อาชญากรรม

เปิดที่มา "ฟันเฟือง" ตราประทับเชิดชูเกียรติ ล่าหัวนศ.ต่างสถาบัน

โดย attayuth_b

24 พ.ย. 2566

279 views

สำหรับตรา "ฟันเฟือง" ที่ประทับบนแขนของวัยรุ่นกลุ่มนี้ เป็นการเอาตราฟันเฟืองไปลนไฟ หรือแช่แข็ง ก่อนจะประทับลงไปบนเนื้อที่แขนซ้ายของคนในกลุ่ม ซึ่งเป็นเสมือนสัญลักษณืการเชิดชูเกียรติของคนในกลุ่ม เมื่อไปก่อเหตุสำเร็จ

นี่คือตัวอย่าของสัญลักษณ์ "ฟันเฟือง" ที่ถูกประทับลงบนแขนซ้ายของวัยรุ่นกลุ่มนี้ ซึ่งในกลุ่ม 8 คน ที่ถุกจับ มี 4 คน ที่ได้รับการประทับตรา บางคน 1 อัน บางคน 4 อัน ซึ่งมีรายงานว่าการปั๊มตราฟังเฟือง เพื่อบอกว่าบุคคลที่มีตราปั๊มนี้ผ่านการก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง และมีกำหนดว่าต้องทำภารกิจใก้สำเร็จกี่ครั้งถึงจะผ่านหลักสูตรดังกล่าว คล้ายการเก็บแต้ม ก่อนจะออกไปทำงานจริง เป็นตัวหลักของเครือข่าย ซึ่งตราฟันเฟืองดังกล่าวจะอยู่กับรุ่นพี่ที่คุม อะคาเดมี่แห่งนี้

ซึ่งที่รวมตัวของกลุ่มนี้ คือ บ้านเดี่ยวเนื้อที่ 50 ตารางวาที่วงศ์สว่าง ที่ตำรวจไปบุกจับและสื่อเรียกกันว่า "เซฟเฮ้าส์" แต่ตำรวจเรียกที่นี่ว่า "อะคาเดมี่" เพราะเป็นเสมือนโรงเรียนฝึกคน

นี่คือภาพที่ถูกเปิดเผยออกมา เป็นภาพของวัยรุ่นผู้ชายหลายสิบคน ถอดเสื้อ นั่งกับบ้าน แล้วสะพายกระเป๋าเป้เหมือนกัน โดยมีรุ่นพี่คอยสอนอยู่ข้างหน้า จากข้อมูลระบุว่า วัยรุ่นเหล่านี้เป็นนักศึกษาชั้นปีต่างๆ ที่เข้ามารวมตัวกัน และฝึกเรียบรู้ วิธีการก่อเหตุ การเอาตัวรอดหากโดนตำรวจไล่ล่า และที่ต้องถอดเสื้อแบบนี้ เพื่อเป็นการ "ถอดรุ่น" หากเปรียบเทียบเหมือนกับ เป็นทหาร ตำรวจ เข้ามาฝึกในหน่วยรบพิเศษ บางคนอาจจะยศใหญ่ ยศเล็กต่างกัน แต่เมื่อเข้ามาแล้วทุกคนจะไม่มีรุ่น ไม่มียศ เท่าเทียมกัน เรียนรู้ทุกอย่างเหมือนกัน ซึ่งหัวใจหลักของการฝึก คือ เรียนรู้ให้รัก สามัคคีกันแค่กลุ่มตัวเอง หากเกม โดนตำรวจจับ ให้บอกแค่ว่า "ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่เกี่ยว" และไม่ให้สาวไปถึงเพื่อนพ้องและรุ่นพี่ ในแต่ละปีเปิดการฝึกแบบไม่จำกัดรุ่น หากมีคนพร้อมและมากพอก็จะเปิดหลักสูตรทันที แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะจบได้ ถ้าเรียนรุ่นนี้ไม่จบ สามารถไปเรียนต่ออีกรุ่นก็ได้

