อาชญากรรม

เปิดปมขัดแย้ง ‘เจ้าสัวไต้หวัน’ จ้างวาน ‘อดีตนายพล-นาวาเอก’ ฆ่าลูกเมียตัวเอง อดีตทหารปฏิเสธ งงถูกจับ

โดย petchpawee_k

23 ธ.ค. 2566

188 views

ชุดหนุมานกองปราบ บุกจับ 3 ผู้ต้องหาจ้างวานฆ่าลูก-เมียชาวไต้หวัน ปมขัดแย้งธุรกิจครอบครัว เผยสาเหตุมือปืนกลับใจเพราะโดนขอลดค่าจ้าง และกลัวอิทธิพลอดีตครูฝึกหน่วยปฏิบัติการพิเศษ

    เช้ามืดวานนี้ (22 ธ.ค.) ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบและตำรวจกองบังคับการปราบปราม เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นจับกุมอดีตครูฝึกนาวิกโยธินและอดีตนายพล เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการจ้างวานฆ่า 2 แม่-ลูก ของทายาทเศรษฐีนายทุนชาวไต้หวัน ตรวจค้นและจับกุมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 4 จุด และ จ.ชลบุรี 4 จุด

    จุดสำคัญที่ชุดปฏิบัติการหนุมานเข้าจับกุมคือเป้าหมายอดีตครูฝึกนาวิกโยธิน น.อ.เทวราช มังกร ที่บ้านทาวน์เฮ้าส์หลังหนึ่งในซอยทวีวัฒนา 14 เขตทวีวัฒนา โดยอดีตครูฝึกคนนี้มีประวัติโชกโชนทั้งการใช้อาวุธหนัก วัตถุระเบิดและการต่อสู้ประชิดตัว อีกทั้งยังเคยก่อเหตุใช้จอบทุบหัวตำรวจในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เสียชีวิตเมื่อปี 2549 ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตแต่ได้รับการอภัยโทษและเพิ่งพ้นโทษเมื่อไม่นานมานี้

    เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้ให้ชุดหนุมานกองปราบเป็นกองหน้าเรียกให้นาวาเอกคนดังกล่าวออกมาพบพร้อมแสดงหมายจับและหมายค้น ช่วงแรกผู้ต้องหาไม่ยอมให้เข้าตรวจค้นภายในบ้าน พันตำรวจเอกเอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม จึงเข้าไปเจรจา พร้อมทั้งอธิบายข้อกฎหมายก่อนที่เจ้าตัวจะอนุญาตให้เข้าไปตรวจค้นและจับกุมโดยสมัครใจ

    พันตำรวจเอกเอนก เปิดเผยว่า คดีนี้มูลเหตุจูงใจมาจากนักธุรกิจชาวไต้หวัน ได้จ้างวานให้ฆ่าภรรยาและลูกของตนเอง คาดว่ามาจากความขัดแย้งเรื่องธุรกิจในบริษัท ซึ่งนักธุรกิจชาวไต้หวันได้ติดต่อขอให้พลเรือตรีที่รู้จักกันจัดหาทีมสังหารให้ พลเรือตรีประกายพฤกษ์จึงติดต่อนาวาเอกเทวราชอีกทอดเพื่อให้จัดหาทีมมือปืน ซึ่งตำรวจจับกุมได้ครบทั้ง 3 คน เพราะผู้ต้องหาเข้าใจว่ามือปืนสามารถสังหารเหยื่อได้สำเร็จทำให้ผู้ต้องหาตายใจ ทั้งที่เหยื่อทั้ง 2 คนยังปลอดภัยดี

    หลังการตรวจค้นเสร็จสิ้น ชุดปฏิบัติการได้ควบคุมตัวนาวาเอกเทวราชไปสอบปากคำเพิ่มเติมต่อที่กองบังคับการปราบปราม ระหว่างนั้นสื่อมวลชนพยายามซักถามว่านาวาเอกเทวราชได้ว่าจ้างหรือเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ / เจ้าตัวตอบว่าผมจะไปจ้างวานฆ่าใคร ตนเองยังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ตั้งแต่มาพวกคุณก็เห็นว่าผมไปเกี่ยวอะไรกับใครเขา และเมื่อถามว่า รู้จักกับนายประกายพฤกษ์ หรือไม่ ตอบสั้นๆ ว่า เป็นเพื่อนผม

    ส่วนจุดที่ 2 ที่เข้าตรวจค้นพร้อมกันเช้าวานนี้ (22 ธ.ค.) เป็นบ้านของ พลเรือตรีประกายพฤกษ์ ศรีฟ้า ในพื้นที่ลาดกระบัง ผู้ต้องหาคนนี้เป็นคนรับงานมาจากนักธุรกิจชาวไต้หวัน และประสานนาวาเอกเทวราช อดีตครูฝึกนาวิกโยธินให้จัดหาทีมมือปืน เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพลเรือตรีก็ยินยอมให้เข้าตรวจค้นจับกุมโดยดี

    จนถึงขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ยังคงให้การปฏิเสธ แต่พฤติการณ์กระทำความผิดสำเร็จแล้ว เพราะกรณีการจ้างวานฆ่า แม้มือปืนจะยังไม่ทันได้ก่อเหตุ แต่ถือว่าผู้ว่าจ้างได้มีการว่าจ้างให้กระทำผิดเรียบร้อยแล้ว และตามกฎหมายต้องรับโทษ 1 ใน 3 หากมือปืนยังไม่ได้ลงมือ

    นอกจาก 2 จุดดังกล่าวแล้ว ชุดปฏิบัติการยังได้เข้าตรวจค้นจุดที่ 3 เป้าหมายคนสำคัญที่สุด ซึ่งเป็นตัวการใหญ่ นักธุรกิจชาวไต้หวันที่เป็นผู้ว่าจ้างให้ฆ่าลูกและภรรยาของตนเอง ถูกจับกุมตัวได้เช่นกันที่บ้านพักย่านประเวศ

    ส่วนที่ จ.ชลบุรี เป็นสถานที่เก็บอาวุธต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่พบรถที่นาวาเอกเทวราช ใช้ขับไปติดต่อมือปืน และยังพบวัตถุระเบิดอีกบางส่วน ส่วนจุดอื่นที่เหลือก็สามารถยึดพยานหลักฐานสำคัญที่เกี่ยวข้องได้

    สำหรับการปฎิบัติการเมื่อวานนี้ (22 ธ.ค.) ชุดปฏิบัติการได้เข้าตรวจค้นเป้าหมายทั้งหมด 8 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 4 จุด และที่ จ.ชลบุรี อีก 4 จุด

    ต่อมาเมื่อเวลา 09.16 น. ที่กองบังคับการปราบปราม เจ้าหน้าที่ชุดหนุมานกองปราบ นำตัว พลเรือตรีประกายพฤกษ์ ศรีฟ้า ผู้ต้องหาคนแรก เดินทางมากองบังคับการปราบปรามด้วยรถตู้สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฮฮ 3247 กรุงเทพมหานคร

    จากนั้นเวลา 10.16 น. เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปราม พร้อมของกลางเป็น เสื้อเกราะและอาวุธครบมือ อาทิ อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .357​​ จำนวน 1 กระบอก ​เสื้อเกราะกันกระสุน รถยนต์​ 2 คัน นอกจากนี้ ในปฏิบัติการนี้ยังยึดลูกระเบิดขว้าง ลูกเกลี้ยง ​​จำนวน 3 ลูก กระสุนปืนเล็กยาว ลูกระเบิด M79 ​จำนวน 10 ลูก​​ พร้อมควบคุมตัว นายเทวราช มังกร อดีตนายทหารนอกราชการ ผู้ต้องหาคนที่ 2 มาที่กองบังคับการปราบปราม โดยผู้สื่อข่าวได้ถาม นายเทวราช ว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องการจ้างวานฆ่าหรือไม่ นายเทวราช ตอบว่า คุณพูดไปเรื่อยเปื่อย ผมจะไปทำอย่างนั้นทำไม เมื่อถามต่อว่า ทราบไหมว่าเมื่อเช้าตำรวจไปตรวจค้นเรื่องอะไร นายเทวราช หันไปถามเจ้าหน้าที่ว่า เรื่องอะไรนะ ตนก็ยังงงอยู่ และเมื่อถามรู้จักกับคนไต้หวันหรือไหม นายเทวราชบอกว่า รู้จักคนชื่อเจมส์ เคยเจอกัน 1 ครั้ง เพื่อเข้าไปช่วยคนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน

    จากนั้นพลตำรวจตรีโสภณ สารพัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้แถลงข่าวผลการจับกุมคดีดังกล่าว โดยเปิดเผยว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กองบังคับการปราบปราม ได้รับแจ้งจาก นายชาง ผู้เสียหาย ว่า นายฟง (พ่อของผู้เสียหาย) มีความขัดแย้งทางธุรกิจกับผู้เสียหายในเรื่องผลประโยชน์ และอำนาจในการบริหารบริษัท ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาท โดยผู้เสียหายพบว่ามีกลุ่มคนร้ายที่ถูกว่าจ้างมาจากกลุ่มทหารระดับนายพล มุ่งจะปองร้ายตนกับผู้เป็นแม่ จนทำให้ผู้เสียหายต้องพาแม่ไปหลบพักอาศัยอยู่ที่ต่างประเทศ ส่วนนายชางยังคงต้องอาศัยอยู่ในประเทศไทยเพื่อบริหารงานบริษัท ด้วยความหวาดกลัว ผู้เสียหายจึงได้เข้ามาขอความช่วยเหลือ

    จากการสืบสวนทราบว่า เมื่อปี พ.ศ.2542 นายฟง ได้ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท เกี่ยวกับการผลิตและส่งออกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยได้ดำเนินการทางธุรกิจโดยมีนางยอง (แม่ผู้เสียหาย) และนายชาง (ผู้เสียหาย) เป็นกรรมการบริษัท

    ต่อมาเมื่อต้นปี พ.ศ.2565 นายชางผู้เสียหายได้ตรวจสอบพบการทุจริตในบริษัท จึงได้มีการฟ้องร้องทางคดีเพื่อเพิกถอนนายฟง ออกจากกรรมการผู้มีอำนาจ ซึ่งทางนายฟงผู้เป็นพ่อก็ได้ฟ้องร้องทางคดีกับลูกชายด้วยเช่นกัน รวมคดีอาญาและคดีเเพ่งที่ฟ้องร้องกันไปมารวมกว่า 20 คดี

    กระทั่งเมื่อช่วงต้นปี พ.ศ.2566 ศาลได้มีคำสั่งให้นายชาง ชนะคดีฟ้องร้องเพิกถอนนายฟง ออกจากกรรมการผู้มีอำนาจ ผู้เสียหายจึงได้เป็นกรรมการผู้มีอำนาจบริหารจัดการบริษัทมาจนถึงปัจจุบัน

    ต่อมาในช่วงเดือนสิงหาคม 2566 ซึ่งเป็นช่วงที่นายชางดำเนินการทางธุรกิจอยู่นั้น ได้มีกลุ่มคนร้ายจำนวนกว่า 10 คน นำกำลังเข้าไปข่มขู่ที่บริษัทของผู้เสียหาย ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการตรวจสอบบุคคลที่เข้าไปก่อเหตุดังกล่าว และได้มีการเชิญตัวมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งทราบข้อมูลว่า กลุ่มคนร้ายเหล่านั้น เป็นมือปืนรับจ้างที่รับงานมาจ้างนายเทวราช (อดีตทหารเรือยศนาวาเอกและเป็นครูฝึกหน่วยปฏิบัติการพิเศษซีล) โดยมี พลเรือตรีประกายพฤกษ์ เป็นผู้สั่งการมาอีกทอดหนึ่ง ซึ่งจากการสอบปากคำนายเทวราช ได้มีการซัดทอดไปถึงตัว นายฟง โดยยืนยันว่าเป็นผู้สั่งการให้พวกตนมากระทำการดังกล่าว เนื่องจากนายฟง มีปมขัดแย้งในเรื่องบริษัท กับทางผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย ตามหมายจับดังกล่าว

    ส่วนที่มือปืน ตัดสินใจไม่ลงมือก่อเหตุแล้วไปแจ้งนายชาง ผู้เสียหายนั้น พลตำรวจตรีโสภณ ระบุว่า จากการสอบสวนมือปืนอ้างว่าไม่ได้รับเงินค่าจ้างตามที่ตกลง ผู้ว่าจ้างขอลดค่าจ้าง เนื่องจากมี 1 ในเป้าหมายเดินทางกลับประเทศไปแล้ว จึงตัดสินใจไม่ลงมือก่อเหตุแล้วนำข้อมูลไปบอกกับผู้เสียหาย

    ส่วนความสัมพันธ์ของนายฟงกับพลเรือตรีประกายพฤกษ์ ก่อนหน้านี้ นายฟงได้มีการว่าจ้างพลเรือตรีประกายพฤกษ์ ให้ดูแลจัดหาทีมรักษาความปลอดภัยของบริษัทให้ ซึ่งพลเรือตรีประกายพฤกษ์ ได้ไปว่าจ้างนายเทวราชอีกทอดหนึ่ง จากนั้นนายฟงจึงได้จ้างพลเรือตรีประกายพฤกษ์ ให้จัดหามือปืนให้ไปฆ่าลูกและภรรยา พลเรือตรีประกายพฤกษ์จึงจ้างนายเทวราช

    สำหรับมือปืนที่ถูกจ้างวานนั้น ตามกฎหมายแล้ว หากยังไม่มีการลงมือก่อเหตุ ก็ถือว่ายังไม่มีพฤติการณ์กระทำผิด และให้การเป็นประโยชน์กับพนักงานสอบสวน จึงยังไม่มีความผิดตามกฎหมาย

    มีรายงานข่าวระบุเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่มือปืนตัดสินใจไม่ก่อเหตุ นอกจากจะเป็นเรื่องค่าจ้างไม่ลงตัวแล้ว มือปืนยังรู้สึกหวาดกลัวพฤติกรรมของนายเทวราช ที่ไม่ได้แค่ว่าจ้าง แต่มีการบอกวิธีการ วางแผนเป็นขั้นตอน และจัดหาอาวุธมาให้ทั้งปืนและระเบิด จึงกลัวว่าอาจจะเกิดอันตรายกับตนเองภายหลัง ซึ่งนายเทวราชมีการถามย้ำจี้อยู่ตลอดว่า ได้ลงมือหรือยัง มือปืนจึงต้องโกหกว่า ได้ลงมือไปแล้ว



https://youtu.be/W6m704PVdxM

แท็กที่เกี่ยวข้อง  จ้างวานฆ่า

คุณอาจสนใจ

Related News