ปทส.จับแก๊งลักลอบนำเข้าสัตว์ป่าข้ามชาติ ยึดสัตว์ป่า 17 ตัว เชื่อปลายทางไม่ได้อยู่ในไทย

ตำรวจ ปทส.จับกุมผู้ลักลอบนำเข้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ยึดสัตว์ป่า จำนวน 17 ตัว เตรียมขยายผล เชื่อปลายทางไม่ได้อยู่ในไทย พร้อมเตรียมที่อนุบาลให้สัตว์ป่า

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 ม.ค.2568 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส., นายชิดชนก สุขมงคล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ, นายสดุดี พันธุ์ภักดี ผู้อำนวยการกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่า และพืชป่าตามอนุสัญญา, นายพลวีร์ บูชาเกียรติ ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวกรองอาชญากรรมสัตว์ป่า และ Mr.James Markley คณะกรรมการความยุติธรรมเพื่อสัตว์ป่า พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงถึงการจับกุมผู้ลักลอบนำเข้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายจำนวน 4 คน พร้อมยึดสัตว์ป่า จำนวนทั้งสิ้น 7 ชนิด 17 ตัว

พล.ต.ต.วัชรินทร์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส. สืบสวนขยายผลคดีการจับกุมผู้ต้องหาลักลอบนำเข้ากอริลลา ที่ จ.นครศรีธรรมราช กระทั่งวันที่ 21 ม.ค. พบว่ามีการลักลอบขนส่งสัตว์ป่าจากต่างประเทศ ปลายทางไปยัง จ.นนทบุรี โดยได้ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย บริเวณพื้นที่ ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร จึงได้ดำเนินการตรวจสอบรถคันดังกล่าว พบผู้ที่อยู่ภายในรถ จำนวน 2 คน และสัตว์ป่ามีชีวิตซึ่งคาดว่าเป็นสัตว์ป่าผิดกฎหมาย คณะเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งให้บุคคลดังกล่าว ขับรถยนต์พร้อมสัตว์ป่าดังกล่าว มาตรวจพิสูจน์กับผู้เชี่ยวชาญของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรุงเทพมหานคร

ต่อมาวันที่ 22 ม.ค. ชุดเหยี่ยวดง ได้ร่วมกับกก.5 บก.ปทส. ตรวจสอบชนิดสัตว์ป่าภายในรถยนต์ดังกล่าว พบสัตว์ป่าคุ้มครอง ได้แก่ ชนิดชะนีมือขาว จำนวน 1 ตัว และชะนีดำใหญ่ จำนวน 2 ตัว และสัตว์ป่าควบคุมที่ต้องแจ้งการครอบครอง ได้แก่ ลิงอุรังอุตัง จำนวน 3 ตัว พร้อมทั้งได้ร่วมกันขยายผลไปยังสถานที่พักสัตว์ป่า ในพื้นที่บริเวณ ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พบสัตว์ป่าคุ้มครองเพิ่มเติม ได้แก่ พังพอน จำนวน 1 ตัว และนกปรอดหัวโขน จำนวน 1 ตัว พร้อมผู้ครอบครองสัตว์ป่าดังกล่าว จำนวน 1 คน

ในเวลาต่อมาคณะเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลไปยังบริเวณบ้านในพื้นที่ ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยเป็นบ้าน 2 หลัง ของนายกอล์ฟ และ นายอ๊อฟ ผู้ต้องหา ซึ่งทราบว่าเป็นที่พักสัตว์อีกแหล่งหนึ่ง จึงได้ร่วมกันตรวจสอบ พบสัตว์ป่าควบคุมที่ต้องแจ้งการครอบครอง ได้แก่ ลิงทามารินหัวสำลี จำนวน 7 ตัว และแพนด้าแดง จำนวน 2 ตัว พร้อมผู้ครอบครอง จำนวน 1 คน

คณะเจ้าหน้าที่ จึงได้ตรวจยึดจับกุมดำเนินคดี รวมทั้งสิ้นจำนวน 3 คดี และควบคุมผู้เกี่ยวข้องทั้งสิ้น จำนวน 4 คน เป็นผู้ต้องหา และรวมสัตว์ป่าที่ตรวจยึด จำนวนทั้งสิ้น 7 ชนิด 17 ตัว และจับกุม นำส่งพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อดำเนินตามคดีตามกฎหมาย ต่อไป

คาดว่าขบวนการเหล่านี้ลักลอบนำเข้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายด้วยเรือผ่านทางชายแดนภาคใต้ และส่งไปยังสถานที่ตามที่ได้รับออเดอร์ และเชื่อมั่นว่าปลายทางไม่ได้อยู่ในประเทศไทย จะมีการส่งต่อไปยังประเทศอื่นๆ อีก เนื่องจากราคามีการอัพขึ้นไปสูงมาก จาก 1 อาจกลายเป็น 20 ซึ่งส่วนหนึ่งที่เราสามารถสืบสวนได้มาจากผู้ต้องหามีการทำคอนเทนท์ประกาศขายสัตว์ป่านำเข้าแบบผิดกฎหมายผ่านทางเฟสบุ๊ก ทั้งนี้จะมีการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมถึงขบวนการดังกล่าว เพราะเชื่อว่าน่าจะเป็นขบวนการใหญ่

ด้านนายชิดชนก กล่าวว่า หลังจากนี้จะต้องเตรียมการ สถานที่อนุบาลไว้เพื่อรองรับสัตว์ป่าที่ตรวจยึดมาได้ จะมีการแยกประเภทวิสัยเพื่อให้เข้ากับสภาพพื้นที่ เบื้องต้นมีการเตรียมสถานที่ไว้ที่เขาประทับช้าง จ.ราชบุรี และในส่วนของแพนด้าแดงที่เป็นสัตว์เมืองหนาวนั้น อยู่ระหว่างการหาสถานที่เพื่อให้เหมาะสมกับแพนด้าแดง ทั้งนี้อยากให้มั่นใจว่าสัตว์ป่าที่อยู่ในความดูแลจะต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดีโดยเฉพาะในเรื่องสุขภาพ

ขณะที่ นายพลวีร์ กล่าวว่า เนื่องจากสัตว์ที่ถูกตรวจยึดมานั้น ไม่ได้อยู่ตามบัญชีของสัตว์ป่าสงวนทั้งหมด โดยปกติการนำเข้าต้องผ่านทางศุลกากรและด่านตรวจปศุสัตว์ และการสืบสวนเราจึงต้องมีการไปขอดูกล้องรวมถึงขอดูเอกสารนำเข้าส่งออกชิปปิ้ง และเอกสารอื่นๆ เพื่อตรวจสอบการนำเข้าส่งออกของคดีนี้ อีกทั้งทางเราก็ต้องมีการติดตามทางด่านชายแดนต่างๆ ด้วย