อาชญากรรม

ส่งตัวเด็ก 14 มือกราดยิง เข้าสถานพินิจ เจอ 5 ข้อหาหนัก พยายามฆ่า จ่อดำเนินคดีผู้ปกครองด้วย

โดย petchpawee_k

5 ต.ค. 2566

206 views

ศาลเยาวชนให้ส่งตัวเด็กชาย 14 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงในห้างพารากอน ไปคุมตัวที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็ก กทม. ชี้การกระทำเป็นภัยร้ายแรง ไร้เงาผู้ปกครองมายื่นประกันตัว ตำรวจตั้ง 5 ข้อหาหนัก ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน / ครอบครองอาวุธปืน ส่วนกรมการแพทย์ แจงผู้ก่อเหตุรักษาตัวที่โรงพยาบาลเด็ก เตรียมส่งจิตแพทย์ดูแลผู้ได้รับผลกระทบ


วานนี้ (4 ต.ค.) เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ซึ่งถือเป็นสหวิชาชีพ ได้เดินทางมายังสน.ปทุมวัน เพื่อร่วมสอบปากคำเด็กวัย 14 ปี ที่ก่อเหตุยิงกราดภายในห้างสยามพารากอน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 5 ราย เมื่อวันที่ 3 ต.ค.



จากนั้น 11.25 น. หลังจาก พ.ต.ท.เจริญสิทธิ์ จงอิทธิ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ปทุมวัน.และเจ้าหน้าที่นักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์ ร่วมกันสอบปากคำเด็กชายอายุ 14 ปี โดยใช้เวลาสอบปากคำร่วมกันกว่า 2 ชั่วโมง พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวเด็กชายอายุ 14 ปี ผู้ก่อเหตุเพื่อนำตัวไปส่งฝากขังยังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง


 ในความผิดทั้งหมด 5 ข้อหา ได้แก่ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,พยายามฆ่า, มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต



ส่วนจะมีข้อหาอื่นๆ หรือไม่ อยู่ในระหว่างการหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม นอกจากนี้อยู่ในระหว่างสอบสวนด้วยว่า ผู้ปกครองจะเข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ ด้วยหรือไม่



โดยพนักงานสอบสวน ผู้ร้อง นำเยาวชนชายอายุ 14 ปี แสดงตัวต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พร้อมยื่นคำร้องตรวจสอบการจับกุมตัวหลังถูกจับภายใน 24 ชั่วโมง ตามขั้นตอน พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553



โดยศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ดำเนินการตรวจสอบการจับกุมแล้ว มีคำสั่งว่าศาลพิเคราะห์ข้อเท็จจริงจากการสอบผู้ร้องและตรวจเอกสารของผู้ร้องแล้ว เห็นว่าผู้ต้องหาเป็นผู้ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดจริง เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมพบผู้ต้องหาในขณะกระทำผิดจึงจับกุมตัวซึ่งเป็นความผิดซึ่งหน้า การจับเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าการปฏิบัติของเจ้าพนักงานตำรวจไม่ชอบด้วยกฎหมาย



ส่วนที่ขอให้ศาลส่งตัวผู้ต้องหาไปให้แพทย์จิตเวชสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพื่อรักษาจนกว่าผู้ต้องหาจะสามารถต่อสู้คดีได้นั้น พนักงานสอบสวนก็ไม่ได้นำแพทย์ผู้ทำความเห็นมาให้ศาลได้สอบถาม หรือไต่สวนให้ฟังได้ว่าผู้ต้องหามีอาการป่วยทางจิตจริง



 “ดังนั้นข้อเท็จจริง จึงยังไม่ยุติว่า ผู้ต้องหามีอาการป่วยทางจิตเวช และเนื่องจากการกระทำของผู้ต้องหาอาจเป็นภัยร้ายแรงต่อผู้อื่น จึงเห็นควรส่งตัวไปควบคุมไว้ในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และให้สถานพินิจฯ ดำเนินการตรวจสอบสภาพจิตใจของผู้ต้องหา ให้หมายควบคุมเว้นแต่มีประกัน” โดยเมื่อวานนี้ (4 ต.ค.) ไม่ปรากฏว่าผู้ปกครองยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวเยาวชน แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงส่งตัวเยาวชนไปยังสถานพินิจฯ ตามคำสั่งศาลแล้ว 


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/WXRUFiMjp6c

คุณอาจสนใจ