เค้นสอบผู้ต้องสงสัย คลี่คดี 4 คนร้ายอ้างเป็นตำรวจ อุ้มหญิงรีดเงิน 3 แสน

ตำรวจรวบหนุ่มเจ้าของรถเก๋งซีวิคสีขาว เค้นสอบกว่า 4 ชั่วโมง ยังให้การภาคเสธ คดีสาวใหญ่เมืองประจวบ ถูกกลุ่มคนร้าย 4 คน อ้างตัวเป็นตำรวจภาค 7 อุ้มตัวรีดเงิน 3 แสนบาท


จากกรณีที่ นางพัชรี หรือ หนู อายุ 48 ปี ชาวบ้านดอนเหียง ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกคนร้ายเป็นชาย 4 คน อุ้มขึ้นรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีสติ๊กเกอร์ตราโล่ ที่บริเวณกระจกหลัง ขณะกำลังเดินทางกลับจากส่งหลานสาวไปโรงเรียน และกำลังกลับเข้าบ้านพัก


คนร้าย 4 คน ปกปิดใบหน้าได้ขับรถปาดหน้า และข่มขู่ให้หยุดรถ ก่อนใช้หมวกไอ้โม่งคลุมศีรษะสองชั้น ใช้เคเบิ้ลไทด์รัดแขน ลากขึ้นเบาะหนังแถว 2 ของรถ โดยมีคนร้ายที่เหลือใช้ปืนจี้ศีรษะ ข้างละ 1 กระบอก ซึ่งคนร้ายอ้างตัวว่าเป็นตำรวจสืบสวนภูธรภาค 7 ผู้เสียหายถูกซัดทอดว่าพัวพันยาเสพติด 1,000 เม็ด นายให้มาเอาเงินจำนวน 300,000 บาท โดยถูกคุมตัวบนรถอยู่นานกว่า 13 ชั่วโมง สุดท้ายคนร้ายได้เงินไป 200,000 บาท กับแหวนทองสองสลึง 1 วง โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา


เมื่อวันที่ 24 ก.ย.66 พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เร่งคลี่คลายคดี กรณีสาวใหญ่เมืองประจวบ วัย 48 ปี ถูกอุ้มพร้อมเรียกเงินค่าไถ จำนวน 3 แสนบาท ซึ่งเป็นคดีใหญ่และอยู่ในความสนใจของประชาชน


โดยล่าสุด ชุดสืบสวนเมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมสืบสวนจังหวัด ได้ร่วมกันควบคุมตัว นายธาราพงษ์ คำบัวชา หรือ ต้น ม่องล่าย อายุ 33 ปี ชาวประจวบคีรีขันธ์ ตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2566 ในข้อหาร่วมกันกรรโชคทรัพย์ โดยมีอาวุธ และร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ร่วมกับพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร จากบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์


จากนั้นควบคุมตัวมาสอบสวนที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมกับรถยนต์ส่วนบุคคลต้องสงสัย เป็นรถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นซีวิค สีขาว ทะเบียน กธ8939 ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับรถยนต์ที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ โดยเบื้องต้นรถยนต์อยู่ในสภาพตัวถังรถใหม่ จากการล้างรถทำความสะอาดมาแล้ว


ทั้งนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจประจวบคีรีขันธ์ ได้เข้าตรวจหาหลักฐาน เก็บรอยนิ้วมือแฝง และ DNA ต่าง ๆ ภายในรถและนอกรถ จากนั้นนำส่งพิสูจน์สารพันธุกรรม (DNA) โดยเฉพาะบริเวณเบาะที่นั่ง ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พวงมาลัย และที่บริเวณแผงคอนโซลด้วย


โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้เวลาสอบสวน นายธาราพงษ์ นานกว่า 4 ชั่วโมง ซึ่งผู้ต้องสงสัยให้การภาคเสธ จึงส่งตัวให้พนักงานสอบสวน โดยมีทนายที่ได้รับการแต่งตั้งร่วมสอบปากคำด้วย จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายธาราพงษ์ เคยมีคดีทะเลาะวิวาทและคดียาเสพติดในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเคยต้องคำพิพากษาติดคุกเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มาก่อนหน้านี้


ทางด้าน พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี รวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดในสถานที่ต่าง ๆ ทั้งก่อนเกิดเหตุ ช่วงเวลาเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ ให้มากที่สุด เพื่อยืนยันความชัดเจน ว่ารถคันที่นำมาตรวจสอบกับรถในภาพกล้องวงจรปิดเป็นคันเดียวหรือไม่

พร้อมทั้งตรวจสอบช่องทางการสื่อสารว่า บุคคลดังกล่าวมีการติดต่อกับผู้เกี่ยวข้องรายใด เชื่อมโยงกับผู้เสียหาย หรือเชื่อมโยงกับกลุ่มที่กระทำความผิดหรือไม่ เนื่องจากเบื้องต้นผู้เสียหายระบุว่า มีผู้กระทำผิดทั้งหมด 4 คน

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ruc0GNdbsGw