รวบยกแก๊งเนตรนารีสาว รับทราบข้อกล่าวหาแต่งเครื่องแบบลูกเสือโดยไม่มีสิทธิ

ตำรวจสัตหีบรวบยกแก๊งเนตรนารีสาว รับทราบข้อกล่าวหาแต่งเครื่องแบบลูกเสือโดยไม่มีสิทธิ อ้างคิดธีมจัดวันเกิดก่อนเปรียบเทียบปรับ แล้วปล่อยตัวกลับ



จากกรณีโซเชียลในกลุ่ม Line โพสต์ภาพ พร้อมตั้งคำถาม “เสื่อม เด็กคาราโอเกะ แต่งเครื่องแบบเนตรนารี ยุวกาชาด ออกรับแขกล่อนักท่องราตรีในพื้นที่อำเภอสัตหีบ เข้าใช้บริการ ทำการศึกษามั่วหมอง วอนหน่วยงานที่รับผิดชอบ ตรวจสอบ มีผู้อยู่เบี้องหลังอ้างตัวเป็นคนสนิทนายตำรวจใหญ่ไม่กลัว” โดยในภาพจะเป็นผู้หญิงแต่งชุดเนตรนารีออกจากคาราโอเกะ เชิญชวนนักเที่ยวมาใช้บริการ โดยหลังมีการนำภาพลงในกลุ่มต่างมีการแสดงความคิดเห็นอย่างมากถึงความไม่เหมาะสมในการแต่งชุดเนตรนารีซึ่งถือว่าเป็นชุดนักเรียน ซึ่งทราบภายหลัง เป็นพนักงานร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ย่านตลาดทองทิพย์ ชุมชนเตาถ่าน พื้นที่ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ล่าสุด เมื่อเวลา 23.00 น. ของวันที่ 23 ส.ค. 66 พ.ต.อ.ปัญญา ดําเล็ก ผกก.สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรีได้สั่งการให้ตำรวจลงติดตามตัว กลุ่มเนตรนารี สาว ทั้งหมด จนพบตัวก่อนนำตัว มาสอบสวน ยัง สภ.สัตหีบ พร้อมรับทราบข้อกล่าวหา ตาม “พระราชบัญญัติลูกเสือ พ.ศ. 2551 ” บนกำหนดโทษ มาตรา 64 ผู้ใดแต่งเครื่องแบบลูกเสือ หรือประดับเครื่องหมายลูกเสือโดยไม่มีสิทธิเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ หรือแต่งกายเลียนแบบหรือประดับเครื่องหมายเพื่อให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่าตนเป็นลูกเสือหรือบุคลากรทางการลูกเสือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



โดย พ.ต.ท.สินสมุทร บุญทัศนา สารวัตรสอบสวน สภ. สัตหีบ ได้เปรียบเทียบปรับไป คนละ 100 บาท เนื่องจากเป็นความผิดครั้งแรก และโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยทั้งหมด เป็นสาวนั่งดริงก์ ภายในร้านคาราโอเกะ แห่งหนึ่ง ในพื้นที่สัตหีบ พร้อมกับแจ้งว่าหากพบว่ามีการกระทำผิดแบบนี้อีก จะต้องถูกดำเนินคดี ทั้งจำทั้งปรับ โดยไม่มีข้อยกเว้น



ด้าน นางสาว เอ (นามสมมุติ ) หนึ่งในสาวกลุ่มแต่งชึดเนตรนารี กล่าวว่า วันที่ใส่ชุดเนตรนารี คือวันศุกร์ ที่ 18 ส.ค.66 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเกิดของตน จึงได้คิดจัดธีมชุดเนตรนารี ในกลุ่มเพื่อนๆ น้องๆ ภายในร้าน ก่อนจะได้แต่งตัวกันมาร่วมสนุกสนานกันภายในร้าน ก่อนจะมีการถ่ายรูป และวีดีโอ และมีการนำเอาไปลงในโลกโซเชียลจนมีข่าวออกมาดังกล่าว ซึ่งตนไม่รู้ว่ามีความผิด ในการแต่งชุดเนตรนารี จึงกราบขอโทษสังคม และจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก