อาชญากรรม

‘เซียนพนัน’ บ่อนย่านรามอินทราแฉยับ ภาพในบ่อนทั้ง โต๊ะ-อุปกรณ์การเล่นครบ ยันเป็นบ่อนถาวรไม่ใช่บ่อนวิ่ง

โดย petchpawee_k

29 ต.ค. 2565

38 views

‘เซียนพนัน’ แฉภาพในบ่อน เข้าแจ้งความหลังถูกคนในบ่อนย่านรามอินทรา ซ้อมทำร้ายร่างกายรีดเงินกว่า 5 ล้านบาท เป็นบ่อนถาวรไม่ใช่บ่อนวิ่ง เผย นครบาลมีบ่อนมากกว่า 100 แห่ง ด้าน ตร. พาผู้เสียหายชี้จุดโดนทำร้าย ไร้วี่แววโต๊ะพนัน เจอแต่โต๊ะสนุ๊กใหม่เอี่ยม ไม่มีร่องรอยแป้งหรือร่องรอยไม้คิวบนโต๊ะสนุ๊ก ตามคาด

จากกรณีเซียนพนัน 5 ราย เข้าขอความช่วยเหลือกับเพจ “สายไหมต้องรอด” หลังถูกคนของบ่อนในซอยซอยรามอินทรา 40 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ อุ้มจับมัดใช้ถุงดำคลุมหัว เอามือปิดจมูกและปากซ้อมทำร้ายร่างกาย รีดเงินรวมกว่า 5 ล้านบาท โดยอ้างว่ากลุ่มผู้เสียหายโกงการเล่น “เสือมังกร” ทำให้บ่อนเสียเงิน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา

 วานนี้ (28 ต.ค.) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พานักพนันไปแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม  ในข้อหาพยายามฆ่า /ร่วมกันปล้นทรัพย์/ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว

 นักพนันผู้เสียหายซึ่งเป็นสาวประเภทสองหญิง ได้นำหลักฐานเป็นภาพถ่ายบรรยากาศภายในบ่อนการพนัน มายืนยันต่อสื่อมวลชนว่าสถานที่ที่ตนนำชี้เป็นบ่อนการพนันจริงๆ ไม่ใช่เรื่องที่ตกแต่งขึ้นมา ในภาพจะเห็นนักพนันชายหญิงจำนวนมาก มีเก้าอี้ โต๊ะ อุปกรณ์เล่นการพนันครบทั้งเสือมังกร บาคาร่า กำถั่ว แต่ละโต๊ะมีคนที่เรียกว่า “หน้าเสื่อ” ยืนประจำคอยจ่ายเงินเวลาได้เสีย คนแจกไพ่ คนคุมแต่ละโต๊ะ ผู้จัดการของบ่อนเดินตรวจความเรียบร้อย

 ส่วนตัวมาเล่นที่บ่อนนี้ได้ประมาณ 4 ครั้งแล้ว คิดว่าเขาเห็นว่าเราได้เงินเยอะ แต่ส่วนตัวมองว่าเงินที่ได้มาวันละหลักหมื่นถึงหลักแสนก็สมส่วนกับที่เล่นไป ที่ต้องเจอคือเขาบังคับให้นั่ง แล้วใช้ถุงดำครอบหัว มัดมือมัดขา บังคับให้บอกรหัสผ่านไปโอนออกจากบัญชี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2.5 ล้านบาท

นักพนันรายนี้ ยังระบุอีกว่า เจ้าของบ่อนเป็นคนในพื้นที่ แม้จะให้ผู้ใหญ่โทรศัพท์เข้าไปเคลียร์หลายครั้งเป็นเวลาเดือนกว่าแล้ว แต่ที่ผ่านมานายตำรวจระดับสูงในโรงพักนี้กลับทำมึน ไม่สนใจ ระบุว่านึกว่าจบไปแล้ว วันนี้จึงต้องมาแจ้งความดำเนินคดี ยืนยันว่าที่ผ่านมาพูดตามความจริงทุกอย่าง แต่ตำรวจพยายามบ่ายเบี่ยงไม่ให้เกี่ยวข้องกับบ่อน และ สน.โคกคราม “บ่อนกับตำรวจใครก็รู้กันว่าอยู่กันอย่างไร แต่เราคือทำยังไงได้ ยอมไปก่อน เพราะผู้ก่อเหตุก็ยอมมาเจรจาคืนเงิน มีการทำสัญญาบนโรงพัก”


