หญิงร้องถูกอดีตพยาบาลหลอกยืมเงิน 2 ล้าน อ้างต้องไปใช้หนี้ให้แม่ที่ติดการพนัน

(18 ก.ค.) เพจโหนกระแสมีการโพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งส่งเรื่องร้องเรียนเข้ามาว่า ถูกอดีตพยาบาลหลอกยืมเงินเกือบ 2 ล้านบาท อ้างต้องไปใช้หนี้ให้แม่ที่ติดการพนัน ผ่านมา 1 ปี ยังไม่ได้เงินคืน



โดยทีมข่าวเดินทางไปพบกับ น.ส.เจ (นามสมมติ) หญิงสาวผู้ร้องเรียน เล่าให่ฟังว่า ตนรู้จักกับอดีตพยาบาลสาวรายนี้เพราะอยู่ในกลุ่มขายของออนไลน์ด้วยกัน โดยอดีตพยาบาลรายนี้ได้มีการโพสต์ขายของเหมือนแม่ค้าออนไลน์ทั่วไป ซึ่งช่วงแรกตนได้สั่งซื้อสินค้าหลายรายการ ราคาประมาณหลักพัน เมื่อได้สินค้ามากลับพบว่า ของที่สั่นได้มาไม่ครบ จึงได้ทักท้วงไป จากนั้นก็มีการติดต่อซื้อของกันตามปกติ



มาระยะหลังๆ มีการพูดคุยกันผ่านแชตส่วนตัวมากขึ้น อดีตพยาบาลรายนี้ได้ทักมายืมเงิน ตอนแรกประมาณ 3-5 พันบาท ตนเห็นว่าไม่ได้มากมายอะไร ก็ยอมให้ยืมไป ซึ่งอดีตพยาบาลก็คืนเงินให้แต่อาจมีช้าไปบ้าง 1-2 วัน ตนคิดว่า ไม่ใช่ปัญหา



ต่อมาอดีตพยาบาลสาสรายนี้ก็ยืมเงินอีก สร้างเรื่องราวดรามาน่าสงสารทำให้ตนเห็นใจจึงยอมให้ยืมไปอีกเป็นหลักหมื่นจนถึงหลักแสน แรกๆ ตนก็เอาเงินของตัวเองให้ยืม แต่หลังๆตนบอกกับอดีตพยาบาลสาวรายนี้ว่า ไม่มีเงินแล้วต้องไปกู้ยืมมาให้ซึ่งดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 30 ทางอดีตพยาบาลสาวรายนี้ บอกว่ายอมรับได้เพราะจำเป็นต้องใช้เงินถ้าจะคิดดอกเบี้ยร้อยละ 50 ก็เอา



ตนก็ไปหาเงินมาให้จนได้ พอถึงกำหนดคืน เริ่มออกลายบ่ายเบี่ยง ผลัดวันไปเรื่อยและชอบอ้างว่า กำลังจะหมุนเงินด้วยการไปเล่นแชร์เพื่อหาเงินมาคืนตน แถมอ้างด้วยว่า เงินที่มายืมตนไปนั้นเอาไปใช้หนี้ให้แม่ที่ติดการพนัน และแม่ชอบเอาชื่อของตัวเองไปสร้างหนี้สร้างสินทำให้ตัวเองต้องมารับผิดชอบแทน ตนเองก็ใจอ่อนหลงเชื่อ แต่กลายเป็นว่า เขาไม่เอาเงินมาคืน รวบรวมยอดแล้วประมาณเกือบ 2 ล้านบาท



ตนและสามีเคยไปทวงหนี้ถึงที่ทำงานของอดีตพยาบาลสาวรายนี้ เป็น รพ.แห่งหนึ่ง ซึ่งหัวหน้างานของอดีตพยาบาลสาวรายนี้บอกว่า คนๆ นี้ลาออกไปแล้วและตนไม่ใช่คนแรกที่มาตามหา มาตามทวงหนี้แบบนี้ ทำให้ตนรู้ทันทีเลยว่า โดนหลอกแล้วแน่ๆ ตนจึงตัดสินใจไปแจ้งความไว้ที่ สน.อุดมสุข แต่ร้อยเวรบอกว่า พฤติกรรมลักษณะนี้ไม่เข้าข่ายฉ้อโกง เพราะมีการยืมเงินและมีการโอนคืนอยู่เป็นระยะ



ตอนนี้ตนไม่หวังจะพึ่งให้ตำรวจช่วย แต่พยายามหาทางฟ้องร้องจ้างทนายความเอง แต่พอไปหารือทนาย บางคนคิดค่าจ้างหลักแสนแล้วก็ไม่รู้ว่าฟ้องร้องทางแพ่งไปอดีตพยาบาลสาวรายนี้จะมีทรัพย์สินเงินทองมาชดใช้หรือไม่เพราะตนเคยไปตามหาถึงบ้านอดีตพยาบาลสาวรายนี้ที่ จ.ขอนแก่นเจอ แต่เพียงยายอายุ 80 ปี แล้วยายก็ยอมรับว่าอดีตพยาบาลสาวรายนี้เป็นหลานแต่ว่าหลานคนนี้หลอกเอาที่ดินของยายไปขายแล้วก็เชิดเงินหนีไปอยู่กรุงเทพฯไม่เคยกลับมาอีก



วันนี้ตนจึงตัดสินใจมาร้องเรียนสื่อฯ เพราะอยากให้เป็นอุทาหรณ์ อย่าให้ใครหลงเชื่อแบบตนอีก ใครจะว่าตนเชื่อคนง่ายตนก็ยอม เพราะตอนนั้นที่ตนยอมโอนให้ เขาเอาตำแหน่งหน้าที่การงานว่าเป็นพยาบาลมาหลอกตน ยื่นใบเอกสารที่ระบุเป็นพยาบาลจริง ซึ่งตนไปสืบมาแล้วว่าเป็นจริง แต่ตอนนี้หนีไปอยู่ที่ไหนแล้วตนไม่สามารถติดต่อได้ลึกๆ ตนก็หวังว่าจะได้เงินคืน