หลักสูตรของพวกเขาจะมีด้วยกัน 3 ระดับ คือ ระดับแรกเรียก "อนุบาล" จะเข้ามาเรียนรู้ขั้นพื้นฐาน เกี่ยวกับการก่อเหตุ การเอาตัวรอดหากถูกไล่ล่า ในกระเป๋าเป้ ควรจะมีอุปกรณ์จำเป็นอะไรบ้างที่ใช้ในการซ่อนตัว อำพรางตำรวจ และยังชีพ ซึ่งแต่ละระดับจะมีการทดสอบ ถึงจะผ่านข้ามไปชั้นต่อไปได้ ซึ่ง 5 วัยรุ่น ที่โดนจับที่บ้านวงศ์สว่างอยู่ในระดับนี้

ระดับที่ 2 คือ ระดับประถม ระดับนี้คือ จะออกไปสังเกตการณ์วิธีการลงมือ หรืออยู่ในระดับที่รู้เห็นแผนที่จะลงมือ เพื่อเรียนรู้ก่อนจะข้ามขั้นไปถึงการก่อเหตุจริง ในระดับนี้ ก็มีจะ นาย สหัสวรรษ ภักดีนอก ผู้ต้องหาที่เคยปรากฎในวงจรปิดคดีกราดยิงงานแต่งงาน ของอดีตนักศึกษาอุเทนถวายที่สุทธิสาร นายวรงชัย กัณฑ์ศรี และ นาย ธนภัทร เกตุชาติ ขุดที่ร่วมวางแผนในคดียิงน้องหยอดและครูเจี๊ยบ

หากดูงานแล้ว ใจกล้าพอ ก็จะข้ามมาถึงระดับมัธยม ซึ่งเป็นระดับที่ 3 คือ ชุดก่อเหตุ เป็นชุดที่ลงมือก่อเหตุกับนักศึกษาต่างสถาบันฯ อย่าง นายพฤฒิพล ราชญาณ อายุ 22 ปี ที่ขี่รถมอเตอร์ไซต์พามือปืนไปก่อเหตุยิงนักศึกษาอุเทนฯ ที่บริเวณหน้าคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมาและทุกครั้งที่ลงมือแล้วเป็นที่ประทับใจของรุ่นพี่ ตราประทับ "ฟันเฟือง" ก็จะมาประดับบนแขนซ้ายคล้ายกับเหรียญเกียรติยศ

ด้านพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล เปิดเผยกับทีมข่าวว่า สัญลักษณ์ดังกล่าวเป็นเหมือนอวยชั้นยศ หากมีมาก ก็จะเป็นระดับยศชั้นสูงหรือเป็นผู้นำ วิธีการสร้างรอยฟันเฟือง คือ นำสัญลักษณ์ฟันเฟืองไปเผาไฟ แล้วนำมาประทับในร่างกายของผู้ร่วมขบวนการ

สำหรับผู้ต้องหา 4 คน ที่ตรวจพบรอยประทับฟันเฟือง ก็ไม่ใช่ระดับธรรมดา แต่เป็นระดับแกนนำแนวหน้าของขบวนการดังกล่าว

ส่วนกรณีที่ขบวนการดังกล่าวนำรูป นายศตวรรษ หรือ ภูมิ นักศึกษาร่วมสถาบันที่เสียชีวิต หลังถูกก่อเหตุยิงเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา ริมถนนจรัญสนิทวงศ์ และนำมาติดที่หน้าประตู คล้ายกับการเชิดชูผู้เสียชีวิต และปลูกเร้าให้ขบวนการฮึกเหิมในการแก้แค้นคู่อริ ซึ่ง

พล.ต.ต.ธีรเดช ระบุว่า เรื่องดังกล่าว ต้องแสดงความเสียใจกับครอบครัว โดยทางตำรวจไม่เคยบอกว่าผู้เสียชีวิตเป็นแกนนำของกลุ่มนี้แต่ถูกใช้มาเป็นเครื่องมือในการมาแก้แค้นคู่อริ พร้อมให้ความเป็นธรรม

