อาชญากรรม

รมว.ยุติธรรม ยันย้ายเด็กชาย 14 มือกราดยิงพารากอน จากสถานพินิจฯไปรักษา ‘สถาบันกัลยาณ์’

โดย petchpawee_k

7 ต.ค. 2566

82 views

รมว.ยุติธรรม ยันย้ายเด็กชาย 14 มือกราดยิงพารากอนไปรักษา “สถาบันกัลยาณ์” – ขณะที่รองอธิบดีกรมพินิจฯ แจงเป็นการส่งไปประเมินซ้ำโดยทีมแพทย์เฉพาะทางจิตเวชเด็กและวัยรุ่น ระบุ ยังอยู่ระหว่างประเมิน รอผลเข้าข่ายอาการทางจิตจนต้องรักษาหรือไม่ แจง ได้แจ้งให้พ่อแม่เด็กทราบแล้ว บอก สบายใจ หวังให้ลูกได้รับการรักษา


วานนี้ (6 ต.ค.66) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องการรับตัว ด.ช.วัย 14 ปี ผู้ก่อเหตุยิงห้างสยามพารากอน ซึ่งขณะนี้อยู่ในความควบคุมดูแลของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ว่าสถานพินิจฯได้มีกระบวนการรับตัว มีแพทย์ที่ตรวจและประเมินสุขภาพกายและสุขภาพจิตของเด็ก ซึ่งรับทราบว่าเด็กชายไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ระหว่างนี้จึงคงยังอยู่ในการดูแลของสถานพินิจฯ และได้รับแจ้งว่า เมื่อมีการตรวจประเมินสุขภาพจิตของเด็กชาย ทางทีมจิตแพทย์ที่ตรวจสอบเบื้องต้นมีความเห็นว่า เห็นควรส่งตัวเด็กชายไปเข้ารับการรักษาที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ แต่ไม่ได้เห็นรายละเอียดชัดเจนว่า เด็กชายมีอาการทางจิตอย่างไร เป็นเพียงสรุปรายงานที่ได้รับทราบเท่านั้น


 แม้ว่าเด็กชายจะถูกส่งตัวไปรักษา  แต่ในทางกฎหมายไม่สามารถเปิดเผยเรื่องอาการสุขภาพของเด็กได้ ขอให้เป็นไปตามความเห็นของแพทย์ อีกทั้งทางกรมพินิจฯ ก็ได้มีการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่สำหรับเข้าร่วมดูแลเด็ก ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย


นอกจากนี้ ไม่ได้เน้นย้ำกำชับในเรื่องใดเป็นพิเศษแก่กรมพินิจฯ เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะมีขั้นตอนการดำเนินการและรายงานให้รับทราบต่อเนื่อง อีกทั้งเรื่องสำคัญอีกประการคือการที่เจ้าหน้าที่ของกรมพินิจฯ จะต้องลงพื้นที่ สืบเสาะ สืบสวนค้นหาสาเหตุที่ทำให้เด็กชายก่อเหตุดังกล่าว เพื่อที่เราจะได้ร่วมกันออกแบบกลไกป้องกันไม่ให้มีเด็กหรือเยาวชนก่อเหตุในลักษณะนี้ซ้ำขึ้นอีก


ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยเพิ่มเติมกับ น.ส.ศิริประกาย วรปรีชา รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ระบุว่า ในส่วนของกรมพินิจจะมีนักจิตวิทยาประเมินอาการสุขภาพจิตเบื้องต้น และด้วยความที่เคสนี้เป็นเคสที่ผู้ก่อเหตุอายุน้อย และเป็นคดีที่มีความน่าตกใจ จึงได้มีการประสานสถาบันกัลยาณ์ฯ ซึ่งทางสถาบันจะมีจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นเฉพาะทาง เราจึงส่งตัวให้ประเมินอีกครั้ง โดยตอนนี้อยู่ในช่วงของการประเมินยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาแต่อย่างใด โดยทางกรมฯ ได้ส่งตัวไปแล้วตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 5 ต.ค. ขณะนี้ทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญยังอยู่ระหว่างการประเมิน ยังไม่ทราบว่าจะใช้เวลากี่วัน


 เมื่อถามว่าในส่วนของสถานพินิจหลังจากประเมินเบื้องต้นช่วงแรกพบว่าอาการของเด็กชายมีอาการทางจิตหรือเข้าข่ายมีอาการทางจิต รองอธิบดีกรมพินิจฯ ระบุว่า หากถามว่ามีความเสี่ยงขนาดไหนอย่างไร ในส่วนของสถานพินิจเป็นเพียงการประเมินเบื้องต้นเท่านั้น จึงจำเป็นต้องส่งให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางของสถาบันกัลยาณ์ประเมิน ซึ่งคิดว่าเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการทำความเข้าใจเด็ก


ก่อนจะเล่าถึงอาการของเด็กชายที่เข้ามาอยู่ในสถานพินิจในวันที่ 4-5 ต.ค. ว่าช่วงแรกที่รับเข้ามา เด็กไม่ค่อยพูด นิ่งเงียบ และไม่มีการโวยวายใดๆ อีกอย่างคือเด็กชายไม่ค่อยรับประทานอาหาร ส่วนอาการวิตกกังวลและเครียดมองว่าอาการเหล่านี้เป็นปกติอยู่แล้วสำหรับคนที่เข้ามาอยู่ในสถานพินิจ


ขณะเดียวกันในวันแรกมีคุณพ่อของเด็กชายเข้าเยี่ยม ส่วนวันที่ส่งตัวไปรักษาทางสถานพินิจได้แจ้งให้ผู้ปกครองเด็กรับทราบทุกกระบวนการ ซึ่งเมื่อแจ้งแล้วทางพ่อแม่ของเด็กชายก็รู้สึกค่อนข้างสบายใจหลังจากทราบกระบวนการต่างๆ และทางพ่อแม่ของเด็กชายเองก็อยากให้ลูกได้รับการรักษาอีกด้วย ซึ่งทางสถานพินิจเองก็ได้ตอบกลับไปว่าเรื่องการรักษาขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์สถาบันกัลยาณ์


เมื่อถามถึงประเด็นหากสถาบันกัลยาณ์ประเมินแล้วว่าเด็กชายมีอาการทางจิตหรือเข้าข่ายมีอาการทางจิต กระบวนการจากนี้จะเป็นอย่างไร ต้องรักษาตัวจนกว่าจะหาย หรือรักษาตัวและรอการพิจารณาของทางศาลไปด้วย รองอธิบดีกรมพินิจฯ กล่าวว่า ทุกขั้นตอนมีการรายงานศาลรับทราบตลอด ระหว่างนี้กรมพินิจมีหน้าที่ดูแล หากสมมุติว่าต้องรักษาหรือพาไปหาหมอคือหน้าที่ของกรมฯ



ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีที่มีการส่งตัวเด็กชายไปรักษาที่สถาบันกัลยาณ์ ไม่ได้หมายความว่าเด็กชายมีอาการป่วยจิตรุนแรงหรือแสดงความก้าวร้าว แต่เพียงเเพทย์และคณะนักจิตวิทยาลงความเห็นร่วมกันว่า ควรส่งตัวให้แพทย์เฉพาะทางได้ทำการประเมินมากกว่า


รับชมทางยูทูบที่ :  https://youtu.be/pHYTz1RNNGI

คุณอาจสนใจ