ส่วนกรณีที่ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ระบุให้สัมภาษณ์กับสื่อไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ตนเองขอยืนยันว่าสิ่งที่ตนเองพูดเป็นข้อเท็จจริงทั้งหมด เรื่องคดียอมรับว่ารู้สึกว่าไม่ได้รับเป็นธรรม เพราะการแจ้งข้อหาที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง อีกทั้งมีการพยายามบ่ายเบี่ยงในการรับแจ้งความและดึงเรื่องให้ล่าช้า ทั้งยังมีผู้บริหาร สน.มาพูดในเชิงว่ามีการพูดคุยกับทางบ่อนหาว่าตนเองโกงจึงโดนทำแบบนี้ ส่วนตัวรู้สึกว่าตำรวจไม่ได้ให้ความเป็นธรรม     


นักพนันผู้เสียหายชายอีกราย ระบุว่า ตำรวจพาไปชี้จุด ตนจำได้หมดเพราะเข้าไปเล่นตลอด หลับตาชี้ยังรู้เลยว่าอะไรอยู่ตรงไหน ผู้เสียหายให้ข้อมูลตรงกันหมด และมีภาพถ่ายในบ่อนมายืนยันว่าที่ดังกล่าวคือบ่อนการพนัน ซึ่งหลังเกิดเหตุที่พวกตนโดนอุ้มทำร้ายเมื่อเดือนสิงหาคม ก็มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ด้านในเป็นโต๊ะสนุ๊กเกอร์ พวกตนไม่ได้โกหก


ทั้งนี้ ตนเคยเล่นที่บ่อนอื่นย่านนวลจันทร์ ซอย 22 ซอย 27 และซอย 36 รวมถึงพื้นที่อื่นในกรุงเทพมหานคร นับได้กว่า 100 บ่อน เป็นระยะเวลามากว่า 3 ปี แล้วเพิ่งย้ายมาเล่นที่นี่ได้แค่ 3 วัน มีทั้งถั่ว ไฮโล และเสือมังกร ซึ่งไม่เคยเจอที่ไหนเลวร้ายเท่ากับบ่อนนี้ ที่เขาบอกว่าเราโกงเพราะเห็นว่าเราได้เยอะและอ้างว่าเรารู้จักเด็กเปิดไพ่  ผู้เสียหายชายรายนี้ ระบุ เจ้าของบ่อนเป็นคนจีน อักษรย่อ ต. อายุ 50 กว่าปี และมีคนจีนเข้าไปเล่นในบ่อนแห่งนี้เยอะ เป็นบ่อนถาวร ไม่ใช่บ่อนวิ่ง


 “ผมไปมา 30-40 แห่งแล้ว หากถามว่าในพื้นที่นครบาลมีบ่อนกี่แห่ง ยืนยันว่ามากกว่า 100 แห่ง ทุกเขต บ่อนใหญ่ทั้งนั้น แต่ก็มีการสลับเปิดปิดมาโดยตลอด โดยเฉพาะช่วงเดือนตุลาคมที่มีการโยกย้ายตำรวจ ก็จะปิดๆ เปิดๆ ส่วนตอนที่มีโควิดระบาดตนเองก็เห็นว่าบ่อนก็เปิดปกติ มีปิดเป็นเดือนบ้างแต่ไม่บ่อย”


ตอนแรกตนเองก็กลัวการออกมาแจ้งความ เพราะทางบ่อนข่มขู่ว่าตนเองจะไม่ได้ออกมาสู้ แต่ในวันนี้ตนเองพร้อมสู้ไม่กลัวอีกแล้ว ไม่กลัวใครทั้งนั้นจะแฉให้หมด ใครจะยิงก็มายิงเถอะ  จับให้หมดก็ดีจะได้ไม่มีคนไปเล่น ส่วนบ่อนใกล้กับ สน.โคกคราม ยืนยันมีจริง เป็นบ่อนเล็ก 1 แห่ง บ่อนใหญ่มาก 1 แห่ง ตนก็ไม่รู้ว่าตำรวจรู้หรือไม่ จากนี้ตนกับภรรยาจะเลิกเล่นการพนันไม่เข้าบ่อนอีกต่อไป


นักข่าวถามว่าตำรวจบอกไม่มีบ่อนแล้วลุงเคยไปเล่นบ่อนไหนบ้าง พื้นที่ไหนบ้าง? นักพนันรายนี้ไล่เรียงให้ฟังมีทั่วกรุงเทพฯ ทั้งวังหิน 2-3 บ่อน,โชคชัย 3 บ่อน, เยาวราช 2 บ่อ ,สาทร 1 บ่อน,บางนา, สมุทรปราการ 2 บ่อน,ห้วยขวาง 2 บ่อน ,สายไหม 1 บ่อน, ดอนเมือง 1 บ่อน เยอะจนจำไม่ได้ทุก บ่อนที่ตนกล่าวมานั้นที่ผ่านมาไปเล่นตลอด ทราบว่าบางบ่อนไปไปช่วงเดือนตุลาคม เพราะ “นายสั่ง”

 นักพนันผู้เสียหายอีกราย เผยว่า ตอนนี้อยู่ในที่มืดไม่ได้เลยยังรู้สึกกลัว เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน นึกถึงแต่วันที่โดนเอาถุงดำครอบหัว รอดมาได้ก็ดีแล้ว ที่ไม่มาแจ้งความตั้งแต่แรกก็เพราะกลัว บ่อนที่เกิดเหตุตนไม่ทราบว่าเปิดนานแค่ไหน พวกตนมาเล่นได้แค่ 3 วัน ยืนยันพวกตนไม่ได้โกงบ่อน จะโกงได้ไงเล่นในบ่อนคนเป็นร้อย เราแทงก่อนที่เขาจะออกไพ่


“หลังจากที่ตำรวจพาพวกตนไปชี้จุด ทุกอย่างในบ่อนเปลี่ยนไป กลายเป็นโต๊ะสนุ๊กเกอร์ ก่อนหน้านี้ตนไปเล่นหลายที่แต่จะเล่นอยู่บ่อนย่านนวลจันทร์ ซอย 36 เป็นประจำ พอถูกสั่งปิดก็ย้ายไปเปิดที่อื่น พวกนักพนันจะรู้กันก็จะตามไปเล่น ตำรวจบอกไม่มีบ่อน มีไม่มีไม่รู้แต่ก็ไปเล่นมาแล้วแหล่ะ แต่ถ้าวันนี้ไปดูก็คงไม่เจอบ่อนแล้ว คงเปลี่ยนเปลี่ยนอย่างอื่น”

--------------------------------------


ขณะที่ วานนี้ (28 ต.ค.) เวลา 13.40 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจนำผู้เสียหายเข้าชี้จุดและตรวจค้นสถานที่ที่นักพนันผู้เสียหาย ระบุว่าเป็นบ่อนการพนันในซอยซอยรามอินทรา 40 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ หลังถูกคนของบ่อน อุ้มจับมัดใช้ถุงดำคลุมหัว เอามือปิดจมูกและปากซ้อมทำร้ายร่างกาย รีดเงินรวมกว่า 5 ล้านบาท


โดยช่วงเย็นวันที่ 27 ต.ค. มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่ามีสิ่งของผิดกฏหมายหรือเกี่ยวข้องกับการพนันแต่อย่างใด การตรวจค้นครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 สถานที่แห่งนี้มีรั้วล้อมรอบ กล้องวงจรปิดรายรอบ ด้านหน้าเขียนป้ายระบุเปิดเป็นโต๊ะสนุกเกอร์ เปิด 24 ชั่วโมง

