เจ้าของโกดังพลุ ‘มูโนะ’ เตรียมมอบตัววันนี้ ตรวจเส้นทางการเงินพบคนมีสีมีเอี่ยว

รองโจ๊ก เผย สองผัวเมียเจ้าของโกดังพลุ “มูโนะ” ขอเข้ามอบตัววันนี้ หลังหลบหนีเข้ามาเลเซีย ย้ำคดีนี้เจ้าหน้าที่รัฐต้องรับผิดชอบ ถูกดำเนินคดีตาม ม.157 ส่วนเรื่อง 'ส่วย' ตรวจสอบเส้นทางการเงินพบคนมีสีมีเอี่ยว

วันที่ 4 ส.ค.66 พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสืบสวนเกี่ยวกับเหตุโกดังพลุดอกไม้ไฟระเบิดที่ชุมชนตลาดมูโนะ จังหวัดนราธิวาสว่า ล่าสุด ผู้ต้องหาสองสามีภรรยาได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว หลังจากหลบหนีไปยังรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย โดยจะเข้ามอบตัวกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ที่ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ในช่วงบ่ายวันที่ 5 สิงหาคมนี้

พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์กล่าวว่า คดีนี้ไม่มีความสลับซับซ้อน ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีนักการเมืองหรือกลุ่มคนมีสีอยู่เบื้องหลัง เพียงแต่โกดังดังกล่าวได้มีการขออนุญาตประกอบกิจการไม่ถูกต้อง คือ ไม่ได้ระบุประเภทของกิจการในใบอนุญาต ซึ่งเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่รัฐผู้ออกใบอนุญาต และบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ ถูกดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 157 แน่นอน แต่จะมีกี่คน อยู่ระหว่างการสอบสวน โดยเบื้องต้นมีหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบทั้งหมด 5 หน่วยงานมประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนตำบล, กระทรวงกลาโหม, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข

ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าผู้ประกอบการมีการจ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่นั้น ขณะนี้ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งพบเส้นทางดังกล่าวแล้ว เช่นเดียวกับเส้นทางการเงินของ อสม.ด้วย


รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า คดีนี้เกิดจากความประมาทเลินเล่อ ไม่ใส่ใจของเจ้าหน้าที่รัฐ จึงต้องมีการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบพิเศษในพื้นที่สามจังหวัดใช้แดนภาคใต้ ที่กำหนดให้กรณีมีผู้เสียชีวิตจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่รัฐ จะต้องได้ค่าชดเชยศพละ 500,000 บาทด้วย


นอกจากนี้ ยังต้องมีการตรวจสอบไปถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้ อัยการสั่งไม่ฟ้องในคดีเดียวกันเมื่อปี 2559 ว่าเกิดจากสาเหตุใด เพื่อนำมาประกอบและปรับปรุงให้สำรวมมีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น

ล่าสุดมีรายงานว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่าผู้ประกอบการมีการจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เช่นเดียวกับเส้นทางการเงินของ อสม.

https://youtu.be/fwWdANgVN-8