี น้าของผู้เสียชีวิต ได้มาเตรียมสถานที่รอรับศพอยู่ที่ศาลาสุพงศ์-ศรีอริยะวัฒน์กุล วัดศิริเสาธง ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว กล่าวว่า ไม่เชื่อคำให้การของผู้ต้องหา ที่อ้างว่าถูกผู้เสียชีวิตหลอกไปทำงานขับรถให้เป็นเวลา 5 เดือน และสัญญาว่าจะวิ่งเต้นเรื่องตำแหน่งให้ แต่ไม่ทำตามสัญญา ที่ผ่านมาหลานชายเป็นคนใจกว้าง มักจะดูแลคนใกล้ชิดอย่างดี เคยเลี้ยงอาหารให้กับโรงพักของผู้ต้องหาด้วย และต้องการขอให้ดำเนินการกับผู้ต้องหาให้ถึงที่สุด อย่าช่วยกัน ถึงแม้ผู้ก่อเหตุจะเป็นตำรวจก็ตาม

จากนั้นเวลา 14.30 น. รถของมูลนิธิฯได้เคลื่อนย้ายศพมาจาก รพ.ตำรวจ มาพร้อมกับ แม่และภรรยาของผู้เสียชีวิต โดยมีญาติ และพระสงฆ์ในวัดช่วยกันยกโลง เข้ามาในศาลา เตรียมทำพิธีรดน้ำศพ ขณะนั้น ภรรยาของผู้เสียชีวิตยืนร้องไห้อย่างหนักด้วยความเสียใจ ส่วนแม่ของผู้เสียชีวิต ได้เดินเข้ามาหานักข่าว พร้อมแจ้งว่า ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์และขอความร่วมมือไม่ให้เก็บภาพทำข่าวเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว เนื่องจากแม่ของผู้เสียชีวิต มีลูกชาย 2 คน ก่อนหน้านี้ ตายไปแล้ว 1 คน และต้องมาสูญเสียลูกชายคนนี้ไปอีก จึงยังทำใจไม่ได้



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/SR1DEIZjKO8

คุณอาจสนใจ