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ตำรวจจะเข้าไปตรวจค้นซ้ำอีกครั้งนั้น มีตำรวจ สน.โคกคราม ได้นำเชือกมาปิดกั้นบริเวณด้านหน้าประตูเจ้าบ่อน นำแผงเหล็กมาวางกั้นหน้าประตูทางเข้า และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเฝ้าสถานที่ดังกล่าวไว้ทั้งด้านนอกและด้านใน


ขณะที่ตำรวจที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้า บอกว่า ขับขี่รถผ่านทุกวันไม่เคยรู้ว่าเป็นบ่อนและไม่เคยเข้าไปตรวจด้านใน ตนเองมายืนเฝ้าเพราะผู้บังคับบัญชาจะลงพื้นที่ตรวจค้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า จากประตูกระจกเดินเข้าไปด้านในของอาคารพบแต่โต๊ะสนุ๊กเกอร์ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย โต๊ะพนันหรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเล่นพนันแต่อย่างใด และพูดทิ้งท้ายกับนักข่าวว่า “ตำรวจโคกครามโดนอีกแล้ว”


 ระหว่างที่นักข่าวยืนอยู่หน้าจุดเกิดเหตุ พบว่า มีชายคนหนึ่งนั่งรถแท็กซี่มาจากปทุมธานี บอกว่ามาเอาไม้คิวที่ใช้เล่นสนุ๊ก นักข่าวสอบถามเจ้าตัวบอกว่าตนเองเล่นแต่สนุ๊กเกอร์ แต่รู้สถานที่นี้คือบ่อนใหญ่ มีการพนันหลากหลายที่เสือมังกร บาคาร่า เมื่อถามว่าคนมาเล่นเยอะหรือไม่ บ่อนเปิดนานหรือยัง ชายคนดังกล่าวไม่ตอบก่อนรีบขี้นรถแท็กซี่ขับออกไป


 ขณะที่ พล .ต.ต. นิตินันท์ เพชรบรม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และพลตำรวจตรี อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2,ตัวแทนสำนักงานเขตบึงกุ่ม และการประปานครหลวง เข้าตรวจสอบที่ เดอะ เบสท์สนุกเกอร์ พร้อมกับให้ผู้เสียหายชี้จุดเกิดเหตุ เริ่มตั้งแต่ด้านในจุดที่ไปเล่นพนัน โดยมีการตรวจสอบด้านในประมาณ 15 นาที จากนั้นได้พากลุ่มผู้เสียหายเดินออกมาเข้าประตูบานเล็กสีขาวด้านข้าง ซึ่งเป็นจุดที่ผู้เสียหายถูกพาลงมาจากชั้น 2 ก่อนพาผู้เสียหายออกมาชี้จุดด้านหน้าอาคารบริเวณลานจอด


ตลอดการชี้จุดนั้นมีนายหนุ่ม ชายที่ทีมข่าวสัมภาษณ์ก่อนหน้านั้นที่อ้างตัวเป็นคนเคลียร์ค่าเสียหายให้กับผู้เสียหาย วันนี้อ้างว่าเป็นผู้ดูแลอาคาร ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ในการเปิดให้ตำรวจและผู้เสียหายเข้าไปชี้จุดใช้เวลาประมาณ 40 นาที ก่อนที่จะพาไปชี้จุดที่ถูกพาขึ้นรถตู้ออกไป และจุดที่ถูกปล่อยทิ้ง

 หลังจากเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบภายในอาคาร ก็เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบทำข่าวบันทึกภาพด้านใน ซึ่งพบว่ามีเพียงโต๊ะสนุ๊กเกอร์ 4 โต๊ะ และห้องวีไอพีมีโต๊ะสนุกเกอร์อีก 1 โต๊ะ แต่ไม่พบอุปกรณ์เล่นการพนันแต่อย่างใด/ ทางผู้ดูแลอนุญาตให้บันทึกภาพได้เฉพาะชั้นล่างเท่านั้น ไม่อนุญาตให้สื่อขึ้นไปบนชั้นสอง อ้างว่าใช้เก็บของ

 โดยมีนายหนุ่ม เป็นคนพาดูรอบๆ ซึ่งเมื่อเข้าไปด้านใน พบว่า ในห้องขนาดใหญ่ มีโต๊ะสนุ๊ก อยู่ 4 โต๊ะ และอีก 1 โต๊ะ อยู่ในห้องวีไอพี ทีมข่าวได้นำภาพที่ผู้เสียหายเคยบันทึกเมื่อเดือนสิงหาคม มาให้นายหนุ่ม ดูว่าใช่สถานที่เดียวกันหรือไม่ นายหนุ่ม ยืนยันว่า ที่นี่เปิดเป็นโต๊ะสนุ๊ก ส่วนภาพที่ปรากฏว่าเป็นบ่อนการพนัน ตนไม่ทราบ เพราะเพิ่งมารับช่วงต่อจากเจ้าของเก่าได้ประมาณ 1 เดือน โดยเห็นจากเพจเฟซบุ๊กว่ามีการประกาศเซ้ง ตนเองและแฟนเลยติดต่อเช่าสถานที่ต่อ ตกลงกับเจ้าของ เป็นค่าเช่าเดือนละ 35,000 บาท เมื่อถามว่าเจ้าของเป็นใคร นายหนุ่ม บอกว่า ตนเองขอไม่เอ่ยชื่อ เพราะไม่อยากดึงมาเกี่ยวข้อง


 ส่วนกรณีผู้เสียหายบอกว่านายหนุ่ม เป็นตัวแทนบ่อนไปไกล่เกลี่ยที่โรงพัก เมื่อเดือนกันยายน ที่ผ่านมา หลังผู้เสียหายแจ้งความ นายหนุ่ม บอกว่าขณะนั้นตนเองยังไม่ได้มารับช่วงโต๊ะสนุกเกอร์ แต่ได้รับว่าจ้างจากคนชื่อ “เอก” ซึ่งเคยเจอกันในขณะตระเวนเล่นสนุกเกอร์ เป็นนักเล่นเหมือนกัน โอนเงินให้ 500,000 บาท ให้เอาไปเคลียร์ผู้เสียหาย ซึ่งตนเองได้โอนให้ผู้เสียหายรายหนึ่งที่เป็นสาวประเภทสองไปทั้งหมด โดยได้เงินค่าจ้างจากนายเอกจ่าย 1,000 - 2,000 บาท เมื่อถามว่าทำไมนายเอกถึงไว้ใจ โอนเงินให้ 500,000 บาท ทั้งที่เคยเจอกันไม่กี่ครั้ง นายหนุ่ม บอกว่า ก็เคยเจอกัน

 ช่วงหนึ่งระหว่างการสัมภาษณ์ ได้มีการเปิดเฟซบุ๊กแฟนสาวนายหนุ่ม ที่เคยเช็คอินที่ร้านสนุกเกอร์แห่งนี้ ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งขัดแย้งกับที่นายหนุ่ม บอก เพิ่งเช่าร้านได้เดือนเดียวหรือไม่ นายหนุ่ม บอกว่า ตนเองก็ไม่ทราบต้องไปถามแฟน เพราะเรื่องการเซ้งและเอกสารต่างๆ แฟนเป็นคนดูแลทั้งหมด แต่เมื่อขอให้โทรหาแฟน เผื่อให้ชี้แจงสื่อได้เลยหรือไม่ นายหนุ่ม ปฏิเสธ

นายหนุ่ม ผู้ดูแลอาคาร ยืนยันกับทีมข่าวว่าโต๊ะสนุ๊กที่เห็นดูใหม่ ไม่มีร่องรอยของการแทงสนุ๊กเลยนั้น เพราะมีเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดตลอดและไม่อนุญาตให้ใช้แป้งใดๆ เจ้าตัวยังยืนยันหนักแน่นว่า ตอนที่มาทำที่ร้านไม่ทราบว่าเป็นบ่อนหรือไม่ เพราะตอนที่มาที่นี่ก็เป็นโต๊ะสนุกเกอร์แล้ว เมื่อขอขึ้นไปดูชั้น 2 ซึ่งเป็นจุดที่ผู้เสียหายอ้างว่าถูกทำร้าย นายหนุ่ม ก็ปฏิเสธ

ด้านหนึ่งผู้เสียหายเมื่อวานนี้เข้ามาร่วมสังเกตการณ์ด้วย พาทีมข่าวชี้จุดว่าสถานที่นี้เดิมเคยมีโต๊ะการพนัน โดยเข้ามาจะมีจุดแลกชิพเงิน / โต๊ะเสือมังกร โต๊ะบาคาร่า และใกล้ ๆ กันจะมีประตูเล็ก ๆ สีขาว ที่สามารถพาขึ้นไปชั้น 2 ได้ แต่ตอนนี้ประตูล็อกอยู่

เมื่อนำภาพบ่อนแห่งนี้ซึ่งผู้เสียหายแอบถ่ายเมื่อเดือนสิงหาคม เปรียบเทียบกับภาพที่ทีมข่าวลงพื้นที่ไปถ่ายมา พบว่าภาพของผู้เสียหายที่ถ่ายมา ด้านขวาของรูปจะมีโต๊ะกำถัวอยู่ หากมองไปจะเห็นกำแพงตัวหนังสือภาษาอังกฤษ บริเวณจอโทรทัศน์ ซึ่งพอเปรียบเทียบกับภาพที่ทีมข่าวถ่ายไว้ พบว่ามีหลายจุดตรงกันเพียงแต่จุดที่เคยมีโต๊ะกำถั่วกลายเป็นโต๊ะสนุกเกอร์ และติดตั้งโคมไฟใหม่


ขณะเดียวกันทีมข่าวก็สังเกตเห็นว่า บริเวณผนังสีดำของร้าน หากเปรียบเทียบกับภาพที่ผู้เสียหายถ่ายไว้ จากเดิมที่เคยมีป้ายติดป้ายต่างๆ ไว้ ปัจจุบันบริเวณผนังยังมีรอยลอก ลักษณะคล้ายมีการแกะป้ายที่ติดตามผนังออกไป


อีกภาพจะสังเกตเห็นมีโต๊ะเสือมังกร อยู่ฝั่งขวามือ ซึ่งโต๊ะนี้ถูกยกออกไปแล้ว /ส่วนบริเวณด้านหน้าจอโทรทัศน์ก็โต๊ะพนัน ตอนนี้กลายเป็นโต๊ะสนุ๊กเกอร์/ที่ผนังมีเสื้อกีฬาใส่กรอบติดผนังไว้ 4 ผืน เมื่อวานนี้ทีมสังเกตเห็นยังอยู่ที่เดิม


ส่วนโต๊ะสนุ๊ก จากการสังเกตพบว่า ค่อนข้างใหม่ดูแล้วแทบไม่มีร่องรอยแป้ง หรือ ร่องรอยไม้คิวสนุ๊ก ที่เป็นรอยบนโต๊ะสักหลาดเลย ซึ่งดูขัดแย้งกับที่บอกว่ามีคนแวะเวียนมาเล่นต่อเนื่องทุกวัน/ ส่วนพรมปูพื้นก็มีการเปลี่ยนใหม่/ มุมตำแหน่งที่ต่าง ๆ หลายจุดตรงกันเป๊ะ ผู้เสียหายยืนยันว่าเป็นสถานที่เดียวกัน ตำรวจบอก “ขอตรวจสอบก่อน”


นอกจากนี้ทีมข่าวได้พูดคุยกับหนึ่งในพนักงานโต๊ะสนุ๊ก บอกว่าเพิ่งมาทำงานได้เดือนกว่าๆ พร้อมยืนยันตรงกับนายหนุ่ม ว่าที่นี่เปิดเป็นเป็นโต๊ะสนุ๊ก ไม่รู้ว่าที่นี่เคยเป็นอะไรมาก่อน และอ้างว่าไม่เคยทราบว่าที่นี่เคยเป็นบ่อน พูดได้แต่ว่า “ไม่รู้”



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/wz9SL_n_N6k

คุณอาจสนใจ