รวบหนุ่มเบี้ยวฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีดังขับปอร์เช่ชนสาวดับ เมื่อปี 2562

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.คงกฤช เลิศสิทธิกุล รรท.ผบก.ทล. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันจับกุม นายธีรเทพ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี ข้อหาความผิดฐาน “ความผิดต่อชีวิต ประมาท ความผิดต่อร่างกาย ประมาท ความผิดต่อ พ.ร.บ.จราจรทางบก” โดยจับกุมได้บริเวณหน้าบ้านพัก ในพื้นที่ ม.7 ต.หลักหก อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับการประสานจากเจ้าพนักงานตำรวจศาลประจำศาลจังหวัดปทุมธานี ว่า นายธีรเทพ อายุ 33 ปี ไม่ได้มาฟังคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีดังกล่าว ศาลจังหวัดปทุมธานีจึงได้ออกหมายจับผู้ต้องหา เจ้าพนักงานตำรวจประจำศาลจังหวัดปทุมธานี จึงขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ซึ่งคดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากอุบัติเหตุที่เป็นข่าวดังเมื่อปี 2562 กรณีผู้ขับขี่รถปอร์เช่ เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บริเวณถนนหลักหก อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจนกระทั่งทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยบริเวณบ้านพักในพื้นที่ ม.7 ต.หลักหก อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ พบชายไทยมีตำหนิรูปพรรณคล้ายผู้ต้องหาเดินอยู่บริเวณหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าแสดงตัว จากการสอบถามทราบชื่อคือ นายธีรเทพ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งศาลจังหวัดปทุมธานี เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย จากการสอบถามคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา


ในส่วนของคดีดังกล่าว ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกผู้ต้องหา 4 ปี ปรับ 60,000 บาท ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี ปรับ 30,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี คุมความประพฤติผู้ต้องหา 1 ปี ให้ผู้ต้องหาไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3 เดือนต่อครั้ง และให้ผู้ต้องหาทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรมีกำหนด 20 ชั่วโมง ให้ผู้ต้องหาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมที่ 1 จำนวน 2,035,225 บาท และให้ผู้ต้องหาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมที่ 2 จำนวน 1,509,000 บาท ​