ซึ่งคดีดังกล่าวและคดีอื่นขณะนี้ทางฝ่ายสืบสวน ได้รื้อคดีทั้งหมด ดังเช่นคดีบุกยิงกลางงานแต่งในพื้นที่ สน. สุทธิสาร เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี 65 เหตุยิง ซอยกำนันแม้น เดือนกรกฎาคม ปี 65 จะถูกนำกลับมาสืบสวนใหม่ทั้งหมด เบื้องต้นข้อมูลพบว่าทั้ง 3 คดีมีความเชื่อมโยงกันเนื่องจากพฤติการณ์ในการก่อเหตุมีลักษณะคล้ายกัน

ส่วนเรื่องประเด็นแม่ของ 1ผู้ต้องหา ไม่เชื่อว่าลูกชายของตนเองเป็นผู้ร่วมขบวนการ เพราะแค่แม่ด่าลูกยังร้องไห้แล้ว จึงอยากฝากถึงผู้ปกครองว่า อยากดูพฤติกรรมของลูกอย่างละเอียด ว่าลูกมีพฤติกรรมอย่างไรถึงมานั่งบ่นแคร่หรือเก้าอี้ไม้ และการจะถูกยกย่องเป็นถึงผู้นำในขบวนการดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่าย แสดงว่าต้องมีพฤติกรรมที่ทำให้ขบวนการดังกล่าวยกย่องเชื่อถือได้แต่แม่อาจจะไม่มีข้อมูลซึ่งยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ใส่ร้ายใคร

สำหรับรถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุที่ ใช้ก่อเหตุยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด หลังเกิดเหตุได้มีการเปลี่ยนสีเพื่อตบตาตำรวจใช้ในการหลบหนียังไม่พบแต่อยู่ระหว่างการสืบสวน

ส่วนที่เมื่อวานนี้มีเพื่อนของกลุ่มผู้ต้องหาในขบวนการดังกล่าวไปเยี่ยมที่ สน. ทุ่งมหาเมฆ อ้างว่าไม่ได้รู้จักกับขบวนการดังกล่าว แต่กลับให้ข้อมูลผ่านสื่อมวลชน มองว่า บุคคลดังกล่าวน่าจะรู้จักคนภายในและขบวนการนี้เป็นอย่างดี ดังนั้นตำรวจก็จะต้องมีการเชิญ มาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนอย่างแน่นอน

พร้อมขอบคุณชายคนดังกล่าวที่ออกมาระบุว่า ขอให้ "ดูหลักฐานต่อสู่ในชั้นศาล " เป็นคำพูดในลักษณะที่คล้ายคล้ายกับตำรวจไม่มีหลักฐานที่จะสามารถเอาผิด ขบวนการดังกล่าวได้นั้น จึงอยากบอกชายและขบวนการคนดังกล่าวว่าตำรวจมีพยานหลักฐาน 100 เปอร์เซ็นต์ที่จะแสดงต่อศาลเอาผิดได้อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงขอใช้คำพูดน้องคนเมื่อวาน "เด่วต้องไปดูกันที่ชั้นศาล"

นอกจากนี้การติดตามจับกุม นายวินและนายเลาะ รวมทั้งขบวนการที่เหลือ ตำรวจมีความมั่นใจว่าจะได้ผู้ต้องหาทั้งหมดมาดำเนินคดีอย่างแน่นอน

ส่วนรายละเอียดไม่ขอเปิดเผยเพราะคู่กรณีหรือกลุ่มผู้ต้องหา ก็ดูความเคลื่อนไหวของตำรวจอยู่

ส่วน 84 คนรู้เบาะแสทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด โดย พล.ต.ต.ธีรเดช ใช้สัญลักษณ์เพียง"ยิ้ม"ให้กับสื่อมวลชนว่า เป็นไปในทิศทางที่ดีและจะสามารถขยายผลทำลายเครือข่ายผู้ที่ร่วมสถาปนาองค์กรอาชญากรรมทั้งหมดได้



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/67WRBIA0QaA

คุณอาจสนใจ